xs
xsm
sm
md
lg

ประธานสภาอุตสาหกรรมฉะเชิงเทราหวังรัฐบาลใหม่ทบทวนนโยบายปรับขึ้นค่าแรง-แก้ปัญหาไฟแพง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ฉะเชิงเทรา - ประธานสภาอุตสาหกรรม จ.ฉะเชิงเทรา หวังฐบาลใหม่เร่งแก้ปัญหาค่าไฟแพงที่กำลังส่งผลกระทบต้นทุนการผลิต รวมทั้งให้พิจารณาการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำใหม่ให้เป็นไปตามทักษะฝีมือ หวั่นเอื้อแรงงานต่างด้าว ขณะเดียวกัน ยังขอให้หาตลาดส่งออกสินค้าต่างๆ เพิ่มขึ้น
 
วันนี้ (28 พ.ค.) นายจิรทัศน์ แจ่มไพบูลย์ ประธานสภาอุตสาหกรรม จ.ฉะเชิงเทรา ได้กล่าวถึงสถานการณ์ทางการเมืองที่กำลังส่งผลต่อภาคอุตสาหกรรมของไทย โดยเฉพาะนโยบายเรื่องการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำที่พรรคการเมืองหลายพรรคใช้หาเสียงเลือกตั้งซึ่งจะทำให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้นในทันที และยังจะทำให้ภาคการลงทุนจากต่างประเทศชะลอตัว

“จากเดิมที่หลายประเทศกำลังเตรียมที่จะเข้ามาลงทุนในประเทศไทยหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายจากอัตราค่าแรงงานขั้นต่ำในปัจจุบันที่ยังพอรับได้ แต่เมื่อพรรคการเมืองที่ชนะการเลือกตั้งมีนโยบายในการปรับขึ้นค่าแรงอย่างเร่งด่วน หรือปรับพรวดเดียวในทันทีจะทำให้เกิดปัญหาตามมามากมาย”

โดยเฉพาะนโยบายดังกล่าวจะทำให้มีแรงงานต่างชาติหลั่งไหลเข้ามาในประเทศไทยทั้งที่ถูกต้องตามกฎหมายและไม่ถูกต้องอีกจำนวนมาก เนื่องจากได้รับอานิสงส์จากการประกาศปรับขึ้นค่าแรงดังกล่าว แต่สิ่งที่ผู้ประกอบชาวไทยต้องแบกรับคือค่าจ้างแรงงานที่สูงขึ้น

แรงงานต่างด้าวทะลักชายแดนไทย
ดังนั้น การปรับขึ้นค่าแรงจึงควรมีเงื่อนไขบางอย่างที่ช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถพัฒนาสินค้าได้ เช่น การปรับขึ้นค่าแรงตามความสามารถ และควรให้มีการหารือร่วมกันระหว่างนายจ้าง ลูกจ้าง และภาครัฐ ว่าค่าแรงที่เหมาะสมควรอยู่ในอัตราเท่าใดจึงจะทำให้ทุกฝ่ายสามารถเดินต่อไปได้

“การเข้ามาของแรงงานต่างด้าวจำนวนมากยังเป็นภาระของประเทศไทยที่ต้องให้การดูแลในด้านสาธารณสุข รวมถึงการเจ็บป่วยและคลอดบุตร ไม่นับรวมปัจจัยการผลิตที่ผู้ประกอบการต้องแบกรับเรื่องค่าไฟฟ้าที่แพงขึ้นอย่างหนักหน่วง จนทำให้สินค้าที่ส่งไปขายในตลาดเดียวกันสินค้าจากไทยไม่สามารถสู้สินค้าจากประเทศที่มีต้นทุนต่ำกว่าได้”

ประธานสภาอุตสาหกรรม จ.ฉะเชิงเทรา ยังกล่าวอีกว่า ปัจจุบัน จ.ฉะเชิงเทรา มีโรงงานอุตสาหกรรมอยู่ในพื้นที่มากกว่า 2 พันแห่ง และมีสัดส่วน GDP สูงเป็นลำดับต้นๆ ของประเทศ ซึ่งที่ผ่านมา สภาอุตสาหกรรมจังหวัดได้พยายามที่จะพัฒนาอุตสาหกรรมในพื้นที่ให้เป็นอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม หรืออุตสาหกรรมสีเขียว


วันนี้จึงอยากฝากวอนไปยังคณะรัฐบาลชุดใหม่ที่กำลังจะเข้าบริหารประเทศให้เร่งหาทางแก้ไขปัญหาค่าไฟแพง รวมทั้งจะต้องพิจารณาในเรื่องการปรับขึ้นค่าแรงที่มีความเหมาะสม และจะต้องพัฒนาแรงงานให้มีทักษะมีฝีมือที่ดีมากขึ้นเพื่อให้สามารถผลิตสินค้าสู่กับคู่แข่งในตลาดโลกได้ และยังขอให้รัฐบาลใหม่เร่งพัฒนาตลาดส่งออกใหม่ให้ผู้ผลิตด้วย ดูในเรื่องของการตลาด

เช่นเดียวกับการควบคุมสินค้านำเข้าโดยเฉพาะสินค้าจากประเทศจีน ที่มีต้นทุนการผลิตที่ต่ำกว่า โดยขอรัฐบาลแสวงหาความร่วมมือในการผลักดันให้ผู้ผลิตสินค้าในต่างประเทศใช้วัสดุที่ผลิตจากไทยเพื่อให้อุตสาหกรรมของไทยสามารถอยู่รอดได้
กำลังโหลดความคิดเห็น