เชียงใหม่ - สุดยอด! 3 เยาวชนคนรุ่นใหม่นักศึกษามหาวิทยาลัยศึกษาวิจัย “เห็ดเยื่อไผ่” อย่างจริงจังตั้งแต่เป็นโครงงานสมัยเรียนมัธยมศึกษา พบสารสำคัญเพิ่มความชุ่มชื่นและช่วยชะลอวัย ปิ๊งไอเดียทำเป็นเซรัมทาหน้าส่งเข้าประกวด ชนะรางวัลระดับประเทศในโครงการ GPSC Young Social Innovator และได้รับการสนับสนุนจาก สวทช.ต่อยอดพัฒนาทำเป็นผลิตภัณฑ์วางขายในท้องตลาดแล้วภายใต้ชื่อ “นวลลออ”
จากจุดเริ่มที่พบเจอ “เห็ดเยื่อไผ่” รูปร่างแปลกตาที่สวนหลังบ้าน ก่อให้เกิดความสงสัยและเป็นแรงบันดาลใจให้กลุ่มเพื่อนสนิท 3 คน ประกอบด้วย น.ส.ณัชชา จองมูลสุข หรือ “โมบาย” อายุ 19 ปี นักศึกษาคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล น.ส.รุ่งทิพย์ ถาโน หรือ “เบลล์” อายุ 19 ปี ที่กำลังรอเข้าเรียนมหาวิทยาลัย และนายญาณวรุฒม์ สุวรรณแพร่ หรือ “ฟาสท์” อายุ 20 ปี นักศึกษาคณะสัตวแพทย์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จับมือร่วมกันศึกษาเกี่ยวกับเห็ดเยื่อไผ่อย่างจริงจังตั้งแต่เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายของโรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่ เริ่มตั้งแต่การคิดหาวิธีหรือกระบวนการเพาะเลี้ยงให้มีความสมบูรณ์ แข็งแรง จนต่อมาได้มาศึกษาคุณสมบัติต่างๆ ของเห็ดเยื่อไผ่ ที่ถือว่าเป็นหนึ่งในเจ็ดของยาอายุวัฒนะที่จัดเป็นเมนูเสวยของฮ่องเต้ในราชวงศ์ชิงตามตำรายาจีน จนกระทั่งนำไปสู่การแปรรูปเห็ดเพื่อสร้างมูลค่าผลิตเป็นเซรัมทาหน้าคุณภาพดีออกวางขายในท้องตลาด
ทั้งนี้ ในช่วงที่ทำโครงงานตอนเรียนนั้น ทีมวิจัยทั้ง 3 คน พบว่า ภายในวุ้นของเห็ดเยื่อไผ่มีคุณสมบัติคล้ายเมือกหอยทากที่ให้ความชุ่มชื่น ช่วยชะลอวัย จึงเริ่มทำการทดลองนำมาขูดวุ้น ต้มและกวนเพื่อทำเป็นเซรัมทดลองใช้ทาบํารุงใบหน้าเป็นประจําเช้าเย็น หลังจากนั้นได้นำผลงานเข้าประกวดแข่งในโครงการ GPSC Young Social Innovator จัดขึ้นโดยบริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC แกนนำนวัตกรรมธุรกิจไฟฟ้าและพลังงานอัจฉริยะกลุ่ม ปตท. ซึ่งเป็นโครงการที่เปิดโอกาสให้เยาวชนได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ สิ่งประดิษฐ์ที่มุ่งแก้ปัญหาสังคม เศรษฐกิจ ทรัพยากรธรรมชาติหรือสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน เป็นต้นแบบที่ใช้งานได้จริง ซึ่งเซรัมเห็ดเยื่อไผ่นี้ได้รับรางวัลเหรียญทอง
ขณะที่ในเวลาต่อมา GPSC ได้เล็งเห็นศักยภาพและโอกาสในการต่อยอดสินค้าออกสู่ตลาด จึงได้ร่วมมือกับศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ ภายใต้สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) สนับสนุนการวิจัยและพัฒนาโดยใช้นาโนเทคโนโลยีช่วยพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น ในชื่อแบรนด์ “นวลลออ (NUALLOR) พร้อมได้พัฒนาโรงเรือนต้นแบบปลูกเห็ดเยื่อไผ่โดยใช้เทคโนโลยีเกษตรอัจฉริยะ หรือ Smart Farming บริเวณพื้นที่เขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EECi จังหวัดระยอง สู่การพัฒนาสารสกัดจากเห็ดเยื่อไผ่เพื่อใช้เป็นวัตถุดิบต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่ได้มาตรฐาน รวมถึงนำองค์วามรู้ทางด้านเทคโนโลยี นวัตกรรมมาปรับใช้ในการพัฒนาสารสกัดและผลิตภัณฑ์จากเห็ดเยื่อไผ่ให้แก่วิสาหกิจชุมชนของเกษตรกรผู้ปลูกเห็ดให้มีอาชีพและรายได้กระจายสู่ชุมชนต่อไป
โดยเซรัมเห็ดเยื่อไผ่แบรนด์ “นวลลออ” นั้นเพิ่งเปิดตัวผลิตและออกวางขายอย่างเต็มรูปแบบเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่านมา รวมระยะเวลาในการวิจัยพัฒนามานานกว่า 3 ปี ตั้งแต่ที่ทีมวิจัยเรียนอยู่ชั้นมัธยมปลาย จนกระทั่งปัจจุบันเข้าเรียนมหาวิทยาลัยแล้ว ถือเป็นการผลักดันต่อยอดนวัตกรรมสารสกัดจากเห็ดเยื่อไผ่สู่ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง ที่ทำให้ทีมวิจัยทั้ง 3 คนนี้ได้พัฒนาตนเอง และเรียนรู้สู่การเป็น Startup อย่างเต็มตัว
คุณสมบัติของเซรัมเห็ดเยื่อไผ่แบรนด์นวลลออนั้น เป็น Intensive Moisturizing Serum ใช้ทาบํารุงใบหน้าเป็นประจําเช้า-เย็น เป็นเซรัมที่ผสานพลังจาก Sodium Hyaluronate 3 ขนาดโมเลกุล และ Glycogen ที่มีคุณสมบัติช่วยลดการสูญเสียน้ำ เพิ่มความชุ่มชื่นและความยืดหยุ่นให้แก่ผิว ริ้วรอยแลดูลดลง ผิวดูเรียบเนียนนุ่มกระจ่างใสยิ่งขึ้น คืนชีวิตชีวา และผิวดูแข็งแรงสุขภาพดี นอกจากนี้ ยังมีการเติม Ceramide 3 โมเลกุล ที่ออกแบบพิเศษ สามารถกระจายตัวในชั้นของน้ำได้ดี ทำให้เนื้อสัมผัสของเซรัมตัวนี้มีความใส แต่สามารถมอบความชุ่มชื่นให้แก่ผิวได้เหมาะกับทุกสภาพผิว
สำหรับ “นวลลออ” ไม่ได้มีดีแค่คุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นแค่เพียงอย่างเดียว แต่เป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้เห็ดเยื่อไผ่และสร้างรายได้เสริมให้แก่ผู้เพาะเห็ดได้ด้วย เพราะในประเทศไทยขณะนี้ยังมีแหล่งปลูกเห็ดเยื่อไผ่ไม่มากนัก แต่ราคาขายหากเป็นดอกเห็ดสด มูลค่าสูงถึงกิโลกรัมละ 1,000 บาท ส่วนถ้าเป็นดอกอบแห้งคุณภาพดีอาจขายได้สูงถึงกิโลกรัมละ 5,000 บาท ปัจจุบัน Bamboo mushroom serum ภายใต้แบรนด์นวลลออ จัดจำหน่ายในราคาขวดละ 1,290 บาท และรายได้จากการขายร้อยละ 10 จะถูกส่งกลับไปพัฒนาในชุมชนต่อไป สำหรับผู้ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดและสั่งซื้อได้ผ่าน Facebook : Nuallaor Official หรือโทร.09-9313-9451, 09-3193-6171, 09-3310-8036
