ศูนย์ข่าวศรีราชา - สพกอ.เดินหน้ารับฟังเสียงประชาชน ครั้งที่ 1 เร่งศึกษาระบบขนส่ง Feeder เชื่อมต่อเข้าเมือง แหล่งธุรกิจ รองรับโครงการไฮสปีดเทรนเชื่อม 3 สนามบินในพื้นที่ EEC
วันนี้ (23 พ.ค.) สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ สกพอ. ได้จัดสัมมนารับฟังความคิดเห็นของประชาชน ครั้งที่ 1 หรือปฐมนิเทศโครงการหลังได้ทำการว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาทำโครงการศึกษาความเหมาะสมเบื้องต้นของระบบขนส่งสาธารณะที่เชื่อมโยงกับการพัฒนารถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบินกับการพัฒนาเมืองใหม่ในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC ณ โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ พัทยา อ บางละมุง จ.ชลบุรี
โดยมี นายวรวุฒิ มาลา ที่ปรึกษาพิเศษโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน เป็นประธานเปิดการประชุม
จุดประสงค์สำคัญเพื่อนำเสนอข้อมูลรายละเอียดโครงการ รวมทั้งขอบเขตการศึกษา แนวคิดในการพัฒนา และแผนการดำเนินงาน และเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมประชุมได้แสดงความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ โดยเฉพาะประเด็นความสนใจในการร่วมโครงการ โดยมีผู้แทนจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานราชการ และประชาชนเข้าร่วม
นายวรวุฒิ มาลา ที่ปรึกษา สพกอ.กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้ทำการศึกษาความเหมาะสมเบื้องต้นของระบบขนส่งสาธารณะที่เชื่อมโยงการพัฒนาโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ให้ควบคู่ไปกับการพัฒนาเมืองใหม่ในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก และระบบคมนาคมหลักของพื้นที่ EEC ได้แก่ โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) สนามบินอู่ตะเภา
และโครงการศูนย์ธุรกิจ EEC และเมืองใหม่อัจฉริยะ เพื่อกำหนดแนวเส้นทางและรูปแบบระบบขนส่งที่มีความเหมาะสม และตอบสนองความต้องการในการเดินทางของประชาชนอย่างแท้จริง
ขณะที่การจัดประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในครั้งนี้ เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมการประชุมได้ร่วมกันแลกเปลี่ยนแสดงความคิดเห็น และข้อเสนอแนะต่างๆ ทั้งในประเด็นรูปแบบของระบบขนส่งมวลชนรอบ แนวเส้นทางโครงการให้มีความสอดคล้องตรงกับความต้องการของประชาชนในพื้นที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมากที่สุด
สำหรับพื้นที่ศึกษาโครงการตั้งอยู่ในเขต ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี มีพื้นที่ประมาณ 14,619 ไร่ ถือเป็นจุดศูนย์กลางของการศึกษาโครงการ โดยจะศึกษาแนวเส้นทางที่เชื่อมโยงไปสถานีรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบินที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียง ได้แก่ สถานีศรีราชา สถานีพัทยา และสถานีอู่ตะเภา
โดยพื้นที่การศึกษาครอบคลุม 2 จังหวัด คือ จ.ชลบุรี รวม 3 อำเภอ ได้แก่ อ ศรีราชา บางละมุง และ อ.สัตหีบ และ จ.ระยอง 2 อำเภอ ได้แก่ อ.บ้านฉาง และ อ.นิคมพัฒนา
โครงการมีขอบเขตการดำเนินงานเป็น 3 ส่วน คือ ส่วนที่ 1 งานวิเคราะห์และศึกษาความเหมาะสมเบื้องต้นของระบบขนส่งสาธารณะขนาดรองที่เชื่อมโยงการพัฒนาโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน กับการพัฒนาเมืองใหม่ในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก
ส่วนที่ 2 คือ งานการประชาสัมพันธ์และการมีส่วนร่วมของประชาชน และงานส่วนที่ 3 การศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบื้องต้น (Initial Environmental Examination : IEE) ซึ่งขณะที่มีแนวคิดในการจัดทำ Tram Monorial หรืออื่นๆ โดยมีระยะเวลาในการศึกษาโครงการ 360 วัน
"ในอนาคตเมื่อเกิดการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนรองเพื่อเชื่อมต่อการเดินทางไปโครงการต่างๆ ในพื้นที่ EEC จะสร้างความสะดวกสบายในการเดินทางให้แก่ประชาชนในพื้นที่ ส่งเสริมการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ ลดการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล เกิดการพัฒนาที่ดินตามแนวเส้นทางของระบบขนส่งมวลชนและบริเวณโดยรอบสถานีที่เป็นชุมชนใหญ่ เพิ่มโอกาสทางธุรกิจจากความต้องการการบริโภคสินค้าและบริการของประชาชน และเกิดการกระจายความหนาแน่นออกจากศูนย์กลางทางเศรษฐกิจอีกด้วย"
และภายหลังการประชุมครั้งนี้ สกพอ.จะรวบรวมข้อมูลความคิดเห็น และข้อเสนอแนะจากผู้เข้าร่วมประชุมซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญในการพิจารณารูปแบบการพัฒนาโครงการที่เหมาะสมกับพื้นที่ และความต้องการของประชาชนให้มีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น
พร้อมทั้งจะดำเนินการจัดกิจกรรมการมีส่วนร่วมของประชาชนอย่างต่อเนื่องเพื่อรับฟังความคิดเห็นและประชาสัมพันธ์รายละเอียดข้อมูลโครงการไปสู่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และประชาชนในพื้นที่โครงการได้รับทราบข้อมูลที่ถูกต้องต่อไป
วันนี้ (23 พ.ค.) สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ สกพอ. ได้จัดสัมมนารับฟังความคิดเห็นของประชาชน ครั้งที่ 1 หรือปฐมนิเทศโครงการหลังได้ทำการว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาทำโครงการศึกษาความเหมาะสมเบื้องต้นของระบบขนส่งสาธารณะที่เชื่อมโยงกับการพัฒนารถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบินกับการพัฒนาเมืองใหม่ในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC ณ โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ พัทยา อ บางละมุง จ.ชลบุรี
โดยมี นายวรวุฒิ มาลา ที่ปรึกษาพิเศษโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน เป็นประธานเปิดการประชุม
จุดประสงค์สำคัญเพื่อนำเสนอข้อมูลรายละเอียดโครงการ รวมทั้งขอบเขตการศึกษา แนวคิดในการพัฒนา และแผนการดำเนินงาน และเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมประชุมได้แสดงความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ โดยเฉพาะประเด็นความสนใจในการร่วมโครงการ โดยมีผู้แทนจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานราชการ และประชาชนเข้าร่วม
นายวรวุฒิ มาลา ที่ปรึกษา สพกอ.กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้ทำการศึกษาความเหมาะสมเบื้องต้นของระบบขนส่งสาธารณะที่เชื่อมโยงการพัฒนาโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ให้ควบคู่ไปกับการพัฒนาเมืองใหม่ในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก และระบบคมนาคมหลักของพื้นที่ EEC ได้แก่ โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) สนามบินอู่ตะเภา
และโครงการศูนย์ธุรกิจ EEC และเมืองใหม่อัจฉริยะ เพื่อกำหนดแนวเส้นทางและรูปแบบระบบขนส่งที่มีความเหมาะสม และตอบสนองความต้องการในการเดินทางของประชาชนอย่างแท้จริง
ขณะที่การจัดประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในครั้งนี้ เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมการประชุมได้ร่วมกันแลกเปลี่ยนแสดงความคิดเห็น และข้อเสนอแนะต่างๆ ทั้งในประเด็นรูปแบบของระบบขนส่งมวลชนรอบ แนวเส้นทางโครงการให้มีความสอดคล้องตรงกับความต้องการของประชาชนในพื้นที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมากที่สุด
สำหรับพื้นที่ศึกษาโครงการตั้งอยู่ในเขต ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี มีพื้นที่ประมาณ 14,619 ไร่ ถือเป็นจุดศูนย์กลางของการศึกษาโครงการ โดยจะศึกษาแนวเส้นทางที่เชื่อมโยงไปสถานีรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบินที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียง ได้แก่ สถานีศรีราชา สถานีพัทยา และสถานีอู่ตะเภา
โดยพื้นที่การศึกษาครอบคลุม 2 จังหวัด คือ จ.ชลบุรี รวม 3 อำเภอ ได้แก่ อ ศรีราชา บางละมุง และ อ.สัตหีบ และ จ.ระยอง 2 อำเภอ ได้แก่ อ.บ้านฉาง และ อ.นิคมพัฒนา
โครงการมีขอบเขตการดำเนินงานเป็น 3 ส่วน คือ ส่วนที่ 1 งานวิเคราะห์และศึกษาความเหมาะสมเบื้องต้นของระบบขนส่งสาธารณะขนาดรองที่เชื่อมโยงการพัฒนาโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน กับการพัฒนาเมืองใหม่ในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก
ส่วนที่ 2 คือ งานการประชาสัมพันธ์และการมีส่วนร่วมของประชาชน และงานส่วนที่ 3 การศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบื้องต้น (Initial Environmental Examination : IEE) ซึ่งขณะที่มีแนวคิดในการจัดทำ Tram Monorial หรืออื่นๆ โดยมีระยะเวลาในการศึกษาโครงการ 360 วัน
"ในอนาคตเมื่อเกิดการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนรองเพื่อเชื่อมต่อการเดินทางไปโครงการต่างๆ ในพื้นที่ EEC จะสร้างความสะดวกสบายในการเดินทางให้แก่ประชาชนในพื้นที่ ส่งเสริมการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ ลดการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล เกิดการพัฒนาที่ดินตามแนวเส้นทางของระบบขนส่งมวลชนและบริเวณโดยรอบสถานีที่เป็นชุมชนใหญ่ เพิ่มโอกาสทางธุรกิจจากความต้องการการบริโภคสินค้าและบริการของประชาชน และเกิดการกระจายความหนาแน่นออกจากศูนย์กลางทางเศรษฐกิจอีกด้วย"
และภายหลังการประชุมครั้งนี้ สกพอ.จะรวบรวมข้อมูลความคิดเห็น และข้อเสนอแนะจากผู้เข้าร่วมประชุมซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญในการพิจารณารูปแบบการพัฒนาโครงการที่เหมาะสมกับพื้นที่ และความต้องการของประชาชนให้มีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น
พร้อมทั้งจะดำเนินการจัดกิจกรรมการมีส่วนร่วมของประชาชนอย่างต่อเนื่องเพื่อรับฟังความคิดเห็นและประชาสัมพันธ์รายละเอียดข้อมูลโครงการไปสู่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และประชาชนในพื้นที่โครงการได้รับทราบข้อมูลที่ถูกต้องต่อไป