xs
xsm
sm
md
lg

ผู้ว่าฯ ยกย่อง "ครูเพชร" กล้าหาญ-เตรียมดำเนินคดีครูแข้งโหด 2 ข้อหา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เชียงใหม่ - ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ชื่นชม “ครูเพชร” สุดกล้าหาญ แฉเรื่องราวความไม่ถูกต้องกรณีครูประเคนแข้งลงโทษเด็กและการเบิกจ่ายเงินบริจาคของโรงเรียนไปใช้อย่างไม่โปร่งใส เตรียมพิจารณามอบรางวัลยกย่อง พร้อมรับประกันดูแลความปลอดภัยเต็มที่ ขณะที่ ผกก.สภ.เชียงดาวเผยเตรียมแจ้งดำเนินคดีครูแข้งโหด 2 ข้อหา ทั้งทำร้ายร่างกาย และความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก โดยเบื้องต้นผู้ก่อเหตุยอมรับและพร้อมถูกดำเนินคดี ด้าน สพป.เชียงใหม่เขต 3 สั่งยกเลิกจ้างครูแข้งโหดแล้ว พร้อมเร่งสอบสวนกรณีเบิกจ่ายเงินบริจาคโรงเรียน ยืนยันทำตรงไปตรงมา ให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย


ความคืบหน้ากรณีนางสาวเพชรรัตน์ พันธุ์สุจริตไทย หรือ “ครูเพชร” ครูโรงเรียนบ้านแม่แมะ ตำบลแม่นะ อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ออกมาเปิดเผยเรื่องราวความไม่ถูกต้องที่เกิดขึ้นในโรงเรียนที่ตัวเองเป็นครูสอนอยู่ ทั้งกรณีที่ครูผู้ชายคนหนึ่งของโรงเรียนทำร้ายเด็กนักเรียนในความดูแลรุนแรงเกินกว่าเหตุด้วยการทำร้ายร่างกายเด็กนักเรียนชายที่มีอายุเพียงประมาณ 10 ขวบ ซึ่งมีคลิปหลักฐานขณะที่ลงมือก่อเหตุอย่างชัดเจน ระบุว่าเหตุเกิดเมื่อวันที่ 17 ม.ค. 66 ขณะเดียวกันเปิดโปงด้วยว่าผู้บริหารโรงเรียนมีการเบิกจ่ายเงินจากกองทุนที่มีผู้บริจาคให้โรงเรียนใช้ประโยชน์สำหรับกิจกรรมของนักเรียน นำไปใช้ผิดวัตถุประสงค์และเพื่อประโยชน์ส่วนตัวในทางไม่เหมาะสม ซึ่งทาง “ครูเพชร”ได้มีการเข้าร้องเรียนต่อสำนักงานป้องกันและปราบปรามทุจริตแห่งชาติ ภาค 5 แล้วนั้น

นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่
นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า รู้สึกชื่นชมในความกล้าหาญของ “ครูเพชร” เป็นอย่างยิ่ง ที่นำเรื่องราวความไม่ถูกต้องที่เกิดขึ้นออกมาเปิดเผย ซึ่งในส่วนที่อาจจะมีความหวั่นเกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัยจากการออกมาเปิดเผยเรื่องดังกล่าวนั้น ตัวเองยืนยันว่าจะช่วยดูแลเป็นอย่างดีและเต็มที่ไม่ให้ผู้ใดมาทำอะไรได้อย่างแน่นอน พร้อมทั้งเตรียมพิจารณามอบรางวัลเชิดชูความดีให้แก่ “ครูเพชร” ด้วย สำหรับคลิปภาพเหตุการณ์ที่ครูทำร้ายร่างกายเด็กนักเรียนที่ “ครูเพชร” นำมาเปิดเผยนั้น ตัวเองเห็นแล้วรู้สึกสะเทือนใจอย่างยิ่ง และได้สั่งการให้หน่วยงานเกี่ยวข้องตรวจสอบข้อเท็จจริงพร้อมให้การช่วยเหลือเยียวยาเด็กทันทีที่ทราบเรื่อง

ทั้งนี้ ในส่วนของการทำร้ายร่างกายเด็กนั้น ขณะนี้ทางสถานีตำรวจภูธรเชียงดาวได้เข้าไปทำการสอบสวนกรณีที่เกิดขึ้นแล้ว พร้อมดำเนินการตามกฎหมาย ขณะที่ครูที่ก่อเหตุนั้นได้มีคำสั่งเลิกจ้างไปแล้ว ส่วนประเด็นความไม่โปร่งใสเกี่ยวกับการเบิกจ่ายเงินบริจาคของโรงเรียนนั้น ทางสำนักงานเขตพื้นที่ประถมศึกษาเชียงใหม่เขต 3 ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบแล้ว ซึ่งต้องพิจารณาตามหลักฐาน หากพบว่ามีการกระทำความผิดต้องดำเนินการลงโทษตามกฎระเบียบ โดยยืนยันว่าการดำเนินการต้องทำอย่างตรงไปตรงมาและอยู่บนหลักการความถูกต้องให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย ซึ่งขอให้เชื่อมั่น เพราะเรื่องนี้มีการร้อง ป.ป.ช.ให้เข้ามาตรวจสอบด้วย

พันตำรวจเอก เสกสรร ขันคำนันต๊ะ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเชียงดาว
ด้านพันตำรวจเอก เสกสรร ขันคำนันต๊ะ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเชียงดาว เปิดเผยว่า ขณะนี้เตรียมแจ้งดำเนินคดีต่อครูผู้ชายที่ก่อเหตุใน 2 ข้อหา ได้แก่ ทำร้ายร่างกาย และความผิดตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก โดยเบื้องต้นมีเด็กที่เป็นผู้เสียหายจำนวน 2 คน ซึ่งคนแรกได้เข้าพบแพทย์เพื่อทำการตรวจร่างกายแล้วเมื่อวานนี้ และอีกคนหนึ่งจะเข้าตรวจร่างกายในวันนี้ พร้อมทั้งมีการนัดทีมสหวิชาชีพทำการสอบปากคำผู้เสียหายในวันพรุ่งนี้ (24 พ.ค. 66) โดยต้องใช้ล่ามภาษาลาหู่ในการช่วยสื่อสาร เนื่องจากเด็กนักเรียนผู้เสียหายเป็นเด็กนักเรียนชาติพันธุ์

ส่วนทางผู้ก่อเหตุนั้น ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเชียงดาวเปิดเผยว่า จากการพูดคุยกับทางครูผู้ชายที่ก่อเหตุตามคลิปหลักฐานนั้น เบื้องต้นยอมรับว่าก่อเหตุจริงเนื่องจากต้องการลงโทษและสั่งสอนเด็กนักเรียนที่ไปก่อเหตุลักขโมย แต่ทำรุนแรงเกินกว่าเหตุ และรู้สึกเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยที่ผ่านมาได้ขอโทษเด็กและครอบครัวไปแล้ว ตั้งแต่ที่เกิดเหตุช่วงเดือน ม.ค. 66 และใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันตามปกติเรื่อยมาจนกระทั่งมีการนำเรื่องราวมาเปิดเผย ซึ่งทางผู้ก่อเหตุบอกว่ารับผิดและพร้อมที่จะถูกดำเนินคดี รวมทั้งยืนยันว่าไม่เคยก่อเหตุรุนแรงต่อเด็กนักเรียนมาก่อนนอกจากครั้งนี้เพียงครั้งเดียว อย่างไรก็ตามตำรวจจะดำเนินการสืบสวนต่อไป

นางจิราพร เชาว์ประยูร ยามาโมโต้ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเชียงใหม่
ขณะที่นางจิราพร เชาว์ประยูร ยามาโมโต้ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ทาง พม.เชียงใหม่ได้เข้าให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่ตั้งแต่แรกที่ทราบเรื่อง ทั้งในส่วนของผู้ที่เปิดเผยเรื่องราวและเด็กนักเรียนที่ตกเป็นผู้เสียหาย โดยในส่วนของเด็กนักเรียนนั้น ขณะนี้ได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด ได้มีการส่งนักจิตวิทยาและเจ้าหน้าที่เข้าให้การช่วยเหลือดูแลเยียวยาสภาพจิตใจ พร้อมมีการจัดเตรียมล่ามภาษาลาหู่ในการช่วยสื่อสารพูดคุยด้วย โดยเฉพาะในการสอบถามข้อมูลและรายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อเยียวยาจิตใจและเป็นข้อมูลสำหรับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการดำเนินคดีด้วย ซึ่งนอกจากเด็กนักเรียนผู้เสียหาย 2 คนที่เข้าให้ปากคำต่อตำรวจแล้ว เวลานี้กำลังประสานเด็กนักเรียนที่เป็นผู้เสียหายอีก 1 คน ตามคลิป เข้าให้ปากคำต่อตำรวจ รวมเป็นผู้เสียหายรายที่ 3

นางสาวกิรณา โนนสินชัย รองศึกษาธิการจังหวัดเชียงใหม่
ด้านนางสาวกิรณา โนนสินชัย รองศึกษาธิการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวถึงประเด็นความไม่โปร่งใสเกี่ยวกับการเบิกจ่ายเงินบริจาคของโรงเรียนว่า แม้เงินดังกล่าวจะเป็นเงินที่ทางโรงเรียนได้รับบริจาคมา แต่การเบิกจ่ายและนำไปใช้ต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบข้อกำหนดของกรมบัญชีกลางเหมือนกับเงินงบประมาณทุกประการ ดังนั้นหากตรวจสอบพบว่ามีการเบิกจ่ายและนำไปใช้ไม่ถูกต้องตามกฎระเบียบข้อบังคับก็มีความผิดต้องถูกพิจารณาลงโทษ ซึ่งขณะนี้ทางสำนักงานเขตพื้นที่ประถมศึกษาเชียงใหม่เขต 3 ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบแล้ว

นายอภิรมย์ ผิวละออ รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่ประถมศึกษาเชียงใหม่เขต 3
ขณะเดียวกัน นายอภิรมย์ ผิวละออ รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่ประถมศึกษาเชียงใหม่เขต 3 เปิดเผยว่า จากกรณีที่เกิดขึ้นได้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงและลงพื้นที่ตั้งแต่ที่ทราบเรื่อง โดยในส่วนของครูที่ทำร้ายร่างกายเด็กนั้น เบื้องต้นให้การยอมรับและได้มีการยกเลิกสัญญาจ้างไปแล้ว ส่วนกรณีเรื่องการเบิกจ่ายเงินบริจาคของโรงเรียนนั้น กำลังอยู่ระหว่างการสอบสวนข้อเท็จจริงและตรวจสอบหลักฐานการเบิกจ่ายต่างๆ อย่างละเอียด ยืนยันว่าหากพบความผิดต้องดำเนินการลงโทษและให้ความเป็นธรรมต่อทุกฝ่ายอย่างแน่นอน สำหรับคำสั่งให้ “ครูเพชร” ไปช่วยราชการที่ สพป.เชียงใหม่เขต 3 นั้น ย้ำว่าไม่ได้เป็นการสั่งย้ายหรือเป็นการลงโทษ แต่เป็นเหตุผลในเรื่องความปลอดภัย












กำลังโหลดความคิดเห็น