xs
xsm
sm
md
lg

ครูสาวบุกร้อง ป.ป.ช.แล้วหลังแฉเด็ก นร.ถูกลงโทษด้วยลำแข้ง-ผู้บริหาร ร.ร.ส่อทุจริตเบิกจ่ายเงิน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เชียงใหม่ - ครูสาวโรงเรียนเชียงดาว พร้อมเจ้าหน้าที่ พม.นำหลักฐานเข้ายื่นคำร้อง ป.ป.ช.ภาค 5 ตรวจสอบผู้บริหารโรงเรียนและครูเกี่ยวข้องกรณีเบิกจ่ายเงินกองทุนเด็กด้อยโอกาสนำไปใช้จ่ายผิดวัตถุประสงค์ ทั้งบินไปภูเก็ต และเที่ยวคาราโอเกะที่แม่สาย รวมทั้งกรณีใช้อำนาจหน้าที่ไม่ถูกต้องรับครูเข้าทำงานและการทำร้ายร่างกายเด็กนักเรียน โดยครูสาวเผยยังรู้สึกไม่ปลอดภัยและไม่มั่นใจความเป็นธรรม แต่พร้อมสู้ถึงที่สุดเพื่อความถูกต้องและทำให้ความจริงปรากฏ แม้ต้องลาออกหรือถูกไล่ออกจากราชการ


ความคืบหน้ากรณีนางสาวเพชรรัตน์ พันธุ์สุจริตไทย ครูโรงเรียนบ้านแม่แมะ ตำบลแม่นะ อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ออกมาเปิดเผยเรื่องราวความไม่ถูกต้องที่เกิดขึ้นในโรงเรียนที่ตัวเองเป็นครูสอนอยู่ ทั้งกรณีที่ครูผู้ชายคนหนึ่งของโรงเรียนทำร้ายเด็กนักเรียนในความดูแลรุนแรงเกินกว่าเหตุด้วยการทำร้ายร่างกายเด็กนักเรียนชายที่มีอายุเพียงประมาณ 10 ขวบ ซึ่งมีคลิปหลักฐานขณะที่ลงมือก่อเหตุอย่างชัดเจน ระบุว่าเหตุเกิดเมื่อวันที่ 17 ม.ค. 66 

ขณะเดียวกันเปิดโปงด้วยว่าครูในโรงเรียนมีการเบิกจ่ายเงินจากกองทุนที่มีผู้บริจาคให้โรงเรียนใช้ประโยชน์สำหรับกิจกรรมของนักเรียน นำไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ ทั้งการเบิกนำไปใช้เป็นค่าเดินทางด้วยเครื่องบิน รวมทั้งค่าที่พัก ค่าอาหารและค่าเหมารถ เพื่อไปส่งผู้บริหารเขตพื้นที่การศึกษาที่ย้ายไปจังหวัดภูเก็ต เป็นเงินกว่า 37,000 บาท นอกจากนี้มีการเบิกจ่ายเงินเพื่อไปซื้ออุปกรณ์โซลาร์เซลล์ ที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย แต่ปรากฏว่ามีการนำไปใช้กินเลี้ยงสังสรรค์กินดื่มเที่ยวคาราโอเกะเป็นจำนวนเงินถึง 15,000 บาทนั้น

วันนี้ (22 พ.ค.) ที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ภาค 5 (ป.ป.ช.ภาค 5) อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ นางสาวเพชรรัตน์ พันธุ์สุจริตไทย ครูโรงเรียนบ้านแม่แมะ และนางสาววิรัชดา ปิงเมือง นักสังคมสงเคราะห์บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดเชียงใหม่ นำข้อมูลหลักฐานเข้าร้องเรียน เพื่อให้ตรวจสอบและดำเนินคดีต่อครูที่เกี่ยวข้องกับการเบิกจ่ายเงินกองทุนของโรงเรียนไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ รวมทั้งกรณีทำร้ายเด็ก จำนวน 3 คน ได้แก่ ครูที่เป็นรักษาการผู้อำนวยการโรงเรียน, ครูที่เป็นรองผู้อำนวยการอันดับที่ 1 และครูที่ทำร้ายเด็กนักเรียน 

นางสาวเพชรรัตน์เปิดเผยว่า นำหลักฐานยื่นคำร้องต่อ ป.ป.ช.ในครั้งนี้เพื่อให้ตรวจสอบเนื่องจากเห็นว่ากรณีที่เกิดขึ้นเป็นความผิดชัดเจน เพราะเงินกองทุนของโรงเรียนที่มีอยู่ประมาณ 200,000 บาท ถูกผู้บริหารโรงเรียนใช้อำนาจเบิกจ่ายไปใช้อย่างไม่ถูกต้องจนเหลือเพียงประมาณ 30,000 บาทเท่านั้น ซึ่งแม้ครูผู้น้อยที่ทำหน้าที่ดูแลการเงินจะเห็นว่าไม่ถูกต้องและไม่ได้มีส่วนร่วมด้วย แต่จำเป็นต้องทำตามคำสั่งผู้บังคับบัญชา นอกจากนี้ อยากให้ตรวจสอบความถูกต้องโปร่งใสเกี่ยวกับการใช้อำนาจหน้าที่ในการรับครูที่ก่อเหตุทำร้ายเด็กนักเรียนเข้าทำงาน และกรณีการทำร้ายเด็กด้วย


ทั้งนี้ นางสาวเพชรรัตน์บอกว่า หลังจากที่ออกมาเปิดโปงเรื่องที่เกิดขึ้นยอมรับว่ายังรู้สึกหวาดกลัวว่าจะไม่ปลอดภัยและไม่ได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากรักษาการผู้อำนวยการโรงเรียนนั้นมักจะอ้างอยู่เสมอว่ามีความสนิทสนมใกล้ชิดอย่างมากกับผู้บริหารเขตพื้นที่การศึกษาและยังไม่เห็นมีการออกคำสั่งการใดๆ ที่ชัดเจนเพื่อตรวจสอบ เช่น ย้ายผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดออกนอกพื้นที่เพื่อสอบสวน เป็นต้น ทำให้หลังจากที่ตัวเองออกมาเปิดเผยเรื่องราวแล้วไม่กล้ากลับเข้าพื้นที่ไปสอนหนังสือและขาดราชการ ซึ่งหากขาดเกิน 15 วันก็คงต้องออกจากราชการ 

ขณะเดียวกัน ผู้บริหารของเขตพื้นที่การศึกษาได้มีการติดต่อมาพูดคุยเจรจาว่าจะย้ายตนไปช่วยราชการที่กระทรวงศึกษาธิการที่กรุงเทพฯ ที่เป็นบ้านเกิดตนเองเพื่อแลกกับการยุติเรื่องทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าที่ตนออกมาเปิดเผยนั้นไม่ใช่เพราะต้องการย้าย แต่เป็นเพราะต้องการทำสิ่งที่ถูกต้อง โดยพร้อมที่จะลาออกหรือโดนให้ออกจากราชการ หากสามารถทำให้ความจริงและความถูกต้องปรากฏ

ด้านนางสาววิรัชดา ปิงเมือง นักสังคมสงเคราะห์บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ขณะนี้ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเชียงใหม่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ทันทีหลังจากทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้น พร้อมให้การช่วยเหลือเด็กนักเรียนของโรงเรียนนำมาอยู่ในความดูแลอย่างปลอดภัยแล้ว และเข้าสู่กระบวนการให้ความช่วยเหลือต่างๆ ทั้งสภาพจิตใจและการดำเนินการตามกฎหมายต่อผู้ที่ก่อเหตุทำร้ายเด็ก

รายงานข่าวแจ้งว่า วันนี้ (22 พ.ค. 66) หลังจากที่นางสาวเพชรรัตน์เข้ายื่นคำร้องที่ ป.ป.ช.ภาค 5 แล้ว จะเดินทางไปยื่นคำร้องที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ ภาค 5 จังหวัดเชียงใหม่ ต่อไป ขณะที่ พลตำรวจเอก ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ สั่งการให้พันตำรวจเอก เสกสรรค์ ขันคำนันต๊ะ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเชียงดาว นัดพนักงานสอบสวน พร้อมเชิญผู้ปกครอง และเด็กผู้เสียหาย มาพบที่สถานีตำรวจภูธรเชียงดาวในเวลา 10.00 น.วันนี้ เพื่อสอบสวนข้อเท็จจริง ซึ่งหากผู้เสียหายประสงค์จะดำเนินคดีจะได้นัดทีมสหวิชาชีพเพื่อร่วมสืบสวนสอบสวนที่ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ต่อไป




กำลังโหลดความคิดเห็น