ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - “สุวัจน์” ทิ้งไพ่ใบสุดท้าย นำ “เทวัญ” น้องชาย และผู้สมัครฯ ส.ส.พรรคชาติพัฒนากล้า ขึ้นรถแห่ปราศรัยรอบเมืองโคราชสลับเดินหาเสียงและเปิดปราศรัยย่อยในช่วงโค้งสุดท้าย มั่นใจคว้าที่นั่ง ส.ส.เมืองย่าโม หลังพรรคก้าวไกลและเพื่อไทยกระแสนิยมพุ่งแรงขึ้นทุกวัน
วันนี้ (10 พ.ค.) นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า (ชพนก.) ทิ้งไพ่ใบสุดท้าย นำนายเทวัญ ลิปตพัลลภ เลขาธิการพรรคชาติพัฒนากล้า และผู้สมัคร ส.ส.เขตเลือกตั้งที่ 1 นครราชสีมา หมายเลข 5, นายวัชรพล โตมรศักดิ์ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 นครราชสีมา หมายเลข 6 และผู้สมัครฯ ในเขตอื่นๆ ของพรรคชาติพัฒนากล้า ขึ้นรถแห่ปราศรัยรอบเมืองโคราชในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนถึงวันเลือกตั้ง 14 พฤษภาคมนี้ ท่ามกลางสายฝนที่โปรยปราย และการต้อนรับจากประชาชน พ่อค้าแม่ค้าสองฝั่งถนนในเขตเทศบาลนครนครราชสีมาเป็นจำนวนมาก
นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวว่า เรายังคงนำเสนอนโยบายแก้ปัญหาต่างๆ ทุกด้านของพรรคชาติพัฒนากล้าให้ประชาชนได้ตัดสินใจ และมีความมั่นใจว่าผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค ชพนก.จะได้รับความไว้วางใจจากประชาชนเลือกตั้งให้เข้าไปทำงานตามที่ได้สัญญาเอาไว้ ส่วนจะได้ ส.ส.กี่ที่นั่งมีอยู่ในใจแล้ว แต่ต้องรอดูวันเลือกตั้ง 14 พฤษภาคมนี้อีกที ซึ่งช่วงโค้งสุดท้ายก่อนเลือกตั้งเราจะใช้วิธีขึ้นรถแห่ปราศรัยสลับกับเดินหาเสียง และจัดปราศรัยย่อย จนถึงสิ้นสุดเวลาหาเสียงตามที่กฎหมายกำหนด
โดยเน้นชูนโยบายพัฒนาโคราช-อีสานระเบียงเศรษฐกิจใหม่ สร้างงานดี มีเงิน ของไม่แพง โคราชเมืองคมนาคมที่ทันสมัย น้ำไม่ท่วม ไม่แล้ง น้ำประปาเพียงพอ มอเตอร์เวย์ทั่วไทยทุกทิศ การเพิ่มนักท่องเที่ยว 80 ล้านคนเพื่อสร้างรายได้เข้าประเทศ 5 ล้านล้านบาท ปรับโครงสร้างพลังงาน ลดค่ากลั่นน้ำมันลงลิตรละ 5 บาท เพื่อให้ค่าครองชีพของประชาชนลดลง เป็นต้น ซึ่งพรรคชาติพัฒนากล้ามีความมั่นใจว่าการนำเสนอนโยบายของพรรคฯ สามารถตอบโจทย์แก้ปัญหาของประชาชนได้จริง
ส่วนเรื่องกระแสนิยมของบางพรรค เช่น พรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทย ที่กระแสพุ่งสูงขึ้นทุกวัน ตรงนี้เชื่อว่าทุกพรรคต่างทำงานกันอย่างเต็มที่ ซึ่งจุดยืนของพรรคชาติพัฒนากล้าเคารพเสียงข้างมาก ยังคงสนับสนุนพรรคการเมืองที่ได้เสียง ส.ส. มาเป็นอันดับหนึ่ง ได้จัดตั้งรัฐบาล ให้เป็นไปตามกติกา เพราะต้องการสร้างบรรยากาศทางการเมืองที่ดีให้แก่ประเทศไทย ทำให้เป็นการเมืองที่พี่น้องประชาชนสบายใจ การเมืองไม่ขัดแย้ง และให้เกียรติพรรคที่มีคะแนนเสียง ส.ส.มาเป็นอันดับ 1 เมื่อได้เสียงเลือกตั้งจากประชาชนมาเป็นอันดับ 1 ก็ควรได้จัดตั้งรัฐบาล วอนทุกฝ่ายให้ยอมรับกติกาตามครรลองของระบอบประชาธิปไตย เพราะเป็นฉันทามติของประชาชน