“สุวัจน์” หนุนพรรคชนะอันดับ 1 ตั้งรัฐบาล เว้นรวมเสียงไม่ถึงครึ่ง ยัน “ชาติพัฒนากล้า” จับมือได้กับทุกขั้ว วอน “กกต.” จับตาการซื้อเสียง หวั่นมีผลกระทบกับความเชื่อมั่นผลเลือกตั้ง
วันนี้ (28 เม.ย.) ที่ จ.นครราชสีมา พรรคชาติพัฒนากล้า นำโดย นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า และแคนดิเดตนายกฯ, นายเทวัญ ลิปตพัลล เลขาธิการพรรค ฐานะผู้สมัคร ส.ส.นครราชสีมา เขต 1 พร้อมด้วย ผู้สมัคร ส.ส.นครราชสีมา ทั้ง 16 เขต และแกนนำพรรค ร่วมจัดเวทีปราศรัยใหญ่ เวทีที่ 3 ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ที่ลานหน้าศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา
โดยก่อนการขึ้นเวทีปราศรัย นายสุวัจน์ พร้อมผู้สมัคร ส.ส.พรรคชาติพัฒนากล้า เข้าสักการะอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) และเสด็จพ่อ ร.5 เพื่อความเป็นสิริมงคล และได้เดินทักทายประชาชนที่มารอฟังการปราศรัย ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก
ทั้งนี้ นายสุวัจน์ ให้สัมภาษณ์ว่า บรรยากาศของการหาเสียงเลือกตั้งมีความคึกคัก และตนประเมินว่า การเลือกตั้งรอบนี้ประชาชนให้ความคาดหวังไว้สูง ต้องการการแก้ปัญหาโดยเฉพาะปัญหาด้านเศรษฐกิจ ดังนั้น พรรคชาติพัฒนากล้าจึงมีนโยบายเพื่อที่จะแก้ไข อย่างไรก็ดี ในช่วงโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้งตนกังวลต่อการซื้อสิทธิขายเสียง ดังนั้น คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่มีหน้าที่กำกับดูแลการเลือกตั้งต้องทำหน้าที่ของตนเองให้เต็มที่ เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นในผลเลือกตั้งและการเลือกตั้งมีความชอบธรรม อีกทั้งการใช้เงินซื้อเสียง ตนมองว่าทำให้ไม่ได้ผู้แทนตามระบอบประชาธิปไตย
“ที่ผ่านมา การเมืองมีปัญหา ดังนั้น รัฐบาลใหม่ คือ ความคาดหวังของประชาชน ส่วนที่ขณะนี้การหาเสียงโค้งสุดท้ายพบการแย่งเสียงแยกขั้วนั้น ผมมองว่า เป็นธรรมดา แต่ขออย่าให้เกิดความขัดแย้ง เพราะความขัดแย้งนั้นแก้ปัญหาไม่ได้” นายสุวัจน์ กล่าว
เมื่อถามถึงจุดยืนของพรรคชาติพัฒนากล้า ในการจับมือร่วมรัฐบาล นายสุวัจน์ กล่าวว่า ขณะนี้พรรคยังไม่ได้หารือหรือคุยกับใคร แต่พรรคพร้อมสนับสนุนพรรคการเมืองที่ได้รับเลือกตั้งจากประชาชนมาเป็นอันดับหนึ่ง เพราะถือว่าได้รับฉันทามติจากประชาชน และตามประเพณีการเมืองพรรคที่ได้รับเลือกตั้งเป็นอันหนึ่งควรได้สิทธิในการจัดตั้งรัฐบาลก่อน ดังนั้น ตนจึงต้องการสร้างความเชื่อมั่น และความชอบธรรมทางการเมืองตามกติกา
“เมื่อพรรคที่ชนะเลือกตั้งมาเป็นอันดับหนึ่ง เท่ากับได้รับฉันทามติจากประชาชน จึงควรได้รับสิทธิในการฟอร์มรัฐบาล และรวบรวมเสียงที่เพียงพอตามรัฐธรรมนูญ ถือว่าเป็นความสะดวกต่อการจัดตั้งรัฐบาล ยกเว้นพรรคที่หนึ่งรวบรวมเสียงได้ไม่ถึงครึ่ง บ้านเมืองจะเกิดทางตันไม่ได้ ต้องให้พรรคที่ได้เสียงลำดับถัดไปดำเนินการ ถือเป็นแนวทางปฏิบัติที่ผ่านมา” นายสุวัจน์ กล่าว
เมื่อถามย้ำว่า โพลตอนนี้ชี้ว่า พรรคเพื่อไทย จะเป็นอันดับหนึ่ง พรรคพร้อมจับมือกับพรรคเพื่อไทยใช่หรือไม่ นายสุวัจน์ กล่าวว่า กระแสตามโพลเป็นเพียงแค่โพล ดังนั้น ต้องรอดูผลการเลือกตั้ง แต่พรรคชาติพัฒนากล้าที่ผ่านมาเข้าได้กับทุกฝ่าย และนิยมทำงานการเมืองแบบหันหน้าเข้าหากัน ประนีประนอม และใช้การพูดคุย ดังนั้น เราไม่เป็นศัตรูทางการเมืองกับท่านหนึ่งท่านใด การตัดสินใจของพรรคจะยึดถือแบบอย่างและประเพณี ใครที่มาเป็นลำดับหนึ่งควรเป็นคนที่เราสนับสนุน