เชียงใหม่ - อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช นำทีมบุกเข้าตรวจสอบโรงงานไม้แปรรูปที่จังหวัดเชียงใหม่ ติดตามขยายผลการลักลอบขนไม้ประดู่จากป่าอนุรักษ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ มาซุกซ่อน โดยเบื้องต้นพบไม้ประดู่ขนาดใหญ่ 11 ท่อน เชื่อได้ว่าเป็นไม้เถื่อน และต้องสงสัยอีก 371 ท่อน ทำการยึดไว้ตรวจสอบ ขณะเดียวกันพบเจ้าของเป็นเจ้าหน้าที่ป่าไม้ที่จังหวัดราชบุรี และมีประวัติเคยโดนจับกุมเกี่ยวกับการทำไม้มาแล้วหลายคดี
วันนี้ (7 เม.ย. 66) นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช พร้อมด้วย นายกริชสยาม คงสตรี ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 เชียงใหม่ และเจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษผู้พิทักษ์อุทยานแห่งชาติและสัตว์ป่า (หน่วยพญาเสือ) เจ้าหน้าที่สำนักงานสนับสนุนการป้องกันและปราบปรามที่ 3 ภาคเหนือ (สปป.3) เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการตำรวจป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ปทส.ภาค 5) รวมทั้งเจ้าหน้าที่ส่วนที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันตรวจค้นโรงงานไม้แปรรูปส่งออกแห่งหนึ่งในพื้นที่ตำบลป่าป้อง อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งพบมีไม้ประดู่ท่อนขนาดใหญ่วางเรียงรายอยู่จำนวนมาก
ทั้งนี้ การตรวจสอบครั้งนี้สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้ติดตามขบวนการตัดไม้ในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ จากเขตห้ามล่าสัตว์ป่า ห้วยผึ้ง-วังยาว อำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์ และได้ติดตั้งจีพีเอสไว้ในท่อนไม้ของกลาง ต่อมาพบว่าไม้ถูกลำเลียงไปไร่แห่งหนึ่งในอำเภอน้ำปาด ก่อนส่งไปที่อำเภอตรอน จังหวัดอุตรดิตถ์ คาดว่าเป็นจุดขนถ่ายไม้เพื่อขนลำเลียงมายังโรงงานแปรรูปไม้ในจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งมีอยู่จำนวน 11 ท่อน ไม่พบรูปรอยดวงตราประทับไม้ของพนักงานเจ้าหน้าที่แต่อย่างใด จึงเชื่อว่าเป็นไม้เถื่อน
โดยภายในโรงงานดังกล่าวพบกองไม้ประดู่ท่อนขนาดใหญ่ทั้งหมด 14 กอง รวมจำนวน 371 ท่อน คิดเป็นมูลค่าประมาณ 6 ล้านบาท และยังมีไม้ที่แปรรูปแล้ว ที่เป็นชิ้นส่วนผลิตเฟอร์นิเจอร์อีกจำนวนมาก จากการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นพบว่ามีชื่อของเจ้าหน้าที่ป่าไม้ในจังหวัดราชบุรีและเคยถูกจับกุมกรณีเกี่ยวข้องกับการทำไม้หลายคดี เป็นหุ้นส่วนของบริษัทเจ้าของโรงงานแห่งนี้ด้วย โดยบริษัทดังกล่าวมีประวัติส่งออกไม้ทางอำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ประสานให้กรรมการผู้จัดการบริษัทมาพบ แต่ก็ถูกปฏิเสธ ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ป่าไม้จะตรวจยึดไม้เถื่อนที่ขนลำเลียงมาทั้ง 11 ท่อนไว้ ส่วนที่เหลืออีก 371 ท่อนจะอายัดไว้ก่อนรอทางบริษัทนำหลักฐานการครอบครอง และจัดซื้อมาแสดงต่อไป