xs
xsm
sm
md
lg

หนุ่มพม่าเก็บกดโดนญาตินายจ้างข่มเหง คว้าไม้ตีเสี่ยลานตากข้าวไม่ยั้ง จนกระโดดน้ำหนีจมคลองตาย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นครสวรรค์ - ตำรวจชุมแสงจับทันควัน หนุ่มพม่าเก็บกด อ้างโดนญาตินายจ้างข่มเหงเป็นประจำ จำต้องทนเพราะเป็นคนต่างถิ่นต่างชาติ แต่พอนั่งก๊งเหล้าด้วยกัน จู่ๆ ถูกเตะหลังเต็มแรง จนโมโหสุดขีดย่องหาไม้ตีท้ายทอยไม่ยั้ง เสี่ยลานตากข้าวต้องกระโดดน้ำหนีจนจมคลองดับ



วันนี้ (4 เม.ย. 66) ผู้สื่อข่าวเดินทางไปสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ชุมแสง กรณีพบศพชายไทยจมน้ำอยู่ในคลองสำพึง ในพื้นที่หมู่ 8 ต.พันลาน อ.ชุมแสง จ.นครสวรรค์ เมื่อเดินทางไปสอบสวนพบว่าผู้ตายคือ นายมงคล หมีแสวง อายุ 49 ปี เจ้าของลานตากข้าว สภาพศพเริ่มขึ้นอืด แต่จากการตรวจสอบสภาพศพพบร่องรอยการถูกทำร้าย และตำรวจสันนิษฐานว่าน่าจะเกิดจากการฆาตกรรม

พ.ต.ท.มาวิน สามล รอง ผกก.สืบสวน สภ.ชุมแสง เปิดเผยว่า เหตุเกิดเมื่อวันที่ 2 เมษายนที่ผ่านมา แต่ญาติผู้ตายได้มาแจ้งความคนหายวันที่ 3 เมษายน กระทั่งมีการไล่สืบค้นตามหาจนพบว่าเป็นศพลอยอืดอยู่ที่คลองสำพึง จึงได้มีการสืบสวนสอบสวนต่อก่อนจะตรวจสอบพบว่าถูกฆาตกรรม และฝีมือผู้ก่อเหตุคือแรงงานชาวพม่าชื่อนายซอ อะ จน อายุ 40 ปี มีอาชีพเป็นลูกจ้างเลี้ยงเป็ดของลูกพี่ลูกน้องผู้ตายเอง

รอง ผกก.สืบสวน สภ.ชุมแสง ระบุว่า หลังจากมีการสืบสวนสอบสวนจนทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายซอ อะ จน ลูกจ้างของลูกพี่ลูกน้องผู้ตาย จึงได้นำกำลังบุกไปตรวจสอบที่ห้องพักของเจ้าตัวทันที พบผู้ก่อเหตุยังคงนั่งเลี้ยงเป็ด และทำตัวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ก็ยอมรับสารภาพว่าเป็นคนทำร้ายนายมงคล แต่ไม่ได้เป็นคนฆ่า และที่นายมงคลตายเพราะว่าเลือกหนทางกระโดดลงคลองว่ายน้ำหนีเองจนกลายเป็นศพจมน้ำ

“ตอนที่เข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ ในวันที่ญาตินายมงคลแจ้งความหาย พบว่าบริเวณริมคลองใกล้กับบ้านของลูกพี่ลูกน้องผู้ตายมีเปลญวนผูกติดกับต้นไม้เอาไว้ และในจุดตรงนั้นมีท่อนไม้ยาวปลายแหลมถูกวางทิ้งไว้ที่ข้างเปล มีรอยลักษณะคล้ายเลือดด้วย จึงได้เก็บเอามาตรวจสอบ แล้วก็พบว่ารอยคราบเลือด และรอยนิ้วมือติดอยู่ จึงได้ส่งต่อไปตรวจยังหน่วยพิสูจน์หลักฐาน จนกระทั่งมาพบศพนายมงคลลอยอืดในคลองน้ำ จึงได้นำผลตรวจท่อนไม้มาประมวลผล ซึ่งก็สามารถยืนยันตามหลักนิติวิทยาศาสตร์ได้ว่ารอยเลือดเป็นของนายมงคล และรอยนิ้วมือที่ได้มีการตรวจสอบเป็นของนายซอ อะ จน จึงได้นำกำลังไปจับกุมเจ้าตัวทันที ซึ่งเขาก็ไม่ได้หลบหนีไปไหน แถมยอมรับสารภาพหมดเปลือกด้วย” พ.ต.ท.มาวินกล่าว

ด้านนายซอ อะ จน ยอมรับสารภาพว่า ทำงานกับลูกพี่ลูกน้องของคนตายมาหลายปีแล้ว ส่วนผู้ตายก็รู้จักพูดคุยกันมาตลอด แต่ในช่วงที่รู้จักกันผู้ตายก็มักจะชอบข่มเหงรังแก แต่ส่วนตัวเป็นแค่ลูกจ้างต่างถิ่น ต่างชาติที่มาทำงาน ไม่สามารถไปหือ ไปเก๋าอะไรกับเขาได้ จึงให้อภัย แต่ก็เก็บกดมาตลอด จนกระทั่งเมื่อคืนวันที่ 2 เมษายน ได้ไปนั่งดื่มกินเหล้าขาวกับคนตายอยู่ริมคลองในจุดที่เกิดเหตุ ซึ่งก็ต่างคนต่างเมา พูดจากันไปไม่รู้อะไรบ้าง แต่จู่ๆ คนตายก็ไม่พอใจ ลุกจากเปลญวนมาเตะเข้าที่หลังอย่างแรง จึงทำให้โมโหสุดขีดตั้งแต่ตอนนั้น

“เขาเหวี่ยงเท้ามาเต็มหลังดังอั๊กเลย มันทำให้ผมโกรธจัด เลือดเดือดพล่าน แต่ก็ยังนั่งนิ่งอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะแอบเดินหาหยิบไม้ แล้วย่องกลับมาตีใส่ที่ท้ายทอยผู้ตายแบบไม่ยั้ง เพราะยั้งไม่ได้จริงๆ เพราะโมโหมาก แต่ก็ไม่ได้ตีเขาหวังตายนะ แค่สั่งสอนให้รู้ ว่าผมก็สู้คนนะ ไม่ยอมให้รังแกอยู่ฝ่ายเดียวหรอก แต่ตอนที่กระหน่ำตี ผู้ตายเขาเลือกที่จะกระโดดลงน้ำหนีหายไปเอง ผมเห็นท่าไม่ดีจึงรีบทิ้งท่อนไม้ไว้ตรงนั้น แล้วรีบกลับมาเข้าห้องพัก ทำตัวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนในที่สุดตกม้าตาย เพราะหลักฐานรอยนิ้วมือที่ท่อนไม้มันแน่นหนา” นายซอ อะ จน กล่าว

อย่างไรก็ตาม คดีนี้นายซอ อะ จน ยอมให้การรับสารภาพ พร้อมกับหลักฐานของกลางไม้ยูคาฯ ที่มีรอยคราบเลือดผู้ตาย และรอยนิ้วมือของนายซอ อะ จน จึงถูกตำรวจแจ้งข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนา ส่วนการเข้ามาทำงานอยู่ในเมืองไทย พบว่ามีเอกสารหลักฐานเข้ามาทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย จึงได้มีการนำตัวส่งพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีฆาตกรรมตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น