ระยอง - เสียชีวิตแล้วเด็กชายวัย 15 ปี เหยื่อพ่อเลี้ยงโหด จ.ระยอง ไม่พอใจออกไปเตะฟุตบอลกับเพื่อนใช้ไม้กระหน่ำตีจนเลือดคั่งในสมอง ตำรวจเตรียมตั้งข้อหาทำร้ายผู้อื่นจนเสียชีวิต ส่วนแม่แท้ๆ นิ่งตามเคย ชาวบ้านสาปแช่งติดคุกนานๆ
จากเหตุการณ์พ่อเลี้ยงใช้ท่อนไม้ตีลูกเลี้ยงวัย 15 ปี จนล้มทั้งยืน ไม่หนำใจกระหน่ำฟาดอีกหลายครั้งจนสลบ เหตุเพราะไม่พอใจออกไปเตะฟุตบอลกับเพื่อน เหตุเกิดช่วงค่ำวันที่ 10 มี.ค.ที่ผ่านมา จนชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ทนไม่ได้ต้องรีบนำตัวลูกเลี้ยงส่งโรงพยาบาลบ้านฉาง จ.ระยอง ในสภาพมีบาดแผลแตกที่ศีรษะเลือดอาบ และยังมีเลือดไหลออกหูและจมูก ตามลำตัวมีบาดแผลหลายแห่ง
ก่อนที่แพทย์จะส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลระยอง หลังพบมีอาการเลือดคั่งในสมอง ซึ่งหลังก่อเหตุพ่อเลี้ยงรายดังกล่าวได้หลบหนีไป ก่อนจะถูกตำรวจระยองติดตามจับกุมตัวดำเนินคดีในข้อหาทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บสาหัสนั้น
ล่าสุด เมื่อเวลา 15.30 น.วันนี้ (21 มี.ค.) พ.ต.ต.ศราวุธ กิตติเรืองระยับ สว.(สอบสวน) สภ.บ้านฉาง จ.ระยอง ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ขณะนี้เด็กชาย วัย 15 ปีที่ถูก นายประคอง บุญลือ พ่อเลี้ยงทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บสาหัสได้เสียชีวิตแล้วโรงพยาบาลระยอง และหลังจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้เรียกตัวพ่อเลี้ยงโหดมารับทราบข้อกล่าวหาทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตายต่อไป
ด้าน นางบุญหลาย แม่ของเด็กเหยื่อพ่อเลี้ยงโหด ได้นำใบชันสูตรจาก สภ.เมืองระยอง เดินทางไปห้องดับจิต โรงพยาบาลระยอง เพื่อรับศพลูกแท้ๆ กลับไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนา โดยไม่ยอมให้สัมภาษณ์ใดๆ กับสื่อมวลชน ซ้ำยังห้ามไม่ให้ถ่ายภาพและคอยเดินหนีอยู่ตลอดเวลา
และเมื่อผู้สื่อข่าวเดินทางไปบ้านที่เกิดเหตุอีกครั้ง ได้พบกับ นางบุญหลาย และพบว่ากำลังจะขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านพร้อมพูดเพียงสั้นๆ ว่า ลูกชายไปสบายแล้วจึงไม่อยากพูดอะไรอีก
ขณะที่เพื่อนบ้านที่ทราบข่าวการเสียชีวิตของเหยื่อพ่อเลี้ยงโหด ต่างพากันเสียใจ และแสดงความแปลกใจที่เหตุใดพ่อเลี้ยงโหดรายดังกล่าวจึงถูกปล่อยตัวและไม่ถูกคุมขังตั้งแต่วันแรกที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้ และต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า แม่แท้ๆ ของเด็กเคราะห์ร้ายรายนี้ได้กล่าวหาพวกตนว่าเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับครอบครัว อีกทั้งยังนำข้อมูลไปเปิดเผยกับสื่อมวลชน
"ที่ผ่านมาชาวบ้านไม่เคยอยากยุ่งเกี่ยวกับครอบครัวนี้ แต่เพราะรู้สึกสงสารเด็กที่ถูกทำร้าย และแปลกใจว่าเหตุใดคนเป็นแม่จึงเข้าข้างผัวใหม่ทั้งที่คนตายคือลูกของตัวเอง และขอให้พ่อเลี้ยงโหดติดคุกนานๆ" ชาวบ้าน กล่าว
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นายอมร ทีน้ำคำ อายุ 33 ปี พี่ชายของเด็กชายเคราะห์ร้ายว่า กำลังเตรียมตัวที่จะเดินทางจาก จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อมารับศพน้องชายกลับไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนา
