xs
xsm
sm
md
lg

ลูกชายสงสัย!พ่อฆ่าเมียลากศพไว้หลังบ้านก่อนฆ่าตัวตายสะเทือนขวัญชาวลี้ เป็นฆาตกรรมอำพราง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ลำพูน – ลูกชายไม่เชื่อ..พ่อหึงหวงฟันหัวเมียดับสยองสะเทือนขวัญชาวลี้ ก่อนลากศพไปหลังบ้านแล้วใช้ปืนลูกซองยิงหัวตัวเองตายตาม แถมลูกซองสั้นกระเด็นตกห่างจากศพไกลกว่า 10 เมตร ชวนสงสัยเป็นฆาตกรรมอำพราง


กรณีพบศพคนเสียชีวิตสองศพที่บ้านหลังหนึ่ง พื้นที่หมู่ 1 ต.ป่าไผ่ อ.ลี้ จ.ลําพูน ซึ่ง ร.ต.อ.จีระทัศน์ กิติศักดิ์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.ลี้ อ.ลี้ จ.ลำพูน ได้เดินทางไปตรวจสอบเมื่อวันที่ 16 มี.ค.66 ที่ผ่านมา พร้อมด้วย พ.ต.ท.จรีะเดช จันทร์อ่อน รอง ผกก.,ชุดสืบสวน, จนท.พิสูจน์หลักฐานลําพูนและแพทย์รพ.ลี้

โดยพบว่านายผ่าน มิตตะกุล อายุ 66 ปี นอนหงายเสียชีวิตติดกับห้องครัว บริเวณศีรษะถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซองสั้นจนศรีษะเปิดมันสมองกระจาย ติดกันพบศพนางอัจฉราภรณ์ ทนุชิต อายุ 64 ปี นอนเสียชีวิตในสภาพนอนหงาย บริเวณท้ายทอยถูกของแข็งมีคมฟันและยังพบร่องรอยการลากศพจากใต้ถุนบ้านมายังจุดเกิดเหตุเป็นระยะทางเกือบ 10 เมตร นอกจากนี้ห่างไปประมาณ 10 เมตรที่บริเวณใต้ต้นลำไยยังพบอาวุธปืนลูกซองสั้นตกอยู่อีก 1 กระบอก

เบื้องต้น จนท.สันนิษฐาน ว่านายผ่านหึงหวงภรรยาและอาจจะคิดว่านางอัจฉราภรณ์ ที่มาอยู่กินด้วยกันได้ราว 2 ปี จะกลับไปอยู่กับลูกชาย จึงก่อเหตุฆ่าภรรยาตนเองก่อนลากศพมาไว้ข้างห้องครัวแล้วใช้ปืนยิงตัวตายตาม ส่วนสาเหตุที่แท้จริงอยู่ระหว่างการสอบสวนและรอผลชันสูตรและผลทางนิติวิทยาศาสตร์อย่างละเอียดอีกครั้งนั้น


วันนี้(17 มี.ค.66) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปสอบถามนายคมจิต มิตตะกุล อายุ 38ปี ลูกชายผู้ตาย ซึ่งได้นำไปดูจุดเกิดเหตุและจุดที่พบปืนตกอยู่ ซึ่งอยู่ห่างกันเกือบ 10 เมตร พร้อมกับเปิดเผยว่าช่วงแปดโมงเช้าของวานนี้ ตนยังกินข้าวด้วยกัน ซึ่งพ่อก็ไม่ได้มีทีท่าว่าจะเครียดหรือทะเลาะกัน เพราะทั้งคู่รักกันมากและเกือบสองปีมานี้ตนเองไม่เคยเห็นทั้งคู่ทะเลาะกันมาก่อน กระทั่ง 11.00 น.ตนกลับมาที่บ้าน ก็เห็นบ้านเงียบผิดปกติจึงเดินตามหา และพบว่าทั้งคู่กลายเป็นศพดังกล่าว

ทั้งนี้ส่วนตัวไม่อยากจะเชื่อว่าพ่อจะฆ่าภรรยาตาย เพราะทั้งคู่รักกันมากไม่เคยทะเลาะกัน อีกทั้งพ่อยังเป็นคนใจดีใจเย็นประกอบกับจุดที่พบปืนตกอยู่ห่างจากจุดที่พบศพเกือบ 10 เมตร ทิศทางหรือองศาในการกระเด็นของปืนก็น่าสงสัยอีก จึงอยากจะให้ จนท.ตำรวจทำคดีอย่างละเอียด เพราะมีข้องสงสัยหลายอย่าง แต่สุดท้ายก็ต้องขึ้นอยู่กับหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ที่จะออกมา
กำลังโหลดความคิดเห็น