เชียงใหม่ - เชียงใหม่ทั่วทั้งเมืองนอนจมฝุ่นควันหนาทึบ ค่ามลพิษติดลมบนครองอันดับ 1 เมืองคุณภาพอากาศแย่ที่สุดในโลกต่อเนื่อง ขณะที่ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือคาดการณ์ต้องยอมทนรับสภาพไปอีกอย่างน้อย 1 สัปดาห์ รอมวลอากาศเย็นระลอกใหม่แผ่เข้าภาคเหนือตอนบนช่วงวันที่ 8-9 เม.ย. 66 แล้วลุ้นให้เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ช่วยบรรเทาความรุนแรงของสถานการณ์
วันนี้ (2 เม.ย. 66) รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า สถานการณ์ปัญหาฝุ่นควัน ไฟป่า และคุณภาพอากาศของจังหวัดเชียงใหม่ยังคงรุนแรงต่อเนื่อง โดยสภาพตัวเมืองถูกปกคลุมด้วยฝุ่นควันหนาทึบและสามารถรับรู้ได้ถึงกลิ่นเหม็นไหม้ในอากาศที่สูดหายใจเข้าไปได้อย่างชัดเจน ซึ่งปัจจัยสำคัญมาจากไฟไหม้ป่าที่เกิดขึ้นหลายจุดในเขตอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ที่อยู่ไม่ห่างตัวเมืองเชียงใหม่ ตลอดช่วงหลายวันที่ผ่านมา ทำให้เกิดควันไฟสะสมในพื้นที่เป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม ล่าสุดเจ้าหน้าที่ที่ระดมกำลังกันเข้าดับไฟสามารถควบคุมสถานการณ์จนคลี่คลายลงแล้วและเหลือจุดเกิดไฟไหม้ที่ต้องจับตาเฝ้าระวังเพียง 2 จุดเท่านั้น จากช่วงคืนที่ผ่านมาที่มีไฟไหม้ถึง 13 จุด
ทั้งนี้ เว็บไซต์ Iqair.com ซึ่งรายงานคุณภาพอากาศจากทั่วโลก แจ้งผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศและการจัดอันดับเมืองที่มลพิษทั่วโลก เมื่อเวลา 11.00 น. วันนี้ พบว่าจังหวัดเชียงใหม่มีดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ที่ 183 US AQI และค่า PM 2.5 วัดค่าได้ 116.6 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งเกินค่ามาตรฐาน และอยู่ในระดับที่มีผลกระทบต่อทุกคน โดยผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศดังกล่าวพบว่าค่ามลพิษมีแนวโน้มลดลง แต่ยังสูงสุดเป็นอันดับที่ 1 ของเมืองหลักที่มีมลพิษอากาศสูงสุดของโลก ส่วนรองลงมา ได้แก่ อันดับ 2 เมืองปักกิ่ง ประเทศจีน ดัชนีคุณภาพอากาศ 168 US AQI, อันดับ 3 เมืองเดลี ประเทศอินเดีย 158 US AQI, อันดับ 4 เมืองเสิ่นหยาง ประเทศจีน 153 US AQI และอันดับ 5 เมืองลาฮอร์ ประเทศปากีสถาน 153 US AQI
ส่วนผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศจังหวัดเชียงใหม่ จากสถานีตรวจวัดของกรมควบคุมมลพิษ ในตำบลช้างเผือก, ตำบลศรีภูมิ, ตำบลสุเทพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่, ตำบลช่างเคิ่ง อำเภอแม่แจ่ม, ตำบลเมืองนะ อำเภอเชียงดาว และตำบลหางดง อำเภอฮอด พบค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 เฉลี่ยในรอบ 24 ชั่วโมง ณ เวลา 09.00 น. วันนี้อยู่ที่ 197 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร, 210 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร, 208 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร, 169 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร, 326 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร และ 150 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ตามลำดับ จากค่ามาตรฐานไม่เกิน 50 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ส่วนค่าดัชนีคุณภาพอากาศ (AQI) อยู่ที่ 307, 320, 318, 279, 436 และ 260 ตามลำดับ จากค่ามาตรฐานไม่เกิน 100 ซึ่งคุณภาพอากาศอยู่ในระดับมีผลกระทบต่อสุขภาพ
ด้านศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือรายงานว่า ในช่วงนี้ไม่มีปัจจัยทางภูมิอากาศที่เอื้อต่อการคลี่คลายสถานการณ์หมอกควัน ทำให้คาดว่าพื้นที่ภาคเหนือจะต้องตกอยู่ในสถานการณ์ปัญหาไปอีกอย่างน้อย 1 สัปดาห์ จากนั้นต้องจับตาดูในช่วงวันที่ 8-9 เม.ย. 66 ที่จะมีมวลอากาศเย็นระลอกใหม่แผ่เข้ามาและอาจทำให้เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง พายุฤดูร้อน และพายุลูกเห็บได้ในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน รวมทั้งจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งน่าจะช่วยบรรเทาความรุนแรงของสถานการณ์ปัญหาลงไปได้ระดับหนึ่ง