เชียงใหม่ - กองทัพภาคที่ 3 ระดมอากาศยานเปิดปฏิบัติการบินโปรยน้ำช่วยดับไฟในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่อีกครั้ง หลังพบจุดความร้อนเพิ่มขึ้นจำนวนมาก ล่าสุดมากกว่า 600 จุด ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ภูเขาสูงชันและเข้าถึงยาก
วันนี้ (29 มี.ค. 66) รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า ตลอดช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาเกิดจุดความร้อนจำนวนมากในพื้นที่ภาคเหนือ วันละกว่า 4,000 จุด ส่งผลให้สถานการณ์ฝุ่นควันและมลพิษอากาศเลวร้ายลงอย่างต่อเนื่อง เพราะนอกจากฝุ่นควันข้ามแดนจากการจุดความร้อนในประเทศเพื่อนบ้านแล้ว ยังเกิดปัจจัยซ้ำเติมจากจุดความร้อนในพื้นที่ที่เพิ่มขึ้นด้วย โดยในส่วนของจังหวัดเชียงใหม่พบจุดความร้อนส่วนใหญ่เกิดในพื้นที่ภูเขาสูงชันของอำเภอเชียงดาว, อำเภอแม่แตง, อำเภอไชยปราการ, อำเภอพร้าว และอำเภอสันทราย ที่หน่วยดับไฟภาคพื้นดินยากต่อการเข้าถึง
ศูนย์อำนวยการแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาค 3 จัดอากาศยาน ทั้งจากกองทัพอากาศ คือ เครื่องบินไดมอนด์ หรือ DA-42, เครื่องบินทิ้งน้ำแบบ BT-67, เฮลิคอปเตอร์แบบ KA- 32 ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เฮลิคอปเตอร์จากกรมฝนหลวงและการบินเกษตร รวมไปถึงเฮลิคอปเตอร์แบบ MI-17 ของกองทัพบก กลับมาเปิดปฏิบัติการบินโปรยน้ำดับไฟอย่างเต็มศักยภาพอีกครั้ง โดยวันนี้ได้จัดเฮลิคอปเตอร์แบบ KA- 32 ปฏิบัติการบินโปรยน้ำในอำเภอแม่แตง ซึ่งตรวจสอบพบว่ามีจุดความร้อน 28 จุด จากทั้งหมด 615 จุด ในจังหวัดเชียงใหม่ โดยบินโปรยน้ำไป 6 รอบ รวมจำนวน 18,000 ลิตร
ด้านพลตรี วีรวัฒน์ วิวัฒน์วานิช รองผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาค 3 เปิดเผยว่า ในปีนี้มีเชื้อเพลิงชีวมวลในภาคเหนือตอนบนประมาณ 11 ล้านตัน เป็นข้าวโพดแห้งในป่าและกิ่งตัดแต่งพืชสวน ส่วนในพื้นที่ 8 จังหวัดเหนือตอนล่างมีเชื้อเพลิงเป็นใบอ้อยและฟางข้าวอีก 19 ล้านตัน รวมภาคเหนือมีเชื้อเพลิง 31 ล้านตัน ยังไม่รวมกับเชื้อเพลิงที่สะสมอยู่ในพื้นที่ป่าอีกจำนวนมาก จึงเป็นต้นเหตุของการเกิดไฟป่าและมลพิษทางอากาศ ที่จำเป็นต้องหาทางแก้ปัญหาในระยะยาวให้ได้