กองทัพอากาศเผยปฏิบัติการบินยับยั้งการเกิดพายุลูกเห็บกับกรมฝนหลวงและการบินเกษตรในพื้นที่เชียงใหม่และภาคเหนือตอนบน ส่งเครื่องบินแบบอัลฟาเจ็ตเข้าสลายหยดน้ำที่กำลังจับตัวเป็นลูกเห็บ ให้ตกลงมาเป็นฝนแทน
วันนี้ (19 มี.ค.) จากกรณีที่เกิดพายุลูกเห็บพัดถล่มในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (18 มี.ค.) ส่งผลทำให้มีพื้นที่ได้รับผลกระทบใน 4 อำเภอ ประกอบด้วย อำเภอเมือง อำเภอแม่ริม อำเภอสันทราย และอำเภอสันกำแพง รวมทั้งสิ้น 17 ตำบล โดยอำเภอเมืองเชียงใหม่ได้รับความเสียหายมากที่สุด ในเขตตำบลฟ้าฮ่าม เกิดเสาไฟฟ้าขนาดใหญ่หักโค่นทับรถยนต์ของประชาชนบนถนนสายเชียงใหม่-พร้าว ได้รับความเสียหายหลายคัน รวมทั้งหักโค่นทับบ้านเรือนประชาชน สิ่งปลูกสร้างต่างๆได้รับความเสียหายประมาณ 500 หลัง นอกจากนี้ ในพื้นที่ตำบลสุเทพพบความเสียหายหนักเกิดขึ้นใน 3 หมู่บ้านบนดอยสุเทพ คือ บ้านดอยสุเทพ บ้านดอยปุย และบ้านภูพิงค์ เนื่องจากมีลูกเห็บขนาดใหญ่ตกลงมาเป็นจำนวนมาก ทำให้หลังคาบ้านเรือนประชาชนเสียหายรวมกันเกือบ 600 หลังคาเรือน และมีพืชผลทางการเกษตรเสียหายอีกจำนวนหนึ่ง
รายงานข่าวจากกองทัพอากาศแจ้งว่า กองทัพอากาศร่วมปฏิบัติการบินยับยั้งการเกิดพายุลูกเห็บกับกรมฝนหลวงและการบินเกษตรในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ และภาคเหนือตอนบน โดยได้ส่งอากาศยานแบบอัลฟาเจ็ต (Alpha Jet) จากฝูงบิน 231 กองบิน 23 วางกำลัง ณ กองบิน 41 จังหวัดเชียงใหม่ และได้ขึ้นบินเพื่อยับยั้งการเกิดพายุลูกเห็บอย่างต่อเนื่อง 3 วันที่ผ่านมา
โดยเมื่อวันที่ 18 มี.ค. กองทัพอากาศใช้เครื่องบิน Alpha Jet ขึ้นบินปฏิบัติการยับยั้งและบรรเทาความรุนแรงของลูกเห็บเหนือพื้นที่อำเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่ โดยก่อนปฏิบัติการพบกลุ่มเมฆคิวมูลัสที่กำลังพัฒนาตัว มีความคมชัดระดับ Hard-Medium โดยกลุ่มที่ 1 ยอดเมฆเป้าหมายสูง 23,000 ฟุต เครื่องบิน Alpha Jet ยิงพลุซิลเวอร์ไอโอไดด์จำนวน 4 นัด กลุ่มที่ 2 พบกลุ่มเมฆคิวมูลัสขนาดใหญ่ พัฒนาตัวอย่างรวดเร็ว ยอดเมฆเป้าหมายสูงมากกว่า 30,000 ฟุต เครื่องบิน Alpha Jet ยิงพลุซิลเวอร์ไอโอไดด์จำนวน 10 นัด หลังปฏิบัติการพบความคมชัดของเมฆลดลงในระดับ Medium Soft ยุบตัว และฟุ้งกระจาย แต่บางส่วนยังคงมีการพัฒนาตัว ทั้งนี้ ยังไม่ได้รับรายงานการตกของลูกเห็บในบริเวณพื้นที่ปฏิบัติการ แต่พบว่าฝนได้ตกลงมาเป็นเม็ดน้ำปกติ
"ฝนหลวง" หนึ่งในโครงการพระราชดำริ ในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ซึ่งนอกจากการทำฝนเพื่อเติมน้ำในเขื่อน ช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากภัยแล้งแล้ว การทำฝนเพื่อยับยั้งและบรรเทาความเสียหายจากลูกเห็บก็เป็นภารกิจหนึ่งที่จำเป็นเพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดแก่ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนด้วยเช่นกัน ปกตินักบินจะพยายามหลีกเลี่ยงไม่บินเข้าไปในเมฆฝน เพราะมีความเสี่ยงที่จะเกิดการหลงสภาพการบิน รวมทั้งอาจเกิดความเสียหายแก่เครื่องบินได้ แต่การยับยั้งลูกเห็บนั้น นักบินจำเป็นต้องนำเครื่องบินเข้าไปในเมฆเป้าหมาย เพื่อยิงพลุซิลเวอร์ไอโอไดด์เข้าสลายหยดน้ำที่กำลังจับตัวเป็นลูกเห็บ ให้ตกลงมาเป็นฝนแทน