ตราด - ข่าวดี! สถานการณ์ไฟป่าลุกลามจากประเทศเพื่อนเข้าแนวเทือกเขาบรรทัด อ.บ่อไร่ จ.ตราด เริ่มดีขึ้นตามลำดับ หลังเจ้าหน้าที่ใช้เวลา 11 วัน ปฏิบัติการร่วมดับไฟ ล่าสุด จากการนำโดรนขึ้นบินสำรวจพบเหลือพื้นที่ถูกไฟไหม้ไม่ถึง 40% ขณะผืนป่าเสียหายแล้วกว่า 2,600 ไร่
วันนี้ (9 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการดับไฟป่าที่ลุกลามจากประเทศเพื่อนบ้านเข้าชายแดนไทยด้าน ต.ด่านชุมพล อ.บ่อไร่และแนวเทือกเขาบรรทัด ซึ่งในวันนี้ผ่านมาถึง 11 วัน และมีผืนป่าได้รับความเสียหายแล้วกว่า 2,500 ไร่ ว่า ล่าสุด ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ไฟป่า อ.อำเภอบ่อไร่ ได้รายงานสถานการณ์ไฟป่าเทือกเขาบรรทัดว่าเริ่มดีขึ้นตามลำดับ
หลังใช้โดรนทหารพรานขึ้นสำรวจแนวไฟป่าในรัศมี 2 กิโลเมตร พบหลายพื้นที่ไฟเริ่มดับแล้ว แต่ยังคงมีกลุ่มควันจางๆ ในบางจุด จนเหลือพื้นที่ถูกไฟไหม้ไม่เกิน 40 เปอร์เซ็นต์ โดยยังเหลือจุดที่ติดไฟเพียง 2 จุด คือ จุดเนินช่องกระดูกช้าง และจุดบ้านช่องบ้านคลองแสง ต.ด่านชุมพล ซึ่งแต่ละจุดกินเนื้อที่ประมาณ 100 ตารางเมตร
ขณะที่หน่วยงานต่างๆ ยังคงสนธิกำลังจัดทำแนวกันไฟ และเจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินยังคงเดินเท้าเข้าดับไฟในพื้นที่ที่สามารถเข้าถึงได้เพื่อป้องกันไม่ให้ไฟลุกลามขึ้นอีกครั้ง และยังได้นำเครื่องจักรหนักเข้าทำแนวกันไฟเพิ่มเติมบริเวณจุดเนินช่องกระดูกช้าง จุดเนินช่องเจ้าพระยา และจุดช่องบ้านคลองแสง
เช่นเดียวกับกองทัพเรือ ที่ยังคงส่งเฮลิคอปเตอร์แบบ SeaHawk ขึ้นปฏิบัติภารกิจดับไฟทางอากาศติดต่อกันเป็นวันที่ 5 โดยจะเข้าดับไฟป่าในจุดที่เจ้าหน้าที่เข้าไม่ถึงและเป็นพื้นที่อันตราย
ส่วนกรมฝนหลวงและการบินเกษตร นำเฮลิคอปเตอร์สำรวจสภาพอากาศบริเวณแนวเขาบรรทัดเพื่อพิจารณาการเข้าทำฝนหลวงเพื่อดับไฟป่า เพิ่มความชุ่มชื่นให้ป่า และเติมปริมาณน้ำให้พื้นที่ จ.ตราด เช่นกัน
นอกจากนั้น ยังมีรายงานเพิ่มเติมว่าตั้งแต่เวลา 08.00 น.ที่ผ่านมา กระแสลมด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้ที่เคยพัดพากลุ่มควันไฟจากประเทศกัมพูชาเข้าสู่ จ.ตราด ได้เปลี่ยนทิศพัดขึ้นไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ จึงทำให้กลุ่มควันในพื้นที่ จ.ตราด ลดลงอย่างเห็นได้ชัด
และจากการลงพื้นที่สำรวจสุขภาพประชาชนกลุ่มเสี่ยงใน ต.นนทรีย์ และ ต.ด่านชุมพล รวมจำนวน 368 ราย ของเจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุขอำเภอบ่อไร่ พบว่าส่วนใหญ่ยังไม่ได้รับผลกระทบรุนแรง จะมีแค่เพียงอาการแสบคอ และไอแห้งเท่านั้น
สำหรับไฟไหม้ป่าเทือกเขาบรรทัด อ.บ่อไร่ จ.ตราด ในครั้งนี้ ทั้งหมดเกิดขึ้นในเขตป่าเขตอุทยานแห่งชาติน้ำตกคลองแก้ว ที่มีพื้นที่ป่า จำนวน 123,700 ไร่ และยังเป็นที่อยู่อาศัยของโขลงช้างป่า 3 โขลง ที่มีจำนวนช้างป่ากว่า 40 ตัว และจากการสำรวจล่าสุดพบว่าไฟป่าได้เผาผลาญพื้นที่ป่าบริเวณดังกล่าวไปแล้วกว่า 2,600 ไร่