กาญจนบุรี - นายกเล็กแก่งเสี้ยน เผยวันนี้เตรียมนำคลิปสนทนาก่อนเกิดไฟไหม้บ่อขยะเขาเชิงทอง ถึงมือ "อัจฉริยะ" ยันลอบเผาต้นตอมาจากผลประโยชน์ล้วนๆ
นายจักกฤช มหากิจวรกุล นายกองค์การบริหารส่วนตำบลแก่งเสี้ยน เผยว่า บ่อขยะเขาเชิงทอง ไฟไหม้ในครั้งนี้ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ระดับชาติ ระดับจังหวัด รวมถึงระดับท้องถิ่นที่ตนดูแลอยู่ ตนเก็บเงียบเรื่องพวกนี้มาประมาณ 8-9 เดือน หลังเข้ามารับตำแหน่งนายก อบต.แก่งเสี้ยน เมื่อวันที่ 4 ก.พ.2565 ประมาณ 2-3 เดือน เข้ามาเจอปัญหาที่ไม่ชอบมาพากล โดยการบริหารจัดการขยะมีบุคคลหลายฝ่ายที่เป็นบุคคลที่เราคาดไม่ถึง เพราะเป็นถึงระดับนายพลของกองทัพบก
โดยมีนายทหารยศพลเอกอยู่ 2 คน และยศพลอากาศเอกอีก 1 คน รวมทั้งมีข้าราชการของจังหวัดกาญจนบุรีอีกหลายคนมาเกี่ยวข้อง แต่ยังไม่ขอเอ่ยถึงเรื่องนี้ว่าเป็นอย่างไร ซึ่งที่ผ่านมา ผมไม่เคยมีตำแหน่งทางด้านการเมืองแม้แต่ตำแหน่งเดียว โดยเหตุที่เชิญสื่อมวลชนมาแถลงข่าวเนื่องจากคืนที่ผ่านมา มันมีเหตุไฟไหม้บ่อขยะเชิงเขาทอง ที่ อบต.แก่งเสี้ยน เป็นเจ้าของคลัสเตอร์ที่ 1
สำหรับที่มาของคลิปสืบเนื่องจากเมื่อช่วงเดือนกันยายน ถึงต้นเดือนธันวาคม 2565 ได้เปิดประมูลประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อที่จะจ้างผู้รับเหมาเข้ามาบริหารจัดการขยะ จากนั้นมีนอมินีของบริษัทแห่งหนึ่งเข้ามาประมูล เมื่อประมูลแล้วเสร็จส่วนตัวแล้วตนเองมองว่าระยะเวลาในการใช้พื้นที่เหลืออีกเพียงแค่ 3 เดือน เดิมทีพื้นที่บ่อขยะเชิงเขาทอง อยู่ในความดูแลของกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ และต่อมาได้มอบพื้นที่ดังกล่าวให้กองพลทหารราบที่ 9 เป็นผู้ใช้ประโยชน์
ในระยะเวลาอีก 3 เดือนที่จะหมดสัญญาเช่ากับกองพล 1 รอ. ตนจึงมองว่ามันเป็นระเบียบของกรมบัญชีกลาง จึงจะเปิดประมูลประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ขึ้นมาใหม่ แต่ปรากฏว่าจากการประกาศไปทั่วประเทศมีผู้มาประมูลเพียงรายเดียว เมื่อมีแค่รายเดียวมันจึงเป็นอำนาจของนายก อบต.แก่งเสี้ยน ที่จะต้องพิจารณาว่าในเมื่อมีแค่รายเดียวแล้วเราจะทำอย่างไรต่อไป ซึ่งผมถือเอาระเบียบเป็นหลักจึงยกเลิกการประมูล เนื่องบริษัทอื่นๆ ขาดโอกาสในการร่วมประมูล และคนที่มาประมูลพบเป็นนอมินี โดยเมื่อประมูลงานมาได้แล้ว แต่เข้ามาทำไม่ได้เพราะตนยกเลิกการประมูลไปแล้ว และบุคคลดังกล่าวไปร้องเรียนตามหน่วยงานภาครัฐต่างๆ และโจมตีตนในทุกรูปแบบ ขณะนี้เรื่องอยู่ในขั้นตอนพิจารณาของ ป.ป.ช. ซึ่งหลักฐานทั้งหมดเรามอบให้ ป.ป.ช.ไปหมดแล้ว
สำหรับที่มาของคลิปเสียงนั้นเป็นคลิปเสียงสาธารณะของชาวบ้าน หมู่ 5 ต.แก่งเสี้ยน ซึ่งตนเองในฐานะนายก จะมีไลน์กลุ่มทั้งตำบลและทุกกลุ่มไลน์ที่ตั้งขึ้นมา โดยคลิปสนทนาดังกล่าวมันเด้งขึ้นมาในไลน์กลุ่มช่วงเวลาประมาณ 18.00 น.เศษ ของวันที่ 26 มี.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าของคลิปเป็นผู้หญิงชื่ออักษรย่อ ป. คือคนที่ไปร้องเรียนผมกับทหารยศพลเอก ชื่อย่อ ล.ที่คุยกันในคลิป โดยคลิปดีดเข้าไปในไลน์กลุ่ม ปรากฏว่าประมาณ 5 ทุ่มเกิดไฟไหม้บ่อขยะ ซึ่งกลุ่มนี้ไปร้องเรียนผมที่สภาผู้แทนราษฎร มีอยู่ด้วยกันประมาณ 5 คน ซึ่งคนทั้งหมู่บ้านไม่เห็นด้วยกับการไปร้องเรียนกันแบบนี้
"ต้นตอการเกิดไฟไหม้มาจากผลประโยชน์ของบ่อขยะอย่างชัดเจน แต่ผมไม่อยากพูดพาดพิงไปถึงผู้บริหารคนเก่า หลักฐานการเกิดไฟไหม้ที่มีคือ มีเจ้าหน้าที่ทหารยศจ่าที่ดูแลอยู่ในพื้นที่และพักอยู่ข้างบ่อขยะ โดยจ่าทหารคนดังกล่าวได้เห็นบุคคลเป็นชาย 2 คน นั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์สีฟ้าออกมาจากบ่อขยะ ซึ่งวันนี้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้เข้ามาพิสูจน์ว่าไฟที่ไหม้เกิดจากไฟป่า หรือมีการตั้งใจเผากันแน่ ปรากฏว่าเป็นการวางเพลิงจริงๆ เพราะไฟลุกไหม้มาจากด้านในกองขยะ ไม่ได้ลุกไหม้มาจากภูเขา เบื้องต้นมองว่าชายทั้ง 2 คนเป็นผู้ลงมือเผา เพราะหลังจากไฟไหม้ได้ประมาณ 2-3 นาที ทั้งคู่ขับรถจักรยานยนต์หนีออกมาอย่างรวดเร็ว และขอยืนยันว่าเป็นการวางเพลิงล้านเปอร์เซ็นต์ตามคลิปเสียงที่ทุกคนได้ยิน"
ส่วนคลิปเสียงที่นายทหารยศพลเอกพูดว่า กองทัพบกมันไม่คืนพื้นที่ให้นั้น ผมจึงนำเอกสารที่ ทบ.เซ็นส่งมอบคืนพื้นที่ให้กรมธนารักษ์ไปเรียบร้อยแล้วมาให้สื่อมวลชนได้ดู ซึ่งรู้สึกว่านายพลคนนี้ไม่รู้ไปอยู่ไหนมาถึงไม่รู้เรื่อง แต่ขั้นตอนติดอยู่เพียงแค่หนังสือฉบับจริงยังไม่ถึงมือ มทบ.17 และเมื่อหนังสือถึงธนารักษ์แล้ว อธิบดีกรมธนารักษ์จะใช้ดุพินิจพิจารณาให้ อบต.แก่งเสี้ยน ใช้ประโยชน์พื้นที่บ่อขยะเชิงเขาทองที่ถูกไฟไหม้ต่อไป
และในวันนี้ช่วงบ่ายโมง ตนจะนำคลิปการสนทนา และเอกสารต่างๆ ทั้งหมดไปมอบให้นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ให้ช่วยดำเนินการต่อไป