xs
xsm
sm
md
lg

อดีตอสม.ร่ำไห้! ถามหายุติธรรมสามีถูกรถชนพิการศาลสั่งคู่กรณีชดใช้ 10 ปีไม่จ่ายสักบาท แต่มีเงินซื้อรถใหม่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



บุรีรัมย์ - ป้าวัย 59 อดีต อสม.อำเภอสตึก จ.บุรีรัมย์ ร่ำไห้ถามหาความยุติธรรม หลังสามีถูกรถย้อนศรพุ่งชนพิการ ศาลสั่งคู่กรณีชดใช้ 1.8 ล้าน ผ่านไป 10 ปียังไม่จ่ายสักบาท ต้องกู้ยืมเงินจำนองบ้านรักษาสามีแทบหมดตัว ล่าสุดยื่นขอให้ศาลบังคับยึดทรัพย์แต่ได้รับคำตอบสิ้นสุดอายุความแล้ว สุดช้ำคู่กรณีบอกไม่มีเงินจ่าย แต่ซื้อรถใหม่ใช้ชีวิตสุขสบาย วอนผู้รู้ กม.ช่วย

วันนี้ (25 มี.ค. ) นางอัญชนา ทองเงา อายุ 59 ปี อดีตอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) บ้านสวายสอ ต.นิคม อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ได้นำคำพิพากษาศาล และเอกสารที่เกี่ยวข้อง ออกมาร้องขอความเป็นธรรม หลังจากนายสุดาวิทย์ ทองเงา อายุ 58 ปี สามีซึ่งเป็นเสาหลักของครอบครัวเคยทำงานบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งในตัวเมืองบุรีรัมย์ ถูกรถจักรยานยนต์ขับย้อนศรพุ่งเข้ามาชน ขณะสามีขับรถจักรยานยนต์มุ่งหน้าจะกลับบ้าน เมื่อช่วงเย็นวันที่ 8 มี.ค.2554 ได้รับบาดเจ็บสาหัสศีรษะได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรงจนสลบ ขาซ้ายหัก 3 ท่อน แขนซ้ายไม่มีความรู้สึก จนสามีต้องกลายเป็นคนพิการช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ส่วนคู่กรณีบาดเจ็บเล็กน้อย


ต่อมาทางบริษัทที่สามีทำงานได้ส่งทนายความมาช่วยเหลือฟ้องร้องคู่กรณี โดยฟ้องแบบอนาถาเนื่องจากครอบครัวมีฐานะยากจน กระทั่งวันที่ 4 มิ.ย.2556 ศาลจังหวัดบุรีรัมย์ ได้พิพากษาให้จำเลยหรือคู่กรณีชดใช้ค่าเสียหายให้กับสามีรวมเป็นเงิน 1,848,029 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี แต่จนถึงขณะนี้ผ่านไปกว่า 10 ปีแล้ว ยังไม่ได้รับเงินจากคู่กรณีแม้แต่บาทเดียว

ล่าสุดเมื่อประมาณเดือน ก.พ.65 ทราบว่าคู่กรณีไปซื้อรถยนต์คันใหม่ และมีเงินซื้อลอตเตอรี่มาขาย แต่กลับเมินคำสั่งศาลไม่ยอมจ่ายค่าเสียหายให้กับสามีตนที่ต้องกลายเป็นคนพิการ จึงได้นำหลักฐานไปยื่นที่ศาลอีกครั้ง เพื่อขอให้ช่วยบังคับยึดทรัพย์คู่กรณีมาชดใช้เยียวยาให้กับสามี แต่กลับได้รับคำตอบว่าสิ้นสุดอายุความแล้วไม่สามารถยื่นบังคับยึดทรัพย์ได้ รู้เสียใจและท้อมาก เพราะที่ผ่านมาทั้งกู้ยืมเงิน นำบ้านไปจำนองเพื่อเป็นค่ารักษาสามีจนแทบหมดตัว และตนต้องลาออกจาก อสม.มาดูแลสามี แต่กลับไม่ได้รับเงินชดใช้เยียวยาจากคู่กรณีแม้แต่บาทเดียว เหมือนกับไม่เคารพคำตัดสินของศาลเลย


จึงได้ออกมาเรียกร้องขอความเป็นธรรม อยากให้หน่วยงานรัฐหรือผู้รู้กฎหมายช่วยเหลือด้วย เพราะคู่กรณีที่ทำผิดไม่เคยแสดงความรับผิดชอบอะไรเลย ส่วนคดีอาญาก็แค่รอลงอาญา ปัจจุบันใช้ชีวิตอยู่สุขสบาย ขณะที่ครอบครัวของตนเป็นฝ่ายเสียหายกลับไม่ได้อะไรเลย แถมยังหมดเงินและแทบหมดตัว บางครั้งหาทางออกไม่ได้ถึงขั้นจะคิดสั้น ก็อยากถามว่าความยุติธรรมอยู่ไหน

ด้าน นายสุดาวิทย์ ที่ถูกรถชนพิการ กล่าวทั้งน้ำตาว่า เมื่อก่อนเคยเป็นเสาหลักของครอบครัว แต่หลังจากถูกรถชนต้องกลายเป็นคนพิการช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ต้องเป็นภาระของภรรยาและลูกๆ คิดว่าจะได้เงินที่ศาลสั่งให้คู่กรณีชดใช้ค่าเสียหายให้กว่า 1,800,000 บาท มาเป็นค่าใช้จ่ายแบ่งเบาภาระครอบครัวบ้าง แต่จนถึงขณะนี้ผ่านไปกว่า 10 ปีแล้วยังไม่ได้รับเงินสักบาท ทั้งที่ศาลได้พิพากษาถึงที่สุดแล้ว แต่คู่กรณีไม่เคารพคำตัดสินศาลเลย อยากจะขอความเป็นธรรมด้วยอยากให้หน่วยงานรัฐและผู้รู้กฎหมายช่วยเหลือด้วย เพราะฝ่ายที่ผิดไม่รับผิดชอบอะไรเลย แต่ตนต้องสูญเสียทั้งร่างกาย จิตใจ และเงินทอง






กำลังโหลดความคิดเห็น