พิจิตร - ป.ป.ช.ตามส่องโครงการก่อสร้างประตูระบายน้ำวังจิก กั้นน้ำยมโพธิ์ประทับช้าง กรมชลประทานจัดงบจ้างผู้รับเหมากว่า 231 ล้าน สร้าง 7 ปี วันนี้ยังไม่เสร็จ แถมผู้รับเหมาอ้างฟันราคาจนขาดสภาพคล่อง ทิ้งงานขนของกลับเกลี้ยง
นายวราพงษ์ อินต๊ะโมงค์ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดพิจิตร พร้อมเจ้าหน้าที่กลุ่มงานป้องกันการทุจริต ผู้แทนนายอำเภอโพธิ์ประทับช้าง กำนัน ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่และเครือข่ายภาคประชาชนชมรม STRONG - จิตพอเพียงต้านทุจริตโพธิ์ประทับช้าง ได้ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้ากรณีโครงการก่อสร้างประตูระบายน้ำบ้านวังจิก อ.โพธิ์ประทับช้าง จ.พิจิตร
หลังกรมชลประทานได้จัดงบประมาณก่อสร้าง 231 ล้านบาทเศษ เริ่มสัญญางานก่อสร้างตั้งแต่ 15 พ.ย. 2559 สิ้นสุดสัญญา 1 ส.ค. 2562 แต่ปรากฏว่าจากวันนั้นถึงวันนี้ผู้รับจ้างทำงานไม่เป็นไปตามแผนงาน ทำไป หยุดไป ล่าสุดทิ้งงานขนเครื่องจักร อุปกรณ์ออกจากพื้นที่ก่อสร้างไปจนหมดสิ้น คิดเนื้องานที่ทำแล้วประมาณ 60% และงบคงเหลือที่ยังสามารถเบิกได้อีก 80 ล้านบาท
นายธนบดี รักสัตย์ ผอ.สำนักงานก่อสร้างชลประทานขนาดกลางที่ 3 ชี้แจงว่า ความก้าวหน้าของโครงการ ณ วันนี้อยู่ที่ 60% ซึ่งเป็นการทำงานก่อสร้างเทคอนกรีตฐานล่างที่อยู่ต่ำกว่าระดับพื้นดิน เหลือแค่เพียงงานอาคารส่วนบนและการติดบานประตู
แต่เนื่องจากผู้รับเหมาเดิมขาดสภาพคล่อง รวมถึงตอนที่เข้าประมูลแข่งขันก็ฟันราคาต่ำกว่าราคากลางเกือบ 80 ล้านบาท เหลือทุนในการทำงานเพียงแค่ 231 ล้านบาทเศษ เรียกได้ว่าส่วนที่จะเป็นกำไรหายไปจากการแข่งประกวดราคา เมื่อถึงตอนดำเนินงานจริงจึงเป็นเหตุขาดสภาพคล่อง ซึ่งผู้รับเหมารายนี้สร้างปัญหากับงานรับจ้างของกรมชลประทานในหลายแห่ง และถูกขึ้นบัญชีว่าเป็นผู้ละทิ้งงานแล้ว
อย่างไรก็ตาม ในส่วนโครงการก่อสร้าง ปตร.วังจิก กรมชลประทานได้พยายามติดต่อผู้รับจ้างรายเดิมเพื่อขอทราบความชัดเจนว่าจะทำต่อหรือจะยกเลิกยอมทิ้งงาน ซึ่งคงต้องรอฟังคำตอบอีกครั้งในวันที่ 28 มี.ค. 2566 ตามระเบียบและกฎหมายกำหนดตามมาตรการบอกเลิกสัญญา
ถ้าผู้รับเหมารายเดิมแสดงเจตนาจะขอทำงานต่อก็จะมีระยะเวลาให้ทำงานได้ยาวถึง 827 วัน และจะได้เงินค่าจ้าง 80 ล้านบาทในส่วนที่เหลือ แต่หากผู้รับเหมารายเดิมทิ้งงานกรมชลประทานก็ต้องใช้ระยะเวลาหาผู้รับจ้างรายใหม่ภายในเดือน ก.ย. 2566 เพื่อดำเนินการก่อสร้างให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลา 365 วัน
ด้านนายนรสิงห์ ยังเพ็ง กำนันตำบลวังจิก อ.โพธิ์ประทับช้าง กล่าวว่า อยากให้โครงการก่อสร้างประตูระบายน้ำวังจิกสร้างให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เนื่องจากประตูระบายน้ำในแม่น้ำยมอีก 3 แห่ง ที่กรมชลประทานทำเองต่างจะแล้วเสร็จภายในปี 2566/2567 นี้ เหลืออยู่แห่งเดียวคือ ปตร.วังจิก ที่ไม่รู้ว่าจะยืดเยื้อยาวไปถึง 827 วัน หรือ 365 วันกันแน่ แต่ถ้าเลือกได้อยากได้ผู้รับเหมารายใหม่หรืออยากให้กรมชลประทานทำเองน่าจะสำเร็จเสร็จได้ดีกว่าจ้างผู้รับเหมาทำ เพราะประวัติศาสตร์อาจซ้ำรอยอีก
ขณะที่นายวราพงษ์ ผอ.ป.ป.ช.ประจำจังหวัดพิจิตร ให้สัมภาษณ์ว่าจากการลงพื้นที่และประชุมหารือ เบื้องต้นพบว่าผู้รับจ้างขาดสภาพคล่อง ไม่ได้ดำเนินการก่อสร้างต่อเนื่อง และทิ้งงาน โดยรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่อยู่ในไซต์งานก่อสร้างทั้งหมดไปนานหลายเดือนแล้ว
การลงพื้นที่ครั้งนี้ไม่ได้มาจับผิดเรื่องการทุจริตแต่เป็นการมารับฟังปัญหาเพื่อช่วยกันหาแนวทางแก้ไขเพื่อที่จะให้การก่อสร้างดำเนินการแล้วเสร็จ ถ้า ปตร.วังจิกแห่งนี้สร้างแล้วเสร็จเกษตรลุ่มน้ำยมในพื้นที่ ต.วังจิก ต.รังนก และแหล่งน้ำคลองสาขาพื้นที่การเกษตรกว่า 30,000 ไร่ ก็จะได้รับประโยชน์มีน้ำทำนารวมถึงจะช่วยแก้ปัญหาน้ำท่วม-น้ำแล้ง ได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย
