เปิดมติ ครม. หลังไฟเขียว งบกลาง 300 ล้าน ให้ กรมชลประทาน สร้าง “ฝายชั่วคราวกั้นแม่น้ำปิง” (โครงการหนองขวัญ) แก้น้ำแล้ง พื้นที่กำแพงเพชร หลัง “ลุงตู่” ลงพื้นที่กลางปีก่อน เผย เจ้าของโครงการจ่อขอปกติปีหน้า 305 ล้าน แต่ ครม.ใจป้ำ! จัดงบกลางให้ หลัง “นายกฯ” เคยรับปาก หากได้กลับมาเป็นนายกฯ จะเร่งรัดดำเนินการให้เร็วยิ่งขึ้น แถมย้ำไม่ได้หาเสียง
วันนี้ (8 มี.ค.) มีรายงานจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วานนี้ (7 มี.ค.) ได้อนุมัติงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น วงเงิน 300,000,000 บาท ให้กรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566
เพื่อใช้เป็นค่าใช้จ่ายโครงการฝายชั่วคราวกั้นแม่น้ำปิง (โครงการหนองขวัญ) เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำ แก่ราษฎรในเขตพื้นที่อำเภอคลองขลุง จังหวัดกำแพงเพชร และจังหวัดนครสวรรค์บางส่วน
มีโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาวังยาง-หนองขวัญ สำนักงานชลประทานที่ 4 กรมชลประทาน เป็นเจ้าของโครงการ มีแผนระยะเวลาดำเนินการ 1 ปี
เป็นการก่อสร้างฝายเกเบี้ยน (Gabion) ขนาดความสูง 3.00 เมตร และสันฝายมีความยาว 337 เมตร งานสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้า พร้อมระบบส่งน้ำ จำนวน 2 แห่ง
งานก่อสร้างประตูระบายน้ำหนองขวัญ (ปตร. หนองขวัญ) 1 แห่ง ขนาด 3.00 X 4.00 เมตร
งานก่อสร้างรางน้ำ ขนาดความกว้าง 4.00 เมตร ความลึก 4.00 เมตร และความยาว 60.00 เมตร และงานปรับปรุงคลองส่งน้ำหนองขวัญ
โครงการนี้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางตรวจเยี่ยมเมื่อกลางปี 2565
ขณะที่ สำนักงบประมาณ แจ้งว่า ให้เจ้าของโครงการ เบิกจ่ายในงบลงทุน และขอให้จัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อขอทำความตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณตามขั้นตอนต่อไป
มีรายงานว่า ก่อนหน้านี้ โครงการดังกล่าว กรมชลประทาน ได้จัดทำแผนในปีงบประมาณ 2567 โดยจะขอรับการจัดสรรงบปกติ 305 ล้านบาทเศษ ระยะเวลาดำเนินการ 3 ปี (พ.ศ. 2567-2569)
โครงการ ตั้งอยู่ที่ปากคลองหนองขวัญ ตำบลวังแขม อำเภอคลองขลุง รูปแบบโครงการเป็นฝายชั่วคราว มีลักษณะเป็นฝายกล่องลวดตาข่าย (Gabions)
บรรจุหินก่อสร้างในแม่น้ำปิง เพื่อให้สามารถทดน้ำจากแม่น้ำปิงเข้าสู่คลองส่งน้ำหนองขวัญไปยังพื้นที่ทำการเกษตร
แก้ปัญหาระดับน้ำในแม่น้ำปิงต่ำกว่าธรณีประตูระบายน้ำเข้าคลองหนองขวัญเดิม ส่งผลต่อปัญหาการจัดการน้ำ รวมประมาณกว่า 100,000 ไร่
โดยในคราวนั้น นายกรัฐมนตรี รับปากว่า ผลักดันให้เกิดขึ้นให้ได้ โดยสนับสนุนงบประมาณในปี 2567 ในการดำเนินการ
หากนายกรัฐมนตรี ยังได้กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอยู่ ก็จะเร่งรัดดำเนินการให้เร็วยิ่งขึ้นเพื่อเกิดประโยชน์ต่อประชาชนทุกกลุ่ม ไม่ได้มาหาเสียง"นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันกล่าวไว้ในครั้งนั้น
