เกาะล้านขาดน้ำอย่างหนัก สม.จี้ฝ่ายบริหารหาทางแก้ คาดปัดฝุ่นโครงการวางท่อลอดน้ำประปาใต้ทะเล

ศูนย์ข่าวศรีราชา - เกาะล้านขาดแคลนน้ำประปาอย่างหนัก ทำชาวบ้าน ผู้ประกอบการเดือดร้อน สม.พัทยา จี้ฝ่ายบริหารหาทางแก้หลังบริษัทผลิตน้ำแบบ RO คู่สัญญาจ่ายน้ำไม่ทันความต้องการ หวั่นกระทบธุรกิจท่องเที่ยว ขณะรองนายกเมืองพัทยา เตรียมเสนอปัดฝุ่นโครงการศึกษาวางท่อลอดน้ำประปาใต้ทะเล 

จากกรณีที่ นายวสันต์ สุขขี สมาชิกสภาเมืองพัทยา ได้ตั้งกระทู้ถามสดถึงฝ่ายบริหารเมืองพัทยา ในการประชุมสภาเมืองพัทยา เมื่อวันที่ 20 มี.ค.ที่ผ่านมา เพื่อขอรับทราบถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาขาดแคลนน้ำประปาบนเกาะล้าน ซึ่งที่ผ่านมา มักถูกชาวบ้านร้องเรียนอยู่บ่อยครั้ง และต่างพากันรอคอยความหวังเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม

โดยเฉพาะผู้ประกอบการร้านอาหารและที่พักบนเกาะที่ได้รับความเดือดร้อนไม่แพ้กันเนื่องจากปัจจุบันนอกจากจะอยู่ในช่วงไฮซีซันแล้ว ยังเป็นช่วงการเดินทางเข้ามาของนักท่องเที่ยวต่างชาติหลังไทยเปิดประเทศ จนหวั่นว่าจะกระทบเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยว

และยังระบุอีกว่า สาเหตุของปัญหาน้ำประปาไม่เพียงพอต่อความต้องการบนพื้นที่เกาะล้าน เพราะมีเพียงการจัดทำระบบกรองน้ำทะเลเป็นน้ำจืด หรือระบบ RO (Reverse Osmosis) ของบริษัท อีสท์วอเตอร์ จำกัด แต่เพียงผู้เดียวจึงทำให้มีกำลังผลิตน้ำประปาไม่ถึง 50% ของปริมาณการใช้ในพื้นที่จนต้องแบ่งการจ่ายน้ำออกเป็น 4 โซน หมุนเวียนกันไปในแต่ละวันนั้น


ล่าสุด นายมาโนช หนองใหญ่ รองนายกเมืองพัทยา ได้ออกมาเปิดเผยถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาน้ำประปาบนเกาะล้าน ว่า มี 2 แนวทางคือ ในระยะสั้น เมืองพัทยาจะต่อสัญญากับบริษัท อีสท์วอเตอร์ฯ เพื่อให้ ผลิตน้ำทะเลเป็นน้ำจืด หรือน้ำประปาออกไปอีก 3 ปี

และจะให้มีการเพิ่มกำลังผลิตน้ำจาก 300 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน เป็น 1,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน เพื่อแก้ ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำในระยะสั้นให้ทั้งประชาชนและนักท่องเที่ยวบนเกาะล้าน

ส่วนการแก้ไขปัญหาในระยะยาว เมืองพัทยา จะได้ทำการศึกษาร่วมกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เกี่ยวกับโครงการขยายกำลังผลิตน้ำประปาเพิ่มอีก 3,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน ด้วยการวางท่อน้ำประปาจากฝั่งลอดใต้ทะเลไปเกาะล้าน และเมื่อนำไปรวมกับกำลังการผลิตน้ำประปาเดิมที่มีอยู่แล้ว 300 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน จะทำให้สามารถผลิตน้ำไปประปาได้เพิ่มเป็น 3,300 ลูกบาศก์เมตรต่อวันในอนาคต


โดยการดำเนินการดังกล่าวจะเป็นไปในลักษณะการร่วมทุนกับภาครัฐและเอกชน (Public Private Partner ship หรือ PPP)

“ในยุคการบริหารก่อนหน้านี้ พบว่า เคยมีการวางแผนเพื่อวางท่อลอดของระบบไฟฟ้าและการวางท่อลอดน้ำประปาใต้ทะเลจากฝั่งไปพื้นที่เกาะล้าน ก่อนจะส่งจ่ายให้ประชาชนและภาคธุรกิจท่องเที่ยว แต่ปัจจุบันกลับเหลือเพียงการวางท่อลอดระบบไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว ส่วนการวางท่อลอดเพื่อแก้ปัญหาน้ำดิบในช่วงประสบปัญหาแหล่งน้ำดิบไม่เพียงต่อการผลิตน้ำประปา จึงทำให้แนวคิดดังกล่าวถูกระงับไป อย่างไรก็ตาม เมืองพัทยาอาจจะต้องนำกลับมาศึกษาใหม่อีกครั้ง” รองนายกเมืองพัทยา กล่าว