กูเกิล คลาวด์ (Google Cloud) ประกาศความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับ AOT, SKY ICT และ EVme นำระบบคลาวด์ และการวิเคราะห์ข้อมูลช่วยธุรกิจท่องเที่ยวปรับตัวรับจำนวนนักท่องเที่ยวจำนวนมากที่เดินทางเข้าไทย พร้อมหนุนผู้ประกอบการนำดาต้ามาช่วยต่อยอดทางธุรกิจ
เอพริล ศรีวิกรม์ ผู้จัดการประจำประเทศไทยของ Google Cloud กล่าวว่า จากปริมาณการค้นหาข้อมูลที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวในช่วงหลังเปิดประเทศ (1 ต.ค.65) ที่ผ่านมา ทางกูเกิลเห็นถึงแนวโน้มการเดินทางที่เพิ่มขึ้น 3-5 เท่าตัว เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และนับจนถึงปัจจุบันยังมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ที่ผ่านมา ผู้บริโภคอาจจะใช้กูเกิลในการค้นหาข้อมูลการท่องเที่ยวเกี่ยวกับสายการบิน ที่พัก แต่ในขณะเดียวกัน ถ้านำข้อมูลมาวิเคราะห์เพิ่มเติมจะเห็นถึงการเติบโตในธุรกิจที่เกี่ยวข้องอย่างน่าสนใจ และจะเป็นข้อมูลที่ช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถเตรียมความพร้อมในการเพิ่มประสิทธิภาพของธุรกิจได้
“เทรนด์การค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับประะกันการเดินทางมีการค้นหาเพิ่มมากขึ้นถึง 900% การเดินทางเพื่อการแพทย์ เพิ่มขึ้น 500% และการท่องเที่ยวเชิงอาหาร เพิ่มขึ้น 110% ทำให้ สถาบันการเงิน ผู้ให้บริการทางด้านสุขภาพ สามารถใช้ข้อมูลเหล่านี้ไปช่วยให้ธุรกิจปรับตัวได้”
ขณะเดียวกัน เพื่อเป็นการสนับสนุนประเทศไทย โดยเฉพาะในการเร่งพื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวในประเทศไทย ทำให้เกิดความร่วมมือระหว่าง Google Cloud กับท่าอากาศยานไทย (AOT) ที่ดูแลสนามบินหลักในไทย 6 แห่ง ได้แก่ สุวรรณภูมิ ดอนเมือง ภูเก็ต เชียงใหม่ หาดใหญ่ และแม่ฟ้าหลวง SKY ICT ที่ดูแลระบบภายในสนามบิน และให้บริการแอป SAWASDEEbyAOT และ EVme แอปพลิเคชันเช่ารถยนต์ไฟฟ้า ที่จะนำระบบคลาวด์ข้อมูลแบบเปิดของกูเกิลไปช่วยในการส่งมอบประสบการณ์เดินทางในยุคใหม่ให้แก่ผู้บริโภค
ทั้งนี้ ข้อมูลจากทาง AOT คาดการณ์ว่าปริมาณนักท่องเที่ยวจะกลับมาใกล้เคียงกับในช่วงก่อนสถานการณ์แพร่ระบาดในช่วงปี 2567 ที่ไทยจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาถึง 142 ล้านคน และที่สำคัญกว่า 40% ของนักเดินทางจะเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เพิ่งเคยเดินทางด้วยเครื่องบิน ทำให้ต้องเร่งพัฒนาบริการดิจิทัลที่รองรับคนกลุ่มนี้มากขึ้น
ขยล ตันติชาติวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายเทคโนโลยี บริษัท สกาย ไอซีที จำกัด มหาชน กล่าวว่า แอปพลิเคชัน SAWASDEEbyAOT ถูกพัฒนาขึ้นบนระบบคลาวด์ของทางกูเกิลอยู่แล้ว เนื่องจากเป็นคลาวด์ที่สามารถเพิ่มจำนวนผู้ใช้งาน (Scalability) ที่เพิ่มขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง และยังเป็นแพลตฟอร์มที่ได้รับการยืนยันด้านมาตรฐานความปลอดภัยของข้อมูลด้วย
“การที่คลาวด์สามารถสเพิ่มจำนวนฐานผู้ใช้ได้อย่างต่อเนื่อง จะสอดคล้องกับปริมาณนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยมากขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่ในแง่ของความปลอดภัย เมื่อนักท่องเที่ยวที่เป็นต่างชาติรับรู้ว่าทำงานบนระบบคลาวด์ของกูเกิล จะช่วยให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลต่างๆ จะถูกจัดเก็บไว้อย่างปลอดภัย”
ผู้บริหารสกาย ไอซีที ยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ทางกูเกิลคลาวด์มีระบบที่ในการดูแลลูกค้าทั้งในแง่ของการเทรนนิ่งพนักงานในการนำดาต้าไปใช้งาน ซึ่งกลายเป็นว่าพนักงานที่เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ของทาง SKY มีความเชี่ยวชาญอยู่แล้ว ทำให้สามารถพัฒนาบริการเพื่อมาตอบโจทย์ของผู้บริโภคได้
“เมื่อมีข้อมูลการใช้งานของผู้ใช้จะช่วยให้ผู้ให้บริการสามารถนำเสนอสินค้า และบริการที่ตรงกับความต้องการของนักท่องเที่ยวได้ในลักษณะเฉพาะตัวของแต่ละบุคคล ซึ่งจะช่วยให้แอปพลิเคชันตอบโจทย์การใช้งานของนักเดินทางทุกกลุ่มที่เข้ามาในประเทศไทย”
เหตุผลหนึ่งเลยคือการที่เมื่อผู้ให้บริการมีดาต้า ทำให้สามารถรู้ล่วงหน้าได้ว่าผู้บริโภคต้องการอะไร และนำเทคโนโลยีมาช่วยเสริมในการให้บริการได้ตรงกับความต้องการมากขึ้น ซึ่งเป็นหนึ่งในแนวทางของกูเกิลคลาวด์ในการผลักดันระบบคลาวด์ข้อมูลแบบเปิดด้วย
ทั้งนี้ SKY ยังได้ขยายความร่วมมือกับ Google Maps เพิ่มเติมในการพัฒนาแผนที่ในอาคาร (Indoor Maps) ของสนามบินสุวรรณภูมิ เนื่องจากในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมามีการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างมาก และคาดว่าจะแล้วเสร็จเพื่อให้บริการภายในแอป SAWASDEEbyAOT ภายในไตรมาส 2 นี้