xs
xsm
sm
md
lg

พิรุธ?! แก๊งโจ๋ ม.4 ท่าตะโก อ้างเมา-แกว่งดาบพลาดโดนสาวขี่ จยย.ไหล่เกือบขาด ฝืนขี่รถหนีไปสิ้นใจคาป้อม ตร.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นครสวรรค์ - ญาติพี่น้องช็อกล้มทั้งยืนไม่พอ ยังอึ้งหนัก..หลังตำรวจตามจับแก๊งโจ๋ ม.4 ท่าตะโก รวม 14 คน หนึ่งในนั้นอ้างเมา แกว่งดาบพลาดไม่ตั้งใจฟันสาวขี่ จยย.พาน้องกลับจากเที่ยวงานงิ้วไพศาลีไหล่เกือบขาด ฝืนใจบึ่งรถหนี สุดท้ายไปสิ้นใจคาป้อม ตร.


หลังมีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมแก๊งวัยรุ่นรวมกลุ่มก่อเหตุใช้อาวุธมีดไปทำร้ายหญิงสาววัยรุ่นจนเสียชีวิต ขณะกำลังขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า สีดำ ทะเบียน ขนง 634 สระบุรี พาเพื่อนสาวรุ่นน้องกลับบ้านพัก ช่วงเที่ยงคืนวันที่ 17 มี.ค.66 ที่ผ่านมา บริเวณใกล้ตู้สายตรวจไดตาล พื้นที่หมู่ 1 ต.โคกเดือ อ.ไพศาลี

ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้สอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ไพศาลี นครสวรรค์ ทราบว่า คดีดังกล่าวมีผู้ต้องหาที่ถูกจับได้ทั้งหมด 14 คน เป็นวัยรุ่ยเยาวชนที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับมัธยมปลายโรงเรียนแห่งหนึ่งพื้นที่ อ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์ ส่วนผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือ น.ส.สุวนันท์ แพไม้ หรือโบว์ อายุ 22 ปี ทราบว่าเสียชีวิตจากการถูกอาวุธมีดฟันเข้าที่หัวไหล่ข้างขวาจนเกือบขาด และสิ้นใจในที่สุด

ขณะที่การสอบปากคำของตำรวจในขณะนี้ยังไม่แล้วเสร็จ เนื่องจากมีผู้ต้องหาที่เป็นเยาวชนหลายราย แต่ทราบตัวผู้ก่อเหตุที่ใช้อาวุธมีดฟันแล้ว คือ นายเปา ซึ่งให้การอ้างว่าได้ขี่รถจักรยานยนต์จากบ้านพักในพื้นที่ อ.ท่าตะโก พร้อมกับกลุ่มเพื่อนที่ถูกจับกุมทั้งหมดไปเที่ยวงานงิ้วในพื้นที่ อ.ไพศาลี ช่วงขากลับบ้านได้นำมีดยาวที่พกมาด้วยแกว่งโชว์ไปมาระหว่างที่รถจักรยานยนต์กำลังวิ่งด้วยความเร็ว จึงทำให้มีดแกว่งไปโดนที่ไหล่ของ น.ส.สุวนันท์อย่างแรงจนทำให้ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตดังกล่าว แต่ทางตำรวจยังไม่เชื่อในคำให้การ

ขณะที่นายมนู พิมพา เจ้าหน้าที่กู้ภัยร่มไทรไพศาลี เปิดเผยว่า ตอนที่เดินทางเข้าไปถึงจุดเกิดเหตุ น.ส.สุวนันท์กำลังนอนหายใจรวยรินเนื่องจากมีบาดแผลฉกรรจ์จากของมีคมฟันเข้าที่ไหล่ยาวจนเกือบถึงคอ ซึ่งทางกู้ภัยก็พยายามช่วยปั๊มหัวใจปฐมพยาบาลอย่างเต็มที่แล้ว แต่น้องเสียเลือดมากจึงไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้

สอบถามเพื่อนสาวของ น.ส.สุวนันท์ ที่มาด้วย บอกว่า ขณะที่ผู้ตายขับขี่รถจักรยานยนต์ออกจากงานงิ้วเพื่อพาเขากลับบ้าน ก็ได้ไปเจอวัยรุ่นกลุ่มใหญ่ในระหว่างทาง แล้วหลังจากนั้นเพียงไม่กี่วินาที น.ส.สุวนันท์ที่กำลังขี่รถก็โดนของมีคมเข้ามากระทบร่างอย่างแรงจนเลือดโชก

ซึ่ง น.ส.สุวนันท์ก็ยังแข็งใจทั้งที่ตัวเองบาดเจ็บหนัก รีบขี่รถไปยังป้อมตำรวจจุดสี่แยกไดตาลที่อยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 4 กิโลเมตรเพื่อขอความช่วยเหลือ แต่ปรากฏว่าตอนนั้นไม่มีตำรวจอยู่ประจำป้อมเนื่องจากไปดูแลความสงบเรียบร้อยในงานงิ้วกันหมด กว่าจะรีบออกจากงานงิ้วมาถึงก็ไม่ทันการณ์เสียแล้ว

ด้านน้าชายของนายเปา ผู้ก่อเหตุ เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวว่า พอรู้เรื่องว่านายเปาถูกจับ เพราะก่อเหตุใช้อาวุธมีดทำร้ายคนจนตาย ตนก็รีบมาโรงพักทันที แต่ตอนนี้ก็ยังไม่ได้คุยกับหลาน เนื่องจากยังถูกสอบปากคำ ส่วนตัวมองว่าหลานและกลุ่มเพื่อนน่าจะทำด้วยความคะนอง ทั้งหมดยังมีอายุเพียงแค่ 16-17 ปีเท่านั้น และยังเรียนอยู่แค่ชั้น ม.4

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดบนเส้นทางถนนสายไพศาลี-ท่าตะโก ซึ่งเป็นเส้นทางที่เกิดเหตุ พบว่ามีกล้องวงจรปิดของอู่ตรวจสภาพรถแห่งหนึ่งจับภาพกลุ่มแก๊งรถจักรยานยนต์ ลักษณะคล้ายแต่งซิ่ง เนื่องจากแต่ละคันมีระดับความสูงของตัวรถต่ำกว่ารถจักรยานยนต์แบบปกติทั่วไป ซึ่งในกล้องจะเห็นว่ามีการจับกลุ่มขี่วนเวียนไปมาด้วยความเร็ว แต่ก็ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่า เป็นกลุ่มของผู้ก่อเหตุใช้มีดฟัน น.ส.สุวนันท์หรือไม่

และเมื่อผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่วัดหนองปล้องโพช ต.สายลำโพง อ.ท่าตะโก ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานสวดพระอภิธรรมศพ น.ส.สุวนันท์ พบว่าครอบครัว รวมถึงญาติพี่น้องต่างพากันเดินทางมาร่วมพิธีรดน้ำศพช่วงเย็นวันที่ 18 มี.ค.ที่ผ่านมาด้วยความโศกเศร้าเสียใจ


นางกัลยา แพรไม้ อายุ 47 ปี มารดาของ น.ส.สุวนันท์ เปิดเผยทั้งน้ำตานองหน้าว่า รู้สึกช็อกตกใจมาก หัวใจแทบสลายที่ต้องเสียลูกสาวที่เป็นลูกคนเดียวของตนไป ซึ่งตนกับลูกอยู่ด้วยกันไม่เคยห่าง และปัจจุบันพักอาศัยอยู่ในพื้นที่เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา เนื่องจากตนทำงานอยู่ที่นั่น และลูกสาวก็ช่วยทำงานด้วย

แต่เมื่อวันที่ 5 มีนาคมที่ผ่านมาลูกขอกลับมาที่ อ.ท่าตะโก เพื่อจะมาหาเพื่อนๆ ร่วมเลี้ยงฉลองวันเกิด ซึ่งในวันเกิดเขาตนก็เดินทางมาหาเขาด้วย ก่อนจะรีบเดินทางกลับเขาใหญ่ไปทำงานก่อน

“ตอนตี 1 คืนวันที่ 17 มี.ค. มารู้ว่าลูกสาวคนเดียวถูกฟันจนตายก็ช็อกแบบล้มทั้งยืน และตอนนี้รู้สึกหัวใจสลายมาก จึงขอให้ทางตำรวจดำเนินคดีต่อกลุ่มคนที่ทำลูกฉันอย่างเด็ดขาดด้วย และจะไม่ให้อภัยอย่างแน่นอน ขอให้ตายตามกรรมที่ก่อไว้” นางกัลยากล่าว

ส่วนนางบังออน ทองแท่ง ป้าของ น.ส.สุวนันท์ ผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ได้เข้าไปสอบถามตำรวจถึงสาเหตุที่หลานสาวโดนฟันจนตายแล้วยิ่งอึ้งหนัก เพราะไม่เชื่อในคำให้การที่อ้างว่า แกว่ง และขว้างมีดไปกลางถนนจนไปถูกหลานสาวตายด้วยความบังเอิญ ไม่ได้ตั้งใจนั้น มันฟังไม่ขึ้น และญาติทุกคนไม่เชื่อในคำให้การเลย จึงขอให้ตำรวจเจ้าของคดีสอบปากคำอย่างละเอียด และทำหน้าที่ของท่านอย่างตรงไปตรงมาด้วย เพราะญาติๆ เริ่มชักจะไม่ไว้ใจแล้ว

ขณะที่ น.ส.จ๋า (นามสมมติ) อายุ 17 ปี ซึ่งเป็นคนซ้อนท้าย จยย.ผู้ตายแล้วมาประสบเหตุด้วยกัน ยืนยันว่า ขณะที่ซ้อนท้ายรถผู้ตายกลับบ้านเจอกลุ่มผู้ก่อเหตุกลุ่มใหญ่ ยืนจับกลุ่มกันอยู่ที่ริมถนนประมาณ 20 คน จอดรถจักรยานยนต์เรียงรายอยู่ริมทางเต็มไปหมด และเห็นว่ามีผู้ก่อเหตุคนหนึ่งเดินถือมีดดาบยาวออกมาจากข้างทางก่อนจะขว้างมีดดาบเข้ามากระแทกร่างของผู้ตาย

“วินาทีนั้นเห็นกลุ่มพวกนั้นแต่ไกลแล้ว จึงรีบบอกพี่โบว์ให้รีบเร่งรถขี่ไปให้พ้นเพราะกลัวว่าจะตามมาทำมิดีมิร้าย แต่เมื่อพี่โบว์เร่งเครื่องก็มีวัยรุ่นคนหนึ่งรีบปรี่ออกมาจากข้างทางแล้วขว้างมีดดาบยาวสวนมาโดนพี่โบว์ทันที ซึ่งตอนนั้นพี่โบว์บอกกับหนูว่าโดน แต่ยังไม่รู้สึกเจ็บอะไร มันชาๆ แต่หนูก็เห็นว่าไหล่ของพี่เริ่มมีเลือดออกมา จึงรีบค่อมตัวพี่โบว์มาขี่รถต่ออีกประมาณ 4 กิโลเมตรเพื่อไปขอความช่วยเหลือที่ป้อมตำรวจ แต่สุดท้ายพี่โบว์ก็สิ้นใจตายที่จุดนั้น”

น.ส.จ๋ายังระบุด้วยว่า กลุ่มคนที่ทำร้ายพี่โบว์เป็นแก๊งวัยรุ่น ซึ่งถือว่าก๋ากั่นพอสมควร และเพิ่งจะไปก่อเหตุทะเลาะวิวาทจนต้องขึ้นโรงพักเมื่อไม่นานมานี้ด้วย ส่วนสาเหตุที่กลุ่มเขามาขว้างมีดใส่พี่โบว์นั้น คนที่ทำชื่อเปา อ้างว่าก็ไม่รู้สาเหตุ บอกว่าเมาแค่นั้น และหลังจากตนได้ให้ปากคำต่อตำรวจเสร็จ ปรากฏว่าตำรวจก็มาบอกกับตนหลังจากที่สอบปากคำแล้วว่าอย่าไปบอกอะไรกับนักข่าวเพราะมันจะเสียรูปคดี จึงทำให้ตนมองไม่ออกว่าเขาต้องการสื่ออะไร


กำลังโหลดความคิดเห็น