ต้นต่อรักสามเศร้าปัด คนชกผัวตายไม่ได้เป็นชู้ ยันเป็นแค่เพื่อน ญาติผัวเอือมพฤติกรรมน้องสะใภ้

เปิดใจเมีย รักสามเศร้า หลังผัวโดนต่อยตายหน้าโรงพัก ยืนยันเป็นแค่เพื่อน ไม่ใช่ชู้ ญาติคนตายยันพฤติกรรมน้องสะใภ้ อยู่ไม่ติดบ้าน เผย น้องชายมีโรคประจำตัว เบาหวาน ความดัน โรคหัวใจ

จากกรณี เมื่อวันที่ 15 มี.ค. 66 เวลาประมาณ 22.00 น. เกิดเหตุทะเลาะวิวาทที่บริเวณหน้า สภ.บางแม่นาง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี บริเวณหน้าเสาธง เป็นเหตุให้ นายสุวัจน์ จันทร อายุ 41 ปี เสียชีวิต ส่วนผู้ก่อเหตุทราบชื่อ คือ นายวิชัย พัดเย็น อายุ 35 ปี ส่วนสาเหตุของการทะเลาะวิวาทในครั้งนี้ มาจาก น.ส.บี (นามสมมติ) อายุประมาณ 30 ปี ภรรยาผู้ตาย แอบไปมีสัมพันธ์ลึกซึ้งเชิงชู้สาวกับนายวิชัย โดยวันเกิดเหตุนายสุวัจน์ ได้ไปตาม น.ส.บี ที่บ้านของนายวิชัย จึงมีปากเสียงและกระทบกระทั่งกัน ก่อนนำตัวไปไกล่เกลี่ยที่โรงพัก แต่เรื่องไม่จบ ทั้งคู่เปิดศึกซัดกันที่หน้าโรงพักอีกรอบ ฝ่ายสามีล้มฟุบนอนแน่นิ่ง กู้ภัยเร่งปั๊มหัวใจนาน 20 นาที สุดท้ายเสียชีวิตในเวลาต่อมา คู่กรณีไม่หนี ยืนรอตำรวจพร้อมมอบตัว

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 17 มี.ค. 66 ที่ สภ.บางแม่นาง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางใหญ่ ได้ควบคุมตัวนายนายวิชัย พัดเย็น อายุ 35 ปี ผู้ต้องนำตัวฝากขังต่อศาลจังหวัดนนทบุรี

นายวิชัย เปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่า ตนยอมรับว่า ต่อยผู้ตายจริง เนื่องจากเขาโวยวายหน้าโรงพัก ไม่ยอมกลับบ้าน และมีเรื่องทะเลาะกับ 2 ผัวเมีย เพราะผัวจะพาเมียกลับบ้าน แต่เมียยังอยากนั่งกินเหล้าต่อ ตนเลยพามาโรงพักเพื่อให้ตำรวจระงับเหตุ และผู้ตายไม่พอใจตนเลยชกต่อยกัน ตนต่อยไป 2 ครั้ง เขาไม่ได้เสียชีวิตตอนนั้น นอนนิ่งตาค้าง ตนเลยไปดูและตบหน้าเพื่อเรียกสติ พยายามให้คนมาช่วย แต่ไม่ทัน ตนรู้จัก 2 ผัวเมียนี้ ไปกินเหล้าที่บ้านตนด้วยกันบ่อย ตนไม่ได้มีสัมพันธ์ชู้สาวกับเมียเขา ที่บ้านตนอยู่กันหลายคน ตนเลยเรียกให้ตำรวจไปดูที่บ้าน เพื่อระงับเหตุ เขาทะเลาะกันเองไม่เกี่ยวกับตน ไม่ตั้งใจทำให้เขาเสียชีวิต ตนพยายามจะช่วยเขาด้วยซ้ำ

ต่อมาเวลา 14.00 น. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังร้านเฟอร์นิเจอร์แห่งหนึ่งย่านบางใหญ่ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี พบ น.ส.วันเพ็ญ จันทร อายุ 43 ปี พี่สาวของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า น้องชายตนหึงหวงภรรยา ตนได้ข้อมูลมาจากตำรวจว่ามีการแจ้งความกัน มีเรื่องกัน 3 คน พอเขาออกมาจากโรงพักหลังแจ้งความ ได้มีการท้าต่อยกันข้างหน้า น้องชายตนน่าจะโดนชกก่อนจะนิ่งไป อาจจะเพราะทำงานเยอะ เหงื่อเยอะ ทำให้หมดสติและหัวใจหยุดเต้น ปั๊มหัวใจก็ไม่ขึ้น ตนไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ มาถึงที่เกิดเหตุตอนที่ตำรวจกำลังปั๊มหัวใจน้องชายอยู่ น้องชายตนกับภรรยาคบกันมานาน 10 ปีแล้ว มีลูกด้วยกัน 3 คน ตนเห็นพฤติกรรมน้องสะใภ้มานานแล้ว ที่เห็นๆ คือ ไม่ค่อยอยู่บ้าน มีไปหาผู้ชายคนอื่น ตนก็ไม่รู้ว่าเขาไปไหนยังไง

ส่วนน้องชายของตนก็หึงหวง เรื่องอื่นตนไม่รู้ รู้แค่น้องชายของตนชอบไปตามน้องสะใภ้เขาตามที่ต่างๆ อยากให้อยู่บ้าน แต่น้องสะใภ้ไม่ยอมอยู่ ส่วนใหญ่จะทะเลาะกันเอง แต่ไม่ค่อยได้ลงไม้ลงมือ มีบ้างเพราะเขารักน้องสะใภ้มาก น้องชายตนปรึกษาเรื่องน้องสะใภ้มาตลอด เคยบอกกับน้องชายว่าใช้ชีวิตนั่งตามภรรยาอยู่แบบนี้ ไม่เหนื่อยบ้างเหรอ ปล่อยเขาไปเถอะ น่าจะเป็นกรรมของน้องชายตนที่เป็นแบบนี้ น้องชายตนบอกว่าอยากจะไปบวช ซึ่งตนอยากให้ตั้งจิตให้ดี ใจมันร้อนลุ่ม ใจไม่สบาย คงเป็นกรรมของน้องชายตนที่จะต้องมีชีวิตแบบนี้ น้องชายตอนมีโรคประจำตัว คือ เป็นเบาหวาน กับความดัน มีโรคหัวใจด้วย เพิ่งทำบอลลูนมา หลังๆ ดีขึ้น แต่เพราะคงเกิดเหตุวิวาทเลยอาจทำให้หัวใจหยุดเต้น น้องชายตนไปเสียที่หน้า สภ.บางแม่นาง พยานแถวนั้นก็มีอยู่ ที่ว่าจะยอมไปเป็นพยานให้หรือเปล่า ตนไม่อยากคุยกับน้องสะใภ้ พูดตรงๆ เลย คือ น้องสะใภ้ตนทำตัวไม่ดี ตามศีลธรรมไม่ดีแน่นอน ตามกฎหมายตำรวจบอกเอาผิดไม่ได้ ตนไม่รู้จะทำยังไง น้องชายตนเสียชีวิต อยากได้ความยุติธรรมกับน้องชาย อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีตามความเป็นจริง ตนก็รับได้ไม่มีอะไร น้องสะใภ้ก็มาร่วมงานศพน้องชายแต่ไม่ได้มีการพูดคุยกับตน ตนพูดกับน้องสะใภ้ตลอดว่าหยุดทำพฤติกรรมแบบนี้ได้แล้ว มันหนักถึงขั้นพาลูกไปในทางไม่ดี น้องชายตนต้องมาเสียเพราะเขา แต่น้องสะใภ้จะเชื่อหรือไม่ก็สุดแล้วแต่เขา และมันเป็นเรื่องของเวรกรรม ทำยังไงได้อย่างนั้น

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวเดินทางเข้าพบ น.ส.บี อายุ 32 ปี ซึ่งเป็นแฟนสาวของนายสุวัจน์ จันทร อายุ 41 ปี ผู้เสียชีวิต น.ส.บี เปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่า วันเกิดเหตุตนกับผู้ต้องหาซึ่งเป็นเพื่อนของตนชื่อฮอคและแฟนของตนคือพี่ตุ๊กที่เสียชีวิต นั่งกินเหล้ากันอยู่ที่บ้านของผู้ต้องหา ตนได้มีปากเสียงกับแฟน ทะเลาะกันเสียงดัง นายฮอคพยายามห้าม แต่ทั้งสองไม่ฟัง จึงโทร.แจ้งตำรวจให้มาระงับเหตุ ต่อมาจึงเดินทางไปโรงพักทั้ง 3 คน ทางนายฮอคโมโหตำรวจว่าพูดจาไม่ดีกับตน ส่วนทางแฟนของตน ก็ไม่พอใจนายฮอคที่โทร.แจ้งตำรวจ จากนั้นก็ทำให้ทั้งคู่มีปากเสียงกันที่เสาธงหน้าโรงพัก ส่วนสาเหตุตนยังไม่รู้ว่าทะเลาะกันเรื่องอะไร ที่ตนเห็นเหตุการณ์ คือ นายฮอคได้ต่อยแฟนตนไปสองหมัด จนล้มลงไปแต่ยังมีสติ ตนจึงพยายามแยกทั้งสองฝ่ายตอนทะเลาะกัน ซึ่งตอนเกิดเหตุยังไม่มีตำรวจลงมาดู พอผ่านไปสักพัก ทางแฟนตนก็เหมือนหมดสติไป ตำรวจจึงประสานกู้ชีพให้มาช่วยคนเจ็บในที่เกิดเหตุทำการ CPR แต่ไม่เป็นผล ทำให้แฟนตนเสียชีวิตในเวลาต่อมา แฟนตนมีโรคประจำตัวคือ โรคหัวใจโต ก่อนหน้านี้แฟนตนก็เคยน็อกหมดสติลงไปแล้วครั้งนึง จนนำตัวส่ง รพ.ทางหมอเคยวินิจฉัยแล้วว่าจะอยู่ได้ไม่ถึงสิ้นปี ซึ่งตอนนี้แฟนตนจากไปแล้ว รู้สึกเสียใจ เมื่อก่อนทำดีกับตนทุกอย่าง อยู่บ้านทำกับข้าวให้ทุกวัน ตอนนี้แฟนได้จากไปแล้วตนกับลูกๆ ทั้ง 3 คนก็ต้องสู้ต่อไป ส่วนทางชาวเน็ตหรือสื่อที่ลงไปว่าตนเป็นสาเหตุทำให้แฟนเสียชีวิตตนไม่ขอตอบอะไรทั้งนั้น

น.ส.บี กล่าวต่ออีกว่า ส่วนความสัมพันธ์ของนายฮอค และแฟนของตนรู้จักกันมานานแล้ว โดยแฟนตนบอกเป็นญาติพี่น้องกับนายฮอค ซึ่งทั้งสองคนกินเหล้ากันเป็นประจำทุกวัน