เพชรบูรณ์ - สื่อใหญ่เมืองมะขามหวานขอ ตร.ตั้งข้อหาพยายามฆ่า..หลังเปิดโปงบ่อนพนันรอยต่อบ้านโตก-วังชมภูได้ 3 วัน โดนคนขับรถปาดหน้า-ทำร้ายร่างกายกลางวันแสกๆ จนบาดเจ็บสาหัส ต้องเย็บกว่า 10 เข็ม นอน รพ.กว่า 20 วัน ยันดูเจตนาแล้วเล็งเห็นผลแน่ ด้านผู้ถูกกล่าวหาขอให้การชั้นศาลเท่านั้น
นายศุภเดช คำพุฒ อายุ 69 ปี ผู้สื่อข่าวส่วนกลางหลายฉบับ และเป็นบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ชาวไทเพชรบูรณ์-อดีตนายกสมาคมสื่อมวลชนฯ หลายสมัย เปิดเผยถึงกรณีถูกคนร้ายใช้ของแข็งตีเข้าบริเวณศีรษะด้านขวา เมื่อเวลา 10.41 น. วันที่ 30 ม.ค. 66 จนได้รับบาดเจ็บสาหัสนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเพชรบูรณ์กว่า 20 วัน
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานจนสามารถขออนุมัติศาลจังหวัดเพชรบูรณ์ ออกหมายจับนายน้ำตาล (นามสมมติ) อายุ 36 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ที่ ต.หล่มสัก อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ในฐานความผิดทำร้ายร่างกายผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายสาหัส และทำให้เสียทรัพย์ และนายน้ำตาล (ผู้ต้องสงสัย) ได้เดินทางพร้อมทนายความเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองเพชรบูรณ์ ให้การปฏิเสธขอให้การในชั้นศาล และเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวนำผัดฟ้องฝากขังแล้ว
นายศุภเดช คำพุฒ ผู้เสียหาย ได้พาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่จุดเกิดเหตุอีกครั้ง พร้อมเล่าว่า ก่อนเกิดเหตุได้มีผู้สื่อข่าวที่รู้จักกันโทร.มาว่าจะเข้ามาหา โดยนัดกันบริเวณใกล้กับจุดเกิดเหตุ เมื่อตนขับรถกระบะออกจากร้านมาจุดนัดหมาย ก็มีรถกระบะยี่ห้อฟอร์ดสีดำขับตามมา ก่อนที่รถกระบะคันที่ก่อเหตุจะขับปาดหน้าแล้วลงจากรถใช้เหล็กแหลมเข้ามาทุบกระจกรถตนหลายครั้งจนทำให้กระจกแตก ซึ่งตนพยายามจะยื้อแย่งเหล็กดังกล่าว ผู้ก่อเหตุจึงชกใบหน้าตนหลายครั้งจนทำให้ได้รับบาดเจ็บ และขับรถพยุงตัวไปที่โรงพยาบาลเพชรบูรณ์
ผู้เสียหายยังเล่าต่ออีกว่า ก่อนที่จะถูกทำร้ายร่างกาย 3 วัน ตนเคยมีเรื่องเกี่ยวกับการเปิดโปงบ่อนการพนันในเขตรอยต่อ ต.บ้านโตก-ต.วังชมภู อ.เมือง เพชรบูรณ์ จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีต่อผู้ก่อเหตุให้ถึงที่สุด เพราะผู้ก่อเหตุกล้าลงมือทำร้ายกันกลางวันแสกๆ โดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย
พร้อมทั้งอยากให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีผู้ก่อเหตุฐานพยายามฆ่าด้วย เนื่องจากตนต้องเข้ารักษาตัวนานกว่า 20 วัน กระทั่งออกจากโรงพยาบาลฯ จึงได้นัดหมายนายสิทธิชัย ต๊ะอาจ ทนายความส่วนตัว เข้าพบพนักงานสอบสวน พ.ต.ท.วัชรินทร์ อินทรประพันธ์ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองเพชรบูรณ์ เพื่อนำคลิปขณะถูกทำร้าย-ให้ปากคำเพิ่มเติม
ด้านนายสิทธิชัย ต๊ะอาจ ทนายความ กล่าวว่า ได้พาผู้เสียหายเข้ามาพบพนักงานสอบสวน พร้อมสอบถามพนักงานสอบสวน ว่าผู้ก่อเหตุหรือคนที่เจ้าหน้าที่ติดตามตัวมาดำเนินคดีนั้น ใช่คนที่ทำร้ายร่างกายผู้เสียหายจริงหรือไม่ เจ้าหน้าที่ตำรวจยืนยันว่าจับไม่ผิดอย่างแน่นอน แต่เบื้องต้นผู้ก่อเหตุยังไม่ให้การในชั้นสอบสวน ยืนยันว่าจะให้การในชั้นศาล ซึ่งคนร้ายรายนี้นั้น เป็นบุคคลตามหมายจับ และตามภาพจากกล้องวงจรปิด ที่เจ้าหน้าที่ตรวจสอบก่อนที่จะออกหมายจับ
อย่างไรก็ตาม เนื่องจาก พงส.ได้ตั้งข้อหาผู้ก่อเหตุเพียงทำร้ายร่างกายผู้อื่นสาหัส จึงอยากขอความเป็นธรรมให้แก่ผู้เสียหายให้เจ้าหน้าที่เปลี่ยนข้อหาเป็น “พยายามฆ่า” เนื่องจากบริเวณที่ผู้ก่อเหตุกระทำการ เป็นจุดที่สำคัญคือศีรษะมีบาดแผลเย็บกว่า 10 เข็ม และผู้ก่อเหตุยังพยายามที่จะใช้กำลังต่อยผู้เสียหายหลายครั้งแบบไม่ยอมหยุด ก่อนจะหยุดกระทำแล้วหลบหนีไปเพียงเพราะรถยนต์คันที่วิ่งตามหลังมาได้บีบแตรไล่เท่านั้น
“อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเปลี่ยนจากข้อหาทำร้ายร่างกายบาดเจ็บ เป็นพยายามฆ่า ซึ่งผู้เสียหายจะเดินหน้ายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี, รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม และทุกหน่วยงานทั้งส่วนกลาง-ส่วนภูมิภาค เพื่อดำเนินคดีให้ถึงที่สุดด้วย”