ไล่ชนวนเหตุนายต้นจุดไฟเผา-แทงแฟนสาวเสียชีวิตในนิคมฯ บางปู มีทั้งพิษหึงหวง บวกกับตกงาน แถมเมียจะปล่อยให้ยึดรถ ก่อนหน้านี้ขู่จะฆ่า ต้องไปนอนห้องเพื่อนราว 2 สัปดาห์ ก่อนกลับเข้าหอพักวันเกิดเหตุ ชาวเน็ตขุดคุ้ยพบวีรกรรมเมื่อ 9 ปีก่อน ก่อเหตุเอามีดจ่อหน้าท้องขู่จะฆ่าตัวตายหลังแฟนคนก่อนหน้าจะตีจาก
เมื่อวันที่ 6 มี.ค. จากกรณีที่คนร้ายทำร้ายร่างกายหญิงสาวและพลเมืองดี โดยการราดน้ำมันจุดไฟเผา ก่อนใช้อาวุธมีดแทงผู้หญิงเสียชีวิตในคูน้ำ สภาพศพถูกแทงตามลำตัวในสภาพเปลือยกาย มีเพียงยกทรงสีแดงอยู่ที่ลำตัว แล้วคนร้ายขับรถยนต์มิตซูบิชิ ไทรทัน แบบแค็บ สีขาว ทะเบียน 2 ฒฏ 5783 กรุงเทพมหานคร หลบหนีไป เหตุเกิดหน้าโรงบำบัดน้ำเสีย ภายในซอย 9A นิคมอุตสาหกรรมบางปู ต.แพรกษา อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ตามที่นำเสนอไปแล้วนั้น
อ่านประกอบ : สุดเหี้ยม ชายจุดไฟเผาหญิงเปลือยกายใช้มีดแทงดับ ขับมิตซูฯ ไทรทันแบบแค็บสีขาวหลบหนี
รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า ผู้ก่อเหตุคือนายพิสุทธิ์ศิริ จันทร์โสดา หรือต้น อายุ 42 ปี ภูมิลำเนาชาว ต.หนองบัว อ.บ้านฝาง จ.ขอนแก่น ส่วนผู้เสียชีวิตคือ น.ส.ณัฐนันท์ จูมฟอง หรือหมอน อายุ 45 ปี อาชีพพนักงานบริษัทในนิคมอุตสาหกรรมบางปู ต่อมาตำรวจ สภ.บางปูตามไปยังบ้านเช่าแห่งหนึ่งในซอยเทศบาลบางปู 93 (รสทิพย์) ถนนสุขุมวิท ต.บางปูใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ เพื่อติดตามตัวแต่ไม่พบ คาดว่าหลบหนีออกนอกพื้นที่ไปแล้ว สอบถามเพื่อนบ้านทราบว่านายต้นคบหากับ น.ส.ณัฐนันท์ มาประมาณ 2-3 ปี แต่ช่วงหลังมีปากเสียงกัน เพราะผู้ชายมีปัญหาเรื่องเงินค้างค่างวดรถ และเป็นคนขี้หึง ทะเลาะเรื่องครอบครัวอยู่บ่อยครั้ง
สำหรับผู้บาดเจ็บคือ นายประภาส กาภูคำ อายุ 58 ปี คนขับรถสองแถวรับ-ส่งพนักงาน ซึ่งจอดอยู่หน้าโรงบำบัดน้ำเสีย ถูกไฟไหม้ที่หลังและแขน เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุรถกระบะมิตซูบิชิ ไทรทัน แบบแค็บ สีขาว ขับเข้ามาในซอย 9A ก่อนที่จะเข้ามาจอดบริเวณหน้าโรงบำบัดน้ำเสีย แล้วมาขอซื้อไอศกรีมจากลุงที่ขายอยู่ข้างทาง ปรากฏว่าหญิงคนดังกล่าวอาศัยจังหวะที่รถจอดอยู่วิ่งหนีลงมาจากรถ พร้อมกับคว้าผ้าถุงมาปิดหน้าอก ร้องความช่วยเหลือ
จากนั้นคนร้ายลงจากรถ ไม่สวมเสื้อ สวมกางเกงฟุตบอลสีดำลงมาจากรถ พยายามจะกระชากแขนหญิงคนดังกล่าว พร้อมกล่าวว่า "ไม่ให้ยุ่ง เรื่องของผัวเมีย" ต่อมาคนร้ายเดินกลับไปที่รถ หยิบขวดน้ำมันเข้ามาสาดใส่หญิงคนดังกล่าวและจุดไฟเผา ทำให้ตนถูกไฟลวกที่แขน ส่วนหญิงคนดังกล่าวพยายามวิ่งหนีตายลงไปในคูน้ำ แต่คนร้ายถืออาวุธมีดวิ่งตามลงไปในคูน้ำ ก่อนแทงเข้าที่ร่างกายซ้ำหลายครั้งจนหญิงคนดังกล่าวแน่นิ่งไป หลังก่อเหตุคนร้ายยังข่มขู่ผู้ที่เห็นเหตุการณ์ ไม่มีใครกล้าเข้าไปช่วย ก่อนที่จะขึ้นรถขับหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว
รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า ก่อนหน้านี้ น.ส.ณัฐนันท์เคยระบายให้เพื่อนฟังว่ามีปัญหาทะเลาะกับนายพิสุทธิ์ศิริ แต่ไม่บอกว่าเรื่องอะไร ส่วนนายพิสุทธิ์ศิริ ทราบว่าช่วงนี้ตกงานอยู่ ไม่รู้ว่ามีปัญหาอะไรเกิดขึ้น ขณะที่เพื่อนของนายพิสุทธิ์ศิริเปิดเผยว่า นายพิสุทธิ์ศิริได้โทรศัพท์ผ่านไลน์กับเพื่อนว่า "เดี๋ยวคอยติดตามข่าวเร็วๆ นี้ก็แล้วกัน" แล้วลบข้อความที่เคยพิมพ์ระบายทิ้งทั้งหมด จากนั้นติดต่อไม่ได้อีก ที่ผ่านมานายพิสุทธิ์ศิริเคยระบายว่ามีปัญหาเรื่องหนี้สินและเป็นคนขี้หึง หวงเมีย คิดว่าเมียตีจากแล้วทิ้งภาระหนี้สินไว้ เป็นหนี้ค่างวดรถมิตซูบิชิ ผ่อนในชื่อ น.ส.ณัฐนันท์ ซึ่งฝ่ายหญิงจะปล่อยให้ไฟแนนซ์ยึด
ส่วนเพื่อนสนิท น.ส.ณัฐนันท์เปิดเผยว่า น.ส.ณัฐนันท์บอกเลิกนายพิสุทธิ์ศิริ แต่นายพิสุทธิ์ศิริไม่ยอมเลิก ถึงขั้นขู่ฆ่า น.ส.ณัฐนันท์จึงต้องไปอยู่กับเพื่อน 2 สัปดาห์เพราะเกรงว่าจะถูกทำร้าย เมื่อวานนี้จะไปงานบวช น.ส.ณัฐนันท์จะกลับเข้าห้องไปเปลี่ยนเสื้อผ้า แต่เพื่อนบอกว่าอย่าเข้าไปเพราะฝ่ายชายจ้องว่าจะฆ่า กระทั่งได้ไปงานบวชก่อนแยกย้าย ขณะเดียวกันเมื่อเวลาประมาณ 17.00 น. วันที่ 5 มี.ค. น.ส.ณัฐนันท์นั่งรถจักรยานยนต์รับจ้างกลับไปที่หอพัก ภาพวงจรปิดจับภาพเอาไว้ได้
อีกด้านหนึ่ง บนโซเชียลฯ ขุดคุ้ยภาพจากเฟซบุ๊ก "ร่วมกตัญญูพุเตย ศราวุธ โชติวรรณ" พบว่านายพิสุทธิ์ศิริ จันทร์โสดา หรือต้น เคยก่อเหตุใช้อาวุธมีดจะทำร้ายตัวเอง เมื่อวันที่ 30 ต.ค. 2557 หรือเมื่อเกือบ 9 ปีก่อน ที่บ้านหลังหนึ่งในพื้นที่หมู่ 8 ต.ท่าโรง อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นบ้านญาติแฟนเก่านายพิสุทธิ์ศิริ โดยเจ้าตัวใช้มีดยาวจะแทงตัวเอง และตะโกนไม่ให้ใครเข้าไปใกล้ พร้อมเรียกร้องขอพบแฟนสาว สุดท้ายสงบสติอารมณ์เอาไว้ได้
ก่อนเกิดเหตุแฟนคนเก่าพยายามตีตัวออกห่าง มาอาศัยบ้านญาติ แต่นายพิสุทธิ์ศิริได้จ้างมอเตอร์ไซค์รับจ้างมาจากบ้านที่จังหวัดขอนแก่นถึง อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ จากนั้นใช้น้ำมันเบนซินที่เตรียมมาราดตัวเองหวังจะจุดไฟเผาร่างของตนแต่ไม่พบแฟนสาวจึงยังไม่จุดและกลับไปพักที่ห้องเช่ากับมอเตอร์ไซค์รับจ้าง จนรุ่งเช้าจึงมาที่บ้านหลังดังกล่าวอีกครั้งเพื่อก่อเหตุดังกล่าว หลังใช้ความพยายามเกลี้ยกล่อมอยู่ 2 ชั่วโมง ผู้ก่อเหตุจึงยอมสงบสติอารมณ์วางมีดแล้วยอมเจรจากับตำรวจในที่สุด