xs
xsm
sm
md
lg

พรึบ!ชาวเชียงราย ทั้งไทยพื้นราบ-พี่น้องกลุ่มชาติพันธุ์ ขึ้นป้ายค้านผุดเหมืองหินบนยอดดอยแม่จัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เชียงราย – ทั้งไทยพื้นราบ-พี่น้องกลุ่มชาติพันธุ์ลาหู่ ลีซอ เย้า อาข่า ชาวเชียงราย ค้านเต็มพิกัด..ร่วมขึ้นป้ายทั่ว 2 หมู่บ้าน ค้านบริษัทเอกชนเปิดเหมืองหินบนยอดดอยแม่จัน หวั่นผลกระทบสิ่งแวดล้อม ฝุ่นคลุ้ง-น้ำเสียทะลักลงพื้นที่การเกษตร


ขณะนี้ชาวบ้านธรรมจาริก หมู่ 13 ต.แม่จัน และบ้านดงสุวรรณ หมู่ 15 ต.สันทราย อ.แม่จัน จ.เชียงราย ซึ่งมีทั้งชาวไทยพื้นราบ ชาวลาหู่ ลีซอ เย้า อาข่า ได้ร่วมกันติดป้ายคัดค้านการอนุญาตให้มีการทำเหมืองแร่ในพื้นที่ ตามริมถนนหนทาง-ป้ายชื่อหมู่บ้าน ตลอดจนหน้าอาคารร้านค้าต่างๆทั่วทั้ง 2 หมู่บ้าน

และเมื่อ 1 มีนาคม 66 ที่ผ่านมา นายคมสัน ศรีเจริญพันธ์ ผู้ประสานงานฯ พร้อมด้วยนายนิติพล ผิวเหมาะ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ชาว อ.แม่จัน ได้นำชาวบ้านทั้ง 2 หมู่บ้าน ยื่นหนังสือต่อนายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย

ระบุว่าทางบริษัท ณ สโตน จำกัด ได้ยื่นคำขอประทานบัตรทำเหมืองแร่แกรนิตเพื่ออุตสาหกรรมก่อสร้างในเขตบ้านธรรมจาริก หมู่ 13 ต.แม่จัน อ.แม่จัน ซึ่งทางพนักงานอุตสาหกรรมแร่ประจำท้องที่ จ.เชียงราย ได้รับจดทะเบียนไว้เป็นคำขอที่ 1/2565 เนื้อที่ประมาณ 65 ไร่ 24 ตารางวา

ต่อมาได้จัดรับฟังความคิดเห็นของประชาชนภายในหมู่บ้านธรรมจาริกเมื่อวันที่ 26 ม.ค.และบ้านดงสุวรรณ หมู่ 5 ต.สันทราย อ.แม่จัน ซึ่งอยู่ใกล้กันเมื่อวันที่ 27 ม.ค.ที่ผ่านมา และล่าสุดพบมีการปรับหน้าดินจึงเกรงว่าจะมีการเปิดเป็นเหมืองแร่โดยที่ชาวบ้านทันตั้งตัว ซึ่งชาวบ้านยังคงกังวลว่าหากมีการเปิดเหมืองแร่ดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิต สิ่งแวดล้อมและสุขภาพ

รวมทั้งได้มีการปรับหน้าดินจึงเกรงว่าจะมีการเปิดเป็นเหมืองแร่โดยที่ชาวบ้านทันตั้งตัวจึงได้พากันไปยื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะเป็นประธานคณะกรรมการแร่ จ.เชียงราย ให้พิจารณา โดยชาวบ้านให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าปัจจุบันเอกชน ทำให้ชาวบ้านได้ติดป้ายคัดค้านตามจุดต่างๆ ในพื้นที่แล้วหลายจุดเพื่อแสดงจุดยืน


ด้านนางกฤษนันท์ ทะวิชัย อุตสาหกรรม จ.เชียงราย ที่เข้ารับเรื่องจากชาวบ้านพร้อมชี้แจงว่า ณ ขณะนี้ เอกชนรายดังกล่าวเพียงแต่ยื่นคำขอประทานบัตรทำเหมืองแร่เท่านั้น แต่ยังไม่ได้เข้าไปดำเนินการใดใด และตาม พ.ร.บ.แร่ ปี 2560 ก็มีข้อกำหนดให้ประชาชนมีส่วนร่วมจึงได้มีการรับฟังความเห็นของประชาชน ซึ่งตนได้เดินทางไปร่วมทั้งวันที่ 26-27 ม.ค.ที่ผ่านมาแล้วก็ได้รับทราบว่ามีชาวบ้านที่มีความกังวลและไม่อยากให้มีเหมืองแร่เกิดขึ้นในพื้นที่

ดังนั้นจึงได้เสนอรายงานต่อทางผู้ว่าฯเชียงราย ให้รับทราบแล้วและอยู่ระหว่างรายงานต่อกรมโรงงานอุตสาหกรรม แต่ชาวบ้านได้รวมตัวกันมายื่นหนังสือคัดค้านก่อน ซึ่งก็คงจะมีผลทำให้การขอทำเหมืองแร่ต้องหยุดไปก่อนด้วย


นางกฤษนันท์ กล่าวอีกว่าที่ดินที่บริษัท ณ สโตน จำกัด ขอประทานบัตรทำเหมืองแร่เป็นที่ดินส่วนบุคคล ดังนั้นการที่มีการปรับพื้นที่อาจไม่เกี่ยวข้องกับกฎหมายเหมืองแร่ แต่ก็จะร่วมกับชาวบ้านในการเฝ้าติดตามว่ามีการละเมิดหรือไม่ อย่างไรก็ตามในอนาคตหากว่าภาคเอกชนประสงค์จะทำความเข้าใจกับประชาชนและจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นก็สามารถทำได้ ซึ่งท้ายที่สุดผลจะเป็นอย่างไรก็แล้วแต่ประชาชนในพื้นที่ว่าจะให้การยอมรับหรือไม่

"ปัจจุบันเชียงรายมีแหล่งหินในพื้นที่ 4 แห่งอยู่ในพื้นที่ ต.ศรีค้ำ อ.แม่จัน อ.ป่าแดด และ อ.เวียงชัย ซึ่งถือว่าแหล่งหินที่มีอยู่ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ กระทั่งมีภาคเอกชนหลายรายขอประทานบัตรทำเหมืองหินดังกล่าว แต่ก็ขึ้นอยู่กับภาคเอกชนและประชาชนในแต่ละพื้นที่จะทำความเข้าใจกัน เพราะหลายแห่งมีการขุดแล้วดูแลเรื่องสิ่งแวดล้อมและสุขภาพได้ดี ซึ่งการขุดหินทำให้เกินฝุ่นพีเอ็มระดับ 10 ไม่ใช่ 2.5 และหลายแห่งเมื่อขุดเสร็จทำให้เกิดแหล่งน้ำสำหรับชุมชนได้อีกด้วย" นางกฤษนันท์ กล่าว




กำลังโหลดความคิดเห็น