ปราจีนบุรี - จังหวัดปราจีนบุรี เร่งงบฟื้นฟูพื้นที่วนพุทธอุทยานน้ำตกเขาอีโต้ พื้นที่ประดิษฐานองค์หลวงพ่อพุทธทวารวดีศรีปราจีน พระนาคปรกใหญ่สุดในประเทศ หลังชาวบ้านร้องเรียนถูกปล่อยทิ้งร้างจนทรุดโทรมเสียหาย ซ้ำยังมีผึ้งหลวงเข้าทำรังบนเศียรพญานาค จนชาวบ้านแห่ตีเลขเด็ด
จากกรณีที่ นายณรงค์ชัย ภักดีณรงค์ชัย ประธานชมรม STRONG-จิตพอเพียงต้านทุจริตจังหวัด ได้นำคณะกรรมการชมรม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ช. ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณวนพุทธอุทยานน้ำตกเขาอีโต้ ต.เนินหอม อ.เมืองปราจีนบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่ประดิษฐานองค์หลวงพ่อพุทธทวารวดีศรีปราจีน พระนาคปรกใหญ่สุดในประเทศ ที่มีขนาดหน้าตักกว้าง 14.9 เมตร สูง 34 เมตร หลังได้รับร้องเรียนจากชาวบ้านว่าสภาพองค์พระเกิดการชำรุดทรุดโทรมอย่างหนัก
อีกทั้งสถานที่โดยรอบ และด้านล่างใต้องค์พระยังเกิดการผุพังอย่างเห็นเด่นชัด ทั้งที่การก่อสร้างดังกล่าวเป็นเงินบริจาคกว่า 50 ล้านบาท ที่มาจากพลังศรัทธาของพุทธศาสนิกชนเพื่อเฉลิมพระเกรียติ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ (พระนามขณะนั้น) ในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 5 รอบ 60 พรรษา ในปี พ.ศ.2558 แต่ผ่านมาแค่ 8 ปี กลับถูกปล่อยให้กลายเป็นสถานที่รกร้างทรุดโทรม และไม่มีหน่วยงานรัฐเข้ามารับผิดชอบดูแล
กระทั่ง นายรณรงค์ นครจินดา ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี ต้องออกมายืนยันว่าขณะนี้อยู่ระหว่างการเร่งของบประมาณในการดูแล และปรับปรุงพื้นที่โดยรอบวนพุทธอุทยานน้ำตกเขาอีโต้ เพื่อให้เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวปราจีนบุรี และให้เป็นพุทธอุทยานโลก แลนด์มาร์กการท่องเที่ยวทางพุทธศาสนาของจังหวัดต่อไป
และยังบอกอีกว่า สาเหตุที่ทำให้วนพุทธอุทยานน้ำตกเขาอีโต้ ถูกทิ้งร้างเพราะสถานการณ์ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ทำให้ไม่มีนักท่องเที่ยว และในบางจังหวะเกิดการล็อกดาวน์พื้นที่ แต่หลังจากนี้ทางจังหวัดจะพยายามฟื้นฟูสถานที่แห่งนี้ให้กลับมาสวยงาม
อีกทั้งในวันที่ 1-2 มี.ค.จะได้นิมนต์เจ้าคุณธงชัย เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พร้อมพระสงฆ์ รวม 200 รูป ร่วมสวดเจริญพุทธมนต์เพื่อเป็นสิริมงคลแก่จังหวัดปราจีนบุรี และชาวไทยทั่วประเทศ
นายณรงค์ชัย ประธานชมรม STRONG-จิตพอเพียงต้านทุจริตจังหวัดปราจีนบุรี เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า จากการตรวจสอบสภาพองค์พระปางนาคปรกใหญ่ที่สุดในประเทศไทย พบว่าบริเวณองค์พระทรุดโทรมมาก ขณะที่บริเวณพื้นล่างฐานพระซึ่งเป็นห้องโถงพบว่ามีน้ำขังและมีตะไคร่น้ำ
ส่วนศาลารายโดยรอบพังเสียหายทั้งหมดและห้องน้ำไม่สามารถใช้การได้ อีกทั้งยังมีขยะ และถุงยางอนามัยถูกทิ้งเกลื่อน จนทำให้ประชาชนไม่กล้าที่จะเข้าไปกราบไหว้สักการะเพราะเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย
“นอกจากสภาพพื้นที่ภายนอกและองค์พระจะทรุดโทรมเสียหายอย่างหนักแล้ว ฝ้าเพดานภายในอาคารที่อยู่โดยรอบยังผุพัง พื้นกระเบื้องและแอร์กว่า 10 เครื่องชำรุดเสียหายทั้งหมด ทั้งที่มูลค่าในการก่อสร้างใช้เงินมากกว่า 50 ล้านบาท จึงเป็นปัญหาว่าต่อจากนี้ไปใครจะดูแล แลนด์มาร์ก แดนธรรมะ ซึ่งเป็นที่พึ่งทางใจของชาวปราจีนบุรี”
และจากการลงพื้นที่ตรวจสอบของผู้สื่อข่าวพบว่า หลังเกิดการร้องเรียนของชาวบ้านพื้นที่รกร้างที่มีหญ้าขึ้นเต็ม ได้เริ่มมีการแผ้วถางบ้างแล้วจนทำให้นักปั่นจักรยานสามารถเข้ามาปั่นจักรยานเพื่อออกกำลังกายได้
แต่พบว่าบริเวณใต้คางพญานาคทั้ง 7 เศียรที่แผ่พังพานปกคลุมองค์พระ มีผึ้งหลวงเข้ามาทำรังจนครบทั้ง 7 เศียร เช่นเดียวกับใต้รักแร้ทั้งซ้ายขวา จนทำให้ในวันใกล้หวยออกมักจะมีชาวบ้านในพื้นที่พากันเข้ามานับรังผึ้ง เพื่อตีเป็นเลขเด็ดเสี่ยงดวง ซึ่งในงวดนี้ชาวบ้านต่างพักันตีเลขเด็ด 72