xs
xsm
sm
md
lg

เผยเงินกีบอ่อนค่าซ้ำเจอทุนจีน-เวียดนามรุกตลาดลาวทำยอดออเดอร์สินค้าจากไทยลด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



หนองคาย - พิษเงินกีบอ่อนค่าอย่างแรงทำธุรกิจส่งออกสินค้าข้ามแดนที่หนองคาย ออเดอร์ลดฮวบ ลูกค้าฝั่งลาวต้องใช้เงินเพิ่มขึ้นเท่าตัวซื้อสินค้าได้ในปริมาณเท่าเดิม ขณะที่ตัวเลขนำเข้าส่งออกผ่านด่านพรมแดนหนองคายยังดี ไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 66 ทำยอดได้กว่า 5,000 ล้านบาทแล้ว


นายรังสฤษฏ์ เข็มทอง ผู้จัดการบริษัทไลออนกรีน จำกัด ต.หนองกอมเกาะ อ.เมืองหนองคาย เปิดเผยถึงสถานการณ์การส่งออกสินค้าไปยัง สปป.ลาว หลังจากพ้นช่วงโรคระบาดโควิด-19 ไปแล้วนั้น ถือเป็นช่วงชะลอตัว เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงที่ยังไม่เกิดโรคโควิด-19 ทางบริษัทไลออนกรีนเป็นตัวแทนนำส่งสินค้าหลายประเภท โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับยารักษาโรคและเวชภัณฑ์ การส่งออกค่อนข้างดี เกิดสภาพคล่อง แต่เมื่อเกิดโรคโควิด-19 มาจนถึงขณะนี้แม้ว่าจะสามารถเปิดประเทศได้มาระยะหนึ่งแล้ว แต่ยอดคำสั่งซื้อสินค้าก็ยังคงไม่เพิ่มขึ้น ลูกค้าก็ลดปริมาณการสั่งซื้อลง จากเมื่อก่อนเคยส่งออกสินค้าไป สปป.ลาวเดือนละประมาณ 4-5 ครั้ง แต่ตอนนี้ส่งได้เพียงเดือนละครั้งเท่านั้น

สาเหตุมาจากหลายปัจจัย ทั้งการรุกเข้ามาของทุนจีน ทุนเวียดนามในประเทศลาวที่มากขึ้น ประกอบกับค่าเงินกีบที่อ่อนลงมาก ส่งผลกระทบโดยตรงต่อยอดคำสั่งซื้อจากไทยเพราะคนลาวต้องเพิ่มเงินกีบเป็นเท่าตัวเพื่อให้ได้ซื้อสินค้าในปริมาณเท่าเดิมแต่ราคาสูงขึ้น เพราะขณะนี้ค่าเงินกีบ 500 กีบ เท่ากับ 1 บาท จากก่อนมีโควิด เงินกีบ 250 กีบ เท่ากับ 1 บาท ลูกค้าลาวจึงเปลี่ยนพฤติกรรมการสั่งซื้อสินค้าลง

“ผู้ประกอบการขนส่งสินค้าเข้าออกต่างประเทศทำได้เพียงขอให้สถานการณ์ทางการเงินของประเทศเพื่อนบ้านดีขึ้น ค่าเงินแข็งขึ้น หากไม่เท่าเมื่อก่อน 250 กีบ ก็ไม่ควรจะอ่อนกว่า 400 กีบ ยิ่งเงินเฟ้อมากยิ่งได้รับผลกระทบมากตามไปด้วย” นายรังสฤษฏ์กล่าว




ทั้งนี้ จากข้อมูลของศุลกากรหนองคาย พบว่า ในเดือน ม.ค. 66 มีรถยนต์ที่ผ่านเข้าออกด่านพรมแดนหนองคาย 46,290 คัน ส่วนใหญ่เป็นรถยนต์นั่งส่วนบุคคล 29,994 คัน รถบรรทุกสินค้าผ่านแดนขาออก 1,789 คัน และเป็นรถยนต์บรรทุกสินค้า 7,389 คัน โดยในช่วงปีงบประมาณ 2566 นับตั้งแต่เดือน ต.ค. 65-ม.ค. 66 สินค้าที่ส่งออกหลักยังเป็นน้ำมันปิโตรเลียมและน้ำมันที่ได้จากแร่บีทูมีนัส

นอกจากที่เป็นน้ำมัน, รถยนต์และยานยนต์อื่นๆ ที่ออกแบบสำหรับขนส่งบุคคล, พลังงานไฟฟ้า, น้ำ น้ำแร่ น้ำอัดลม, ของที่ใช้บรรจุสินค้าทำด้วยพลาสติก, ของปรุงแต่งชนิดที่ใช้ในการเลี้ยงสัตว์, กากน้ำมัน, เครื่องโทรศัพท์, หม้อแปลงไฟฟ้า และอื่นๆ มีมูลค่ารวม 5,653 ล้านบาท ส่วนสินค้านำเข้าหลัก เป็นประเภทพลังงานไฟฟ้า, ปุ๋ยที่ได้จากแร่หรือปุ๋ยเคมี, เครื่องโทรศัพท์สำหรับเครือข่ายเซลลูลาร์ และอื่นๆ รวมมูลค่าประมาณ 1,496 ล้านบาท


อย่างไรก็ตาม ภาพรวมของภาคธุรกิจที่จังหวัดหนองคายพบว่าเริ่มดีขึ้น ร้านค้าสะดวกซื้อที่อยู่หน้าด่านพรมแดนหนองคายสามารถกลับมาเปิดให้บริการ 24 ชั่วโมงได้อีกครั้งหลังจากต้องปิดให้บริการในช่วงกลางคืน รถยนต์บรรทุกสินค้าผ่านเข้าออกมากขึ้น มีรถยนต์บรรทุกสินค้าจอดรอทำพิธีการศุลกากรมากขึ้นกว่าเดิมเท่าตัว


กำลังโหลดความคิดเห็น