บุรีรัมย์ - ส่องสมรภูมิบุรีรัมย์...“ภูมิใจไทย” จองกวาดเก้าอี้ ส.ส.ยกจังหวัดทั้ง 10 เขต “เนวิน” ส่งลูกชายคนโตลงชิมลางสนามเลือกตั้ง โดยมีพลพรรคจาก “เพื่อไทย” เปิดศึกใหญ่เต็มรูปแบบหวังเจาะฐานที่มั่น “ตระกูลชิดชอบ” ปักธง ส.ส.บุรีรัมย์ให้จงได้ อีกทั้งยังมีคู่แข่งจากค่ายสีส้ม “ก้าวไกล” พร้อมสอดแทรกได้ตลอดเวลา
สนามเลือกตั้ง จ.บุรีรัมย์ มักถูกจับตามองว่าเป็นพื้นที่แดงเดือด สำหรับการเลือกตั้งทุกระดับและทุกสนาม มาในทุกยุคสมัย เพราะเป็นสมรภูมิทางการเมืองที่มีการแข่งขันกันค่อนข้างรุนแรง จากผู้สมัครของพรรคการเมืองต่างๆ โดยมีนักการเมือง “พรรคภูมิใจไทย” ในสาย “ตระกูลชิดชอบ” เป็นตัวยืน ขณะที่บรรดาว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.จากพรรคการเมืองต่างๆ เริ่มมีการเคลื่อนไหวกันอย่างคึกคัก โดยเฉพาะ “พรรคเพื่อไทย” และ “พรรคก้าวไกล”
ทั้งนี้ จ.บุรีรัมย์ มีทั้งหมด 23 อำเภอ เดิมทีการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมามี 8 เขตเลือกตั้ง ส.ส. 8 คน เป็นของพรรคภูมิใจไทยทั้งหมด แต่การเลือกตั้งครั้งหน้านี้จำนวนเขตเลือกตั้งเพิ่มขึ้นเป็น 10 เขต มี ส.ส.ได้ 10 คน ถึงแม้ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนในการแบ่งการเลือกตั้งใหม่ทั้ง 10 เขต แต่บรรดาว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.บุรีรัมย์ ทั้ง ส.ส.ปัจจุบัน และอดีต ส.ส.บุรีรัมย์ ต่างทยอยเปิดตัวกันแล้ว โดยเฉพาะในสายของพรรคภูมิใจไทย พรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกล
เริ่มต้นที่ เขตเลือกตั้งที่ 1 แชมป์เก่าคือ “นายสนอง เทพอักษรณรงค์” ส.ส.บุรีรัมย์ พรรคภูมิใจไทย เป็น ส.ส.บุรีรัมย์มาแล้วหลายสมัย คราวที่แล้วได้คะแนน 41,513 คะแนน ซึ่งยังคงขยันลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง มีฐานเสียงแน่นเกือบทุกหมู่บ้าน โดยเฉพาะนายกเทศมนตรี และนายก อบต. รวมถึงสมาชิกสภาเทศบาล และสมาชิก อบต.ที่ยังคงเป็นแกนนำฐานคะแนนหลักในพื้นที่เลือกตั้ง
ส่วนคู่แข่งเริ่มมีการเปิดตัวบ้างแล้ว จาก “พรรคเพื่อไทย” จะส่ง “นายพีรภัทร ทองธีรสกุล” หรือ “ทนายปีเตอร์” ลงสมัครฯ หวังล้มช้าง ปักธง ส.ส.เพื่อไทยในเขตนี้ ส่วนผู้สมัครคนอื่นยังไม่มีการเคลื่อนไหว
เขตเลือกตั้งที่ 2 ทางพรรคภูมิใจไทยเตรียมส่ง “นายไชยชนก ชิดชอบ” หรือ “นก” ลูกชายคนโตของ “นายเนวิน ชิดชอบ” ประธานสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด “นายไชยชนก” ใช้ชีวิตและศึกษาอยู่ที่ประเทศอังกฤษนานถึง 17 ปี ตั้งแต่ 8 ขวบ หลังเรียนจบได้กลับมาช่วยดูแลทีมฟุตบอลและสนามแข่งรถ Chang International Circuit ในฐานะรองผู้อำนวยการสายงานการตลาดและการสื่อสาร บริษัท บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จำกัด ทั้งจัดการแข่งขัน สร้างระบบ และหาทีมมาแข่งขัน
“นายไชยชนก” ยังมีส่วนสำคัญพา บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ก้าวกระโดดจากสนามฟุตบอล สนามแข่งรถ มาสู่โลกของเกมจัดตั้งทีม E-Sports โดยได้นำทีม E-Sports ของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด คว้าแชมป์ประเทศไทย ทั้งยังได้เปิด Predator Arena ขึ้นที่บุรีรัมย์ เพื่อเป็นสนามแข่งขัน รวมทั้งเป็นอะคาเดมีให้ผู้มีใจรักในกีฬาอี-สปอร์ตอีกด้วย
แม้ “นายไชยชนก” จะถูก “นายเนวิน” ผู้เป็นพ่อวางตัวให้ลงชิมลางสนามการเมืองระดับชาติเป็นครั้งแรก แต่ตลอดเวลาที่ผ่านมา “นายไชยชนก” ต่างขยันลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชนตามงานต่างๆ ทั้งในเขต อ.เมือง อ.ชำนิ และ อ.พลับพลาชัย
ส่วนคู่แข่งเริ่มเปิดตัวบ้างแล้ว จาก “พรรคเพื่อไทย” จะส่ง “นายปรัญชญา ตรีกาญจนา” คราวที่แล้ว สวมเสื้อ “พรรคอนาคตใหม่” มาเป็นคู่ชิงในสนามนี้
เขตเลือกตั้งที่ 3 พรรคภูมิใจไทย ส่ง “นายอดิพงษ์ ฐิติพิทยา” ส.ส.บุรีรัมย์ พรรคภูมิใจไทย ซึ่งเป็น ส.ส.สมัยแรก คราวที่แล้วได้คะแนน 47,609 คะแนน เป็นเขตฐานเสียงของ “ตระกูลชิดชอบ” แน่นที่สุด ครอบคลุมทั้งพื้นที่ หากไม่มีอุบัติเหตุทางการเมืองคงไม่มีใครล้ม ส.ส.เดิมได้ และเขตนี้เป็นพื้นที่ของ “นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ” รมว.คมนาคม น้องชายเนวิน ซึ่งโยกตัวเองไปลงปาร์ตี้ลิสต์แทน ส่วน นายอดิพงษ์ ซึ่งเป็นตัวแทนของนายศักดิ์สยาม นั้นขยันลงพื้นที่พบปะประชาชนแบบถึงลูกถึงคนอยู่เป็นประจำ จนเป็นที่รักใคร่ของชาวบ้านเป็นอย่างมาก
ขณะที่ พรรคเพื่อไทย เตรียมส่ง “ว่าที่ ร.ต.เสนาะ พรหมสวัสดิ์” คราวที่แล้ว สวมเสื้อไทยรักษาชาติ แต่ถูกยุบพรรค มาลงสมัครฯ หวังล้มช้าง สร้างเซอร์ไพรส์ ส่วนพรรคการเมืองอื่นยังไม่มีการเปิดตัวลงแข่ง
เขตเลือกตั้งที่ 4 พรรคภูมิใจไทย ส่ง “นายรังสิกร ทิมาตฤกะ” หรือ “เสี่ยหนุ่ม” ส.ส.บุรีรัมย์ พรรคภูมิใจไทย เป็น ส.ส.มาแล้วหลายสมัย คราวที่แล้วได้คะแนน 34,212 คะแนน ถือว่าเป็นนักการเมืองอีกคนหนึ่งที่มีความใกล้ชิดกับ “ตระกูลชิดชอบ” การเลือกตั้งครั้งหน้าจึงเป็นที่คาดหมายว่าจะรักษาแชมป์ได้อีกสมัย เพราะมีกลุ่มการเมืองท้องถิ่นในพื้นที่ ทั้งสมาชิกสภา อบจ.บุรีรัมย์ เขต อ.สตึก, นายกเทศมนตรี และนายก อบต.บางแห่ง ให้การสนับสนุน มีฐานคะแนนเสียงเกือบเต็มพื้นที่ อีกทั้งยังขยันลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชนอย่างต่อเนื่อง
แต่ต้องพบศึกหนักพอสมควร เมื่อมีหลายพรรคการเมืองต่างขันอาสาเสนอตัวมา โดย พรรคเพื่อไทย เตรียมส่ง “นายสุรศักดิ์ นาคดี” อดีต ส.ส.บุรีรัมย์ คราวที่แล้วได้คะแนน 27,956 คะแนน มาเป็นคู่แข่งคนสำคัญ ซึ่งมีกระแสตอบรับที่ดี ต้องการให้เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นในพื้นที่ ประกอบกับนายสุรศักดิ์ขยันลงพื้นที่พบปะชาวบ้านอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งหากนายรังสิกรจะรักษาแชมป์ไว้ได้คงต้องหืดขึ้นคอเป็นแน่
อีกทั้งยังมี “นางสาวอิสรีย์ อภิสิริรุจิภาส” จาก พรรคก้าวไกล คราวที่แล้วได้คะแนน 11,560 คะแนน มาเป็นคู่แข่งอีกคน
ไปต่อกัน เขตเลือกตั้งที่ 5 พรรคภูมิใจไทย ส่ง “นายสมบูรณ์ ซารัมย์” ส.ส.บุรีรัมย์ พรรคภูมิใจไทย เป็น ส.ส.สมัยแรก คราวที่แล้วได้คะแนน 45,821 คะแนน หลังจาก นายโสภณ ซารัมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม แกนนำพรรคภูมิใจไทย ไม่ได้ลงเขตนี้โยกตัวเองไปลงเขตอื่นแทน หลังจากได้รับเลือกเป็น ส.ส.ก็ขยันลงพื้นที่ต่อเนื่อง ส่วนคู่แข่งที่เปิดตัวแล้ว คือ “ครูเล็ง พยุงแสนกุล” จาก พรรคเพื่อไทย ขณะที่พรรคการเมืองอื่นยังไม่มีการเปิดตัว
มากันต่อ เขตเลือกตั้งที่ 6 “นายโสภณ ซารัมย์” ส.ส.บุรีรัมย์ พรรคภูมิใจไทย อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม แกนนำพรรคภูมิใจไทย เป็น ส.ส.บุรีรัมย์มาแล้วหลายสมัย คราวที่แล้วได้คะแนน 47,481 คะแนน มีฐานคะแนนเสียงจากกลุ่มผู้นำท้องถิ่น กลุ่มสตรี และ อสม. ขยันลงพื้นที่มาอย่างต่อเนื่อง ส่วนคู่แข่ง พรรคเพื่อไทย ส่ง “นายประยูร เพ็งจันทร์” อดีต สมาชิกสภา อบจ.บุรีรัมย์ ขณะพรรคการเมืองอื่นยังไม่มีการเปิดตัวลงแข่ง
เขตเลือกตั้งที่ 7 พรรคภูมิใจไทย ส่ง “นายพรชัย ศรีสุริยันโยธิน” อดีต ส.ส.บุรีรัมย์หลายสมัย ปัจจุบันดำรงตำแน่งรองนายก อบจ.บุรีรัมย์ คราวที่แล้วลงสวมเสื้อพรรคเพื่อไทย ได้คะแนน 33,562 คะแนน พ่ายแพ้ให้แก่ นายไตรเทพ งามกมล จากพรรคภูมิใจไทย คราวนี้กลับมาสวมเสื้อภูมิใจไทย แต่โยกมาลงเขตนี้แทน
ส่วนคู่แข่ง พรรคเพื่อไทย ส่ง “นายพรรณธนู วรรณกางซ้าย” ลูกชาย นายหนูแดง วรรณกางซ้าย อดีต ส.ส.บุรีรัมย์ หลายสมัย ส่วนพรรคไทยสร้างไทยส่ง “นายพีรวัส พันธุ์สัมฤทธิ์” รองโฆษกพรรคฯ ลงชิงเก้าอี้
ไปที่ เขตเลือกตั้งที่ 8 พรรคภูมิใจไทย ส่ง “นายไตรเทพ งามกมล” ส.ส.บุรีรัมย์ พรรคภูมิใจไทย เป็น ส.ส.มาแล้ว 2 สมัย คราวที่แล้วได้คะแนน 43,327 คะแนน มีฐานเสียงเหนียวแน่นในเขตเทศบาลเมืองนางรอง อ.นางรอง ส่วนคู่แข่งแม้ยังไม่มีความชัดเจน แต่เริ่มมีการเปิดตัวบ้างแล้ว จาก “พรรคเพื่อไทย” ที่เสนอตัวให้พรรคพิจารณาส่งลงสมัคร คือ “นายสุรศักดิ์ เพชรสว่าง” อดีตสมาชิกสภา อบจ.บุรีรัมย์ ที่ขยันลงพื้นที่พบปะพี่น้องมาอย่างต่อเนื่อง และอาศัยฐานเสียงจาก นายโสภณ เพชรสว่าง อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 และอดีต ส.ส.บุรีรัมย์ ส่วนพรรคการเมืองอื่นยังไม่มีการเปิดตัว
มาที่ เขตเลือกตั้ง 9 พรรคภูมิใจไทย ส่ง “นายรุ่งโรจน์ ทองศรี” ส.ส.บุรีรัมย์ พรรคภูมิใจไทย น้องชายของนายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็น ส.ส.มาแล้ว 3 สมัย คราวที่แล้วได้คะแนน 40,597 คะแนน ขยันลงพื้นที่ทำงานการเมืองมาอย่างต่อเนื่อง
ส่วน พรรคเพื่อไทย เตรียมส่ง “นายสมนึก เฮงวาณิชย์” อดีต ส.ส.บุรีรัมย์ คราวที่แล้ว สวมเสื้อไทยรักษาชาติ แต่ถูกยุบพรรค หวังกลับมาทวงเก้าอี้ ส.ส.มีฐานคะแนนเสียงหลักอยู่ที่ อ.ละหานทราย
และสุดท้าย เขตเลือกตั้งที่ 10 พรรคภูมิใจไทย ส่ง “นายจักรกฤษณ์ ทองศรี” ส.ส.บุรีรัมย์ พรรคภูมิใจไทย ลูกชายนายเพิ่มพูน ทองศรี อดีต ส.ว.บุรีรัมย์ อดีต ส.ส.บุรีรัมย์ หลานชาย นายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็น ส.ส.มาแล้ว 3 สมัย คราวที่แล้วได้คะแนน 39,215 คะแนน ตระกูล “ทองศรี” เป็นลูกพี่ลูกน้องของ นายเนวิน ชิดชอบ และมีฐานเสียงแข็งแกร่งมากใน อ.ประโคนชัย ที่ตระกูลทองศรียึดครองมาตลอด ผนวกกับอำเภอบ้านกรวดบางส่วนเป็นฐานเสียงแน่นของภูมิใจไทย
แต่อาจต้องพบศึกหนัก เมื่อ พรรคเพื่อไทย เตรียมส่ง “นายจำรัส เวียงสงค์” อดีต ส.ส.บุรีรัมย์ มาเป็นคู่แข่ง อีกทั้งยังมี “นายภูมิสิทธิ์ มาประจง” จาก พรรครวมไทยสร้างชาติ คราวที่แล้วลงพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเลือกตั้งคราวที่แล้วได้คะแนน 5,222 คะแนน มาเป็นคู่แข่งอีกคน
เมื่อประเมินสถานการณ์โดยรวมกับการเลือกตั้ง ส.ส.บุรีรัมย์ ที่จะเกิดขึ้นในปีนี้ ทั้ง 10 เขตเลือกตั้ง วัดผลต่างได้เสียทั้งจากฐานคะแนนนิยมส่วนตัวและพรรคแล้ว “พรรคภูมิใจไทย” เจ้าถิ่นย่อมตั้งเป้าหมายจองกวาดเก้าอี้ ส.ส.บุรีรัมย์ทั้ง 10 ที่นั่ง แบบยกจังหวัดแน่นอน แต่คงเป็นงานหนักสาหัสพอสมควร เมื่อทางพรรคเพื่อไทยมุ่งหวังเจาะฐานที่มั่น “ตระกูลชิดชอบ” ให้สั่นคลอน
ศึกเลือกตั้ง ส.ส.ครั้งนี้จะเป็นการวัดฝีมือของ “อนุทิน ชาญวีรกูล” หัวเรือใหญ่แห่งพรรคภูมิใจไทยและบารมี “ตระกูลชิดชอบ” ว่าจะกวาด ส.ส.บุรีรัมย์ได้ยกจังหวัดทั้ง 10 เขตหรือไม่ และค่ายกลอำนาจเก่าของ “ตระกูลชิดชอบ” จะถูกเพื่อไทยตีแตกหรือเปล่า คงมีคำตอบในอีกไม่ช้านี้