ราชบุรี - รองผู้การราชบุรี เผยจับกุมคนร้ายบุกคว้ามีดยกพวกทำร้ายอดีตเพื่อนร่วมงาน 3 วันติด สอบสวนพบเป็นลูกตำรวจจริง ก่อนมีคำสั่งห้ามยุ่งกับคดี เบื้องต้น ผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ไม่รับว่าพยายามฆ่า
วันนี้ (12 ก.พ.) ที่สถานีตำรวจภูธรปากท่อ พล.ต.ต.วชิรพงษ์ อมราพิทักษ์ ผบก.ภ.จว.ราชบุรี มอบหมายให้ พ.ต.อ.นฤดม มารศรี รอง ผบก.ภ.จว.ราชบุรี แถลงข่าวจับกุมกลุ่มวัยรุ่นบุกไล่ฟันทำร้ายอดีตเพื่อนร่วมงานในร้านสยามชัย ที่ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการสถานีตำรวจภูธรปากท่อ โดยมี พ.ต.ท.สมบูรณ์ มูรพันธุ์ รอง ผกก.(สอบสวน) รรท.ผกก.สภ.ปากท่อ พ.ต.ท.วัชรินทร์ มีศรีผ่อง รอง ผกก.สส.สภ.ปากท่อ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง
โดยพฤติกรรมของคนร้ายสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 9 ก.พ.เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งข่าวว่าเกิดเหตุทำร้ายร่างกายด้วยอาวุธมีด และทรัพย์สินภายในร้ายเสียหาย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบนายณัฐพงษ์ ไชยบุดดี ถูกของมีคมฟันเข้าที่แขนข้างซ้าย ได้รับบาดเจ็บ ก่อนไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลปากท่อ หลังเกิดเหตุทางผู้ต้องหาได้พากันหลบหนี
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐาน ทราบชื่อผู้ต้องหาทั้ง 3 คนคือ นายณัฐพล จาดป้อม อายุ 24 ปี นายคณินท์ ขุนณรงค์ อายุ 25 ปี และนายณภัทร ขุนณรงค์ อายุ 25 ปี ก่อนขออนุมัติหมายศาลจับกุมตัวทั้ง 3 คน ในข้อหาร่วมกันพยายามฆ่า ร่วมกับบุกรุกโดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยมีอาวุธหรือร่วมกันกระทำผิดตั้งแต่สองคนขึ้นไป ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ ร่วมกันพาอาวุธติดตัวเข้าไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยเปิดเผย หรือโดยไม่มีเหตุอันควร
ต่อมา วันที่ 10 ก.พ. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งว่ามีเหตุทะเลาะวิวาทที่ร้านสยามชัย จึงไรีบเดินทางมาที่เกิดเหตุ ก่อนจะทราบว่าเป็นผู้กระทำผิดซ้ำที่เดิม จึงได้เข้าทำการจับกุมตามหมายศาล พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาตามหมายศาลที่ระบุ ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ปากท่อ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 3 คน อยู่ระหว่างควบคุมตัวในเรือนจำจังหวัดราชบุรี
จากการสอบสวนทราบว่า นายคณินท์ และนายณัฐพล ได้ทำงานอยู่ที่ร้านสยามชัย ร่วมกับนายณัฐพงษ์ ผู้ได้รับบาดเจ็บ ต่อมาได้มีการพูดคุย แซวกันไปมาจนเกิดมีปากเสียงกันในกลุ่มไลน์ ก่อนจะท้าทายกัน ทำให้นายณัฐพล และนายคณินท์ ไปตามนายณภัทร มาหาเรื่องที่ร้านจนกระทั่งเกิดการใช้กำลังต่อสู้กัน หลังจากมีการต่อสู้กันทางเจ้าของร้านจึงได้ไล่นายคณินท์ และนายณัฐพล ออกจากการเป็นพนักงาน ทำให้สร้างความเจ็บแค้น และคิดว่าเป็นต้นเหตุทำให้ถูกไล่ออกจากงาน จนมาเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น
ส่วนประเด็นเป็นลูกของเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น ขณะนี้ได้มีหนังสือคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจรายดังกล่าวไปปฏิบัติหน้าที่ในงานอื่นที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการดำเนินคดีนี้ ส่วนผู้ต้องหาทั้ง 3 รายได้การรับสารภาพว่าได้ร่วมกันทำร้ายร่างกายจริง แต่ไม่รับสารภาพว่าร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น
ทั้งนี้ ทางผู้บัญชาการภาค 7 และผู้บังคับการตำรวจภูธรราชบุรี ได้สั่งการให้ดำเนินคดีนี้ด้วยความเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย
