ตร.โชคชัย ฝากขัง-ไม่ค้านประกัน 4 โจ๋อุ้มทำร้ายแอดมินเว็บพนันหลังทำยอดตก ระบุ ไม่มีพฤติการณ์หลบหนี แต่ศาลไม่ให้ประกัน ชี้ คดีมีโทษสูง เกรงยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน
วันนี้ (11 ก.พ.) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษกพนักงานสอบสวน สน.โชคชัย นำตัว นายชัยชนะ หรือ บอล ช่วยบุญนาค อายุ 32 ปี, นายธเนศ เล็กบรรจง อายุ 34 ปี, นายกฤษฎา แจ่มจำรัส อายุ 32 ปี, นายสุทัศน์ พิมพ์เสน อายุ 24 ปี ผู้ต้องหาที่ 1-4 ที่ร่วมกันทำร้ายแอดมินเว็บพนัน พร้อมขู่ฆ่าทั้งครอบครัว หลังยอดกำไรลดลง มาฝากขังครั้งแรก
พฤติการณ์สรุปว่า เมื่อกลางปี พ.ศ. 2563 นายเชิดเกียรติ ศักดิ์ศรี ผู้เสียหาย ได้รู้จักกับ น.ส.พัชญ์วัฒรัญญ์ หรือ ชมพู่ พุ่มเรียบ เป็นผู้ดูแลเว็บไซต์พนันออนไลน์ ต่อมา นายเชิดเกียรติ ได้ติดต่อขอทำงานเป็นผู้ดูแลเว็บไซต์พนันออนไลน์ ต่อมาเมื่อวันที่ 12 ม.ค. 66 น.ส.พัชญ์วัญญ์ ได้ให้นายเชิดเกียรติ ไปพบที่ห้างแห่งหนึ่งใน จ.ชลบุรี และเมื่อเดินทางไปถึง ได้มี นายอัษฎาวุธ หรือ ท็อป สุขประเสริฐ หนึ่งในกลุ่มผู้ดูแลเว็บไซต์ ได้ขับรถมารับไปพบกับ น.ส.พัชญ์วัญญ์ นายมนตรี หรือ โจ้ กาสา นายชัยชนะ ผู้ต้องหาที่ 1 นายธเนศ ผู้ต้องหาที่ 2 น.ส.รมิตา แฟน นายชัยชนะ และหญิง ไม่ทราบชื่อสกุลจริง 1 คน
น.ส.พัชญ์วัญญ์, นายมนตรี และ ผู้ต้องหาที่ 1 ได้สอบถามเกี่ยวกับยอดเงินรายได้จากเว็บพนันที่มียอดน้อยลงไป โดยกล่าวหาว่านายเชิดเกียรติโกงเงิน จากนั้นผู้ต้องหาที่ 1-2 จึงได้ร่วมกันชก ต่อย เตะ ทำร้ายร่างกาย และใช้แก้วน้ำทุบศีรษะนายเชิดเกียรติ จากนั้น น.ส.พัชญ์วัญญ์ ได้เอาโทรศัพท์มือถือของผู้เสียหายไป และบังคับให้เปิดรหัสล็อกสแกนหน้าเพื่อเปิดใช้โทรศัพท์และบังคับให้โอนเงิน จากบัญชีเงินฝากของนายเชิดเกียรติ ออกไปจำนวนเงิน 25,000 บาท และได้หยิบเอาแท็บเล็ตไมโครซอฟเวอร์ เฟซโปรเอ็กซ์ สีดำ 1 เครื่อง ราคาประมาณ 50,000 บาท และไอโฟน 14 โปรแม็ค จำนวน 1 เครื่อง ราคาประมาณ 46,900 บาท ของผู้เสียหายไป จากนั้น ผู้ต้องหาที่ 1 ก็นำข้อมูลทะเบียนราษฎรของผู้เสียหายและบิดา มารดาของนายเชิดเกียรติ มายื่นให้ดู และพูดข่มขู่ว่าสามารถตามตัวบิดามารดาของนายเชิดเกียรติ ได้
จากนั้น ผู้ต้องหาที่ 1 ผู้ต้องหาที่ 3-4 มาขับรถพาตัวนายเชิดเกียรติ เพื่อเดินทางไปที่พักของผู้เสียหาย ระหว่างอยู่ในรถ ผู้ต้องหาที่ 4 ได้โชว์วัตถุเหมือนอาวุธปืนกึ่งออโตเมติกสีดำอยู่ ทำให้นายเชิดเกียรติกลัว จนกระทั่งเวลา 21.00 น. ทั้งหมดมาถึงที่พัก และเข้าไปนำทรัพย์สิน รวมเป็นเงินประมาณ 13,000 บาท ก่อนจะผู้ต้องหาจะขับรถออกไป นายเชิดเกียรติ จึงมาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนจนทำการจับกุมได้ในที่สุด
พนักงานสอบสวน ได้แจ้งข้อกล่าวหา ผู้ต้องหาที่ 1-3 ว่า กระทำความผิดฐาน “ปล้น ทรัพย์ ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด หรือจำยอม ต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ของผู้ถูกข่มขืนใจหรือผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจน ผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น โดยมีอาวุธ, หน่วงเหนี่ยวกักขังหรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย ทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัว หรือตกใจโดยการขู่เข็ญ กระทำด้วยประการใดๆ ต่อผู้อื่น อันเป็นการรังแก ข่มเหง คุกคาม ให้ได้รับ ความเดือดร้อน” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295, 309 วรรคสอง, 310, 310 ทวิ, 340, 392 และ 397 ประกอบมาตรา 83
ผู้ต้องหาที่ 4 กล่าวหาว่า กระทำความผิดฐาน “ปล้นทรัพย์ ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กาย หรือจิตใจข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ของ ผู้ถูกข่มขืนใจหรือผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น โดยมีอาวุธ,หน่วงเหนี่ยวกักขัง หรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย ทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัว หรือตกใจโดยการขู่เข็ญ กระทำด้วย ประการใดๆ ต่อผู้อื่น อันเป็นการรังแก ข่มเหง คุกคาม ให้ได้รับความเดือดร้อน, มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับ อนุญาต และพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาต โดยไม่มีเหตุจำเป็นและเร่งด่วน” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295, 309 วรรคสอง, 310, 310 ทวิ, 340, 392 และ 397 ประกอบมาตรา 83 และ พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 มาตรา 4(1), 7, 8 ทวิ 72 วรรคแรก 72 ทวิ วรรคสอง แก้ไขเพิ่มเติมโดยคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครอง แผ่นดิน ฉบับที่ 44 ลงวันที่ 21 ต.ค. 2519
ในชั้นจับกุมและชั้นสอบสวน ผู้ต้องหาทั้ง 4 ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
พนักงานสอบสวนควบคุมตัวจะครบกำหนด 48 ชั่วโมง แต่ยังสอบสวนไม่เสร็จสิ้น ต้องสอบสวนพยานอีก 5 ปาก รอผลการตรวจพิสูจน์ของกลาง รอผลการตรวจลายพิมพ์นิ้วมือและประวัติการต้องโทษ จึงขอศาลฝากขัง 12 วัน นับตั้งแต่วันที่ 11-22 ก.พ. 2566 หากผู้ต้องหาที่ 1-4 ขอให้ปล่อยชั่วคราว พนักงานสอบสวนไม่คัดค้าน
ศาลอาญาพิจารณาคำร้องและเหตุจำเป็นแล้วอนุญาตให้ฝากขังผู้ต้องหาได้ตามคำร้อง
ภายหลังเสร็จสิ้นกระบวนการฝากขัง โดยศาลอาญาอนุญาตฝากขังผู้ต้องหาทั้งสี่ตามคำร้องแล้ว เป็นเวลา 12 วันตั้งแต่วันที่ 11-22 ก.พ. 2566
ต่อมา ผู้ต้องหาทั้งสี่ ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวชั้นฝากขัง โดยยื่นหลักทรัพย์เป็นโฉนดที่ดิน มูลค่ากว่า 500,000 บาท
ซึ่งศาลอาญา พิเคราะห์แล้วเห็นว่า พฤติการณ์แห่งคดีเป็นเรื่องร้ายแรง ทั้งคดีมีอัตราโทษสูง เชื่อว่า หากปล่อยชั่วคราว ผู้ต้องหาทั้งสี่ อาจจะยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน หรือหลบหนี จึงไม่อนุญาตปล่อยชั่วคราว ให้ยกคำร้อง