สมุทรสงคราม - วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไข ขณะที่ อบจ.แจงสลิงที่ผุกร่อนไม่เกี่ยวกับโครงสร้างหลัก ใช้แค่ช่วยให้สะพานแกว่งน้อยลง เตรียมตัดทิ้ง
นายสาโรช ควรศิริ อายุ 48 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 ตำบลแควอ้อม อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม กล่าวว่า สะพานแขวนข้ามคลองแควอ้อม เชื่อมต่อหมู่ 6 ตำบลแควอ้อม อำเภออัมพวา กับหมู่ 5 ตำบลบางกุ้ง อำเภอบางคนที บริเวณหน้าวัดปากน้ำ เป็นสะพานแขวนแห่งเดียวในจังหวัดสมุทรสงคราม ความยาวประมาณ 100 เมตร ก่อสร้างเมื่อปี 2549
ขณะนี้พบว่าลวดสลิงเส้นหนึ่งที่ยึดโยงฐานสะพานด้านล่างเป็นสนิม ทำให้ลวดสลิงขาดไปแล้วประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ สาเหตุน่าจะเกิดจากน้ำทะเลท่วมถึงจึงอาจทำให้น้ำเค็มกัดจนผุกร่อน สิ่งที่ตนเป็นห่วงคือสะพานแห่งนี้นอกจากจะมีชาวบ้านสองฝั่งคลองไปมาหาสู่กันแล้ว บางปียังมีการจัดงานเคานต์ดาวน์ มีนักท่องเที่ยวขึ้นไปบนสะพานจำนวนมากจึงเกรงจะเกิดเหตุโศกนาฏกรรมขึ้นได้หากสะพานพังลงมา
นายสาโรจน์ บอกด้วยว่า ตนในฐานะผู้ใหญ่บ้านเคยแจ้งไปหน่วยงานที่รับผิดชอบ คือองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สมุทรสงครามแล้ว แม้จะมีการเข้ามาดูแต่ยังไม่เห็นดำเนินการซ่อมแซมอะไร นอกจากเอานอตมายึดสลิงเส้นที่ใกล้จะขาดไว้กับคานสะพาน แต่ลวดสลิงยังมีการผุกร่อนเรื่อยๆ จึงกลัวว่าหากสลิงขาดแล้วสะพานพังลงมาใครจะรับผิดชอบ จึงขอให้ อบจ.สมุทรสงครามเข้ามาจัดการแก้ไขโดยเร็ว เนื่องจากชาวบ้านมีความกังวลไม่กล้าใช้สะพานแขวนนี้แล้ว นอกจากนี้ สะพานแขวนแห่งนี้ยังเป็นเสมือนจุดแลนด์มาร์กของตำบลแควอ้อม เมื่อนักท่องเที่ยวนั่งเรือผ่านไปมาจะมีการแวะเช็กอินถ่ายรูปกันทุกครั้ง
สำหรับสะพานแขวนแห่งนี้มีชาวบ้านในพื้นที่กว่า 80 หลังคาเรือนใช้ในการสัญจรข้ามฝั่งคลอง บ้างเดินข้าม บ้างขับขี่รถจักรยานยนต์ข้าม นอกจากนี้ ยังมีนักท่องเที่ยวขับรถจักรยานยนต์และถีบจักรยานขึ้นไปเที่ยวชมทัศนียภาพคลองแควอ้อมเป็นประจำ ล่าสุดเมื่อต้นปี 2565 ได้มีการจัดงานเคานต์ดาวน์ และมีนักท่องเที่ยวขึ้นไปบนสะพานกันจำนวนมาก ต่อมามีการพบว่าลวดสลิงเริ่มผุกร่อน ทางชุมชนจึงแก้ปัญหาด้วยการปิดป้ายเตือนห้ามขับรถจักรยานยนต์ข้ามสะพานเพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้น
ต่อมา นายเอกรัตน์ เกษแก้ว ผู้อำนวยการกองช่าง องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สมุทรสงคราม และเจ้าหน้าที่ได้มาตรวจสอบสะพานดังกล่าว พร้อมชี้แจงว่า สะพานแขวนแห่งนี้ตนเป็นผู้แออกแบบสร้างเองเมื่อปี 2549 หรือเมื่อ 17 ปีที่แล้ว แทนสะพานเดิมที่เป็นไม้และชำรุดทรุดโทรม ซึ่งนอกจากจะมีชาวบ้านใช้เดินสัญจรไปมา และรถจักรยานนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเที่ยวชุมชนแล้ว ยังเป็นแลนด์มาร์กที่มีความสวยงามให้นักท่องเที่ยวได้มาเที่ยวชมอีกด้วย
สำหรับสลิงที่มีผู้ร้องเรียนว่าเป็นสนิมผุกร่อนใกล้จะขาดเกรงว่าจะเป็นอันตรายนั้น นายเอกรัตน์ บอกว่า สลิงเส้นดังกล่าวตนออกแบบเพื่อเป็นตัวดึงช่วยลดการโยกซ้ายขวาและการแกว่งขึ้นลงของสะพาน ไม่ใช่ยึดโครงสร้างหลักของสะพาน ดังนั้น จึงไม่จำเป็นต้องมีสลิงเส้นนี้ก็ได้ อีกทั้งยังใช้ที่ยึดบริเวณคานสะพานไว้ชั้นหนึ่งแล้ว ส่วนสลิงเส้นหลักที่ใช้ยึดโครงสร้างสะพานทั้งหมดคือสายที่โยงกับสะพานด้านบนซึ่งมีการตรวจสอบมาตลอด ปัจจุบันยังแข็งแรงทั้ง 4 เส้น 4 ด้านของสะพาน เพราะมีการบำรุงรักษาเป็นประจำ
อย่างไรก็ตาม สลิงด้านล่างที่ช่วยลดการแกว่งของสะพานแบบเดียวกันด้านฝั่งหมู่ 5 ตำบลบางกุ้ง ขณะนี้ได้มีการตัดออกแล้วและใช้หมุดปักยึดไว้แทน ตนยืนยันว่าแม้สลิงเส้นที่ชำรุดจะขาดก็ไม่กระทบตัวสะพานจนทำให้สะพานพังลงมาอย่างแน่นอน ซึ่งทางกองช่าง อบจ.สมุทรสงคราม จะมาตัดสลิงดังกล่าวออกทั้งหมด และทำการยึดสายตามขั้นตอนต่อไป เพี่อให้ชาวบ้านใช้สะพานดังกล่าวอย่างสบายใจ และมีความปลอดภัยแน่นอน