xs
xsm
sm
md
lg

ชาวแหลมใหญ่กว่า 100 คน รวมตัวเรียกร้องความชัดเจนเรือระเบิดทำบ้านพังใครรับผิดชอบ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สมุทรสงคราม - ชาวแหลมใหญ่กว่า 100 คน ยกขบวนเรียกร้องความชัดเจนกรณีเรือน้ำมันระเบิดบ้านพังให้รับผิดชอบค่าเสียหาย ขณะที่ตัวแทนเรือน้ำมันยืนยันเยียวยาเต็มที่ ขอเพียงทราบตัวเลขชัดเจนก่อน          

วันนี้ (31 ม.ค.) ที่หน้าอู่ซ่อมเรือรวมมิตรด๊อคยาร์ด หมู่ 8 ต.แหลมใหญ่ อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม ซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุเรือบรรทุกน้ำมันดีเซลขนาดใหญ่ ความจุ 3 ล้านลิตร ชื่อ "สมุธซี 22" ที่จอดซ่อมบำรุงได้เกิดระเบิดเสียงดังไปไกลกว่า 10 กิโลเมตร ก่อนจะเกิดไฟลุกไหม้ เป็นเหตุให้คนงานได้รับบาดเจ็บ 4 คน และมีผู้เสียชีวิต 8 คน แรงระเบิดอย่างรุนแรงได้ทำให้บ้านเรือนประชาชนที่อยู่ใกล้เคียงในรัศมี 4-5 กิโลเมตร โดนแรงอัดได้รับความเสียหาย เช่น กระจก ประตูหน้าต่างแตก ฝ้าเพดานตกแตก พื้นและฝาบ้านที่เป็นปูนแตกร้าวนับ 100 หลังคาเรือน และเมื่อเดินไปถึงหน้าอู่เรือ ปรากฏว่า ประตูรั้วหน้าอู่ดังกล่าวปิด ชาวบ้านจึงรวมตัวกันหน้าประตู มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยออกมารับหน้าแจ้งชาวบ้านว่า เจ้าของบริษัทไม่อยู่ให้รอก่อนเดี๋ยวจะติดต่อประสานงานให้            

โดยกลุ่มผู้เรียกร้องนำโดย นายสำราญ นุตรักษ์ อายุ 68 ปี บ้านเลขที่ 154/6 หมู่ 8 ต.แหลมใหญ่ และนายสถาพร สกุลแก้ว 65 ปี เลขที่ 60/1 หมู่ 8 ต.แหลมใหญ่ บอกว่า หลังเกิดเหตุเมื่อวันที่ 17 ม.ค.66 ได้มีหน่วยงานต่างๆ เข้ามาสำรวจความเสียหายและบอกให้ชาวบ้านรอการซ่อมแซม อย่าซ่อมเองเพราะจะทำให้ไม่ได้รับเงินที่ซ่อมแซมคืน ส่วนเจ้าของเรือรับผิดชอบด้วยการจ่ายเงิน "ค่าตกใจ" ให้บ้านที่ได้รับผลกระทบครัวเรือนละ 5,000 บาท แต่การจ่ายเงินยังไม่ครบถ้วนเพราะยังมีบ้านเรือนประชาชนที่ได้รับความเสียหาย

ซึ่งทางราชการสำรวจแล้วนับ 100 หลังคาเรือน แต่มีอีกไม่น้อยกว่าครึ่งยังไม่ได้รับเงินดังกล่าว เช่น บ้านของตน นอกจากยังไม่ได้รับเงินค่าตกใจแล้ว กระจกประตู หน้าต่าง รวมทั้งฝ้าเพดานตกแตกได้รับความเสียหาย แทนที่ทางบริษัท หรือตัวแทนจะมาบอกว่าจะซ่อมแซมบ้านให้เมื่อไหร่แต่กลับเงียบเฉย ไม่มีความชัดเจน ซึ่งตนมองว่าไม่เป็นธรรม เพราะบ้านของพวกตนอยู่ดีๆ แล้วบริษัทเรือมาทำให้เสียหาย ตนจะออกไปทำมาหากินก็เป็นห่วงบ้านเพราะประตูหน้าต่างปิดไม่ได้ เรื่องนี้หากทางผู้รับผิดชอบบริษัทเรือไม่ออกมาเจรจาเพื่อความชัดเจน ตนและชาวบ้านที่ได้รับความเสียหายจากเหตุดังกล่าวจะบุกไปศาลากลางจังหวัด ร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรมต่อไป ซึ่งพวกตนยืนยันว่าเจ้าของเรือจะต้องรับผิดชอบค่าเสียหายเต็มจำนวนเท่านั้นเรื่องนี้จึงจะจบ

ต่อมา เวลา 10.40 น. นายรังสรรค์ วงศ์โพธิ์สาร ผู้ดูแลท่าเรือน้ำมันที่ระเบิด ได้เดินทางมาเจรจาชี้แจงกับชาวบ้านเรื่องการช่วยเหลือเยียวยา โดยนายรังสรรค์ กล่าวว่า ทางบริษัทยินดีรับผิดชอบ แต่มีเรื่องเกี่ยวกับทางจังหวัดทั้งเรื่องโยธา และเอกสาร เมื่อได้รับเอกสารตรงนั้นแล้วจะรีบมาชี้แจงให้ชัดเจนต่อไป ขณะนี้เท่าที่รับฟังปัญหาชาวบ้านคือราคาประเมินบ้านที่ได้รับความเสียหายต่ำเกินไปจนชาวบ้านรับไม่ได้ ตนจึงขอบอกว่าส่วนต่างจะได้ประชุมหารือกับตัวแทนชาวบ้านอีกครั้งว่าบ้านหลังไหนประเมินเท่าไหร่ ค่าซ่อมเท่าไหร่ ซึ่งจะไม่เกี่ยวกับการประเมินของทางจังหวัด ตนเองรับนโยบายจากผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้บริหารบริษัทโดยตรง ชัดเจนว่าการประเมินของจังหวัดที่ว่าประเมินต่ำเป็นส่วนที่ทางการประเมิน แต่ส่วนต่างที่เจ้าของบ้านประเมินตนเองว่าเสียหายเท่าไหร่ตนจะรู้ได้อย่างไร ใครจะรวบรวมข้อมูลมาคุยกับตน

นายรังสรรค์ กล่าวด้วยว่า เหตุที่ช้าตนยืนยันว่าเพราะรอเอกสารจริงๆ ตนเพิ่งกลับจากหารือกับทางจังหวัดมา ตนจะยึดหลังตัวเลขของจังหวัดที่รวบรวมบ้านเรือนที่ได้รับความเดือดร้อนก่อน ส่วนที่ตกหล่นจะเข้าไปคุยรายครัวเรือนต่อไป ยืนยันบริษัทพร้อมจะช่วยเหลือเยียวยา ไม่ได้ปล่อยปละละเลยแต่อย่างใด          

ชาวบ้านถามว่าที่มาวันนี้เพราะต้องการคำตอบที่ชัดเจนว่าวันไหนทางบริษัทจะชัดเจนเรื่องซ่อมแซมบ้าน นายรังสรรค์ บอกว่าบริษัทพร้อมที่จะจ่าย แต่ชาวบ้านต้องประเมินราคาความเสียหายของบ้านตนเองมาให้ชัดเจนก่อน

ส่วนกรณีที่รายชื่อตกหล่นทางบริษัทไม่ได้เป็นคนรวบรวมรายชื่อ ดังนั้น เพื่อความรวดเร็ววันนี้บริษัทจะไปตั้งโต๊ะที่ อบต.แหลมใหญ่ รวบรวมข้อมูลความเสียหายของชาวบ้านใหม่ทั้งหมด ซึ่งชาวบ้านพอใจพากันเดินทางไปที่ อบต.แหลมใหญ่ โดยมีนายอมรศักดิ์ ฉัตรระทิน นายก อบต.แหลมใหญ่ คอยอำนวยความสะดวก ทำให้บรรยากาศคลี่คลายและชาวบ้านต่างพอใจทยอยกันมาลงชื่อแจ้งความเสียหายกันนับ 100 คน










กำลังโหลดความคิดเห็น