สมุทรสงคราม - ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากเหตุเรือน้ำมันระเบิดทยอยลงทะเบียนแล้วเกือบ 100 ราย ล่าสุด พบครบแล้ว 8 ศพ เป็นคนไทย 1 คน ที่เหลือเป็นชาวพม่า แต่ยังมีชิ้นส่วนของร่างกายบางคนที่ถูกแรงระเบิดทำให้ขาดกระเด็นหายไปซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังเร่งค้นหาอยู่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีเรือบรรทุกน้ำมันขนาดใหญ่ 3 ล้านลิตร ระเบิดและได้เกิดไฟลุกไหม้ในท่าเรือรวมมิตรด็อคยาร์ค หมู่ 8 ต.แหลมใหญ่ อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม เมื่อตอนสายวานนี้ (17 ม.ค.) ซึ่งเหตุดังกล่าวมีผู้บาดเจ็บ 4 คน และมีผู้สูญหาย 8 คน ล่าสุดพบหมดแล้ว
เย็นวันนี้ (18 ม.ค.) เจ้าหน้าที่กู้ภัยจากมูลนิธิต่างๆ นับ 100 คน ได้สนธิกำลังกันวางแผนค้นหาผู้สูญหายที่เหลือ โดยค้นหาในรูปแบบปูพรมทั่วแม่น้ำแม่กลอง ทั้งบริเวณใกล้เคียงจุดเกิดเหตุ และบริเวณโดยรอบในรัศมี 1-2 กิโลเมตร รวมทั้งการดำน้ำค้นหาผู้สูญหายด้วย ล่าสุดพบหมดแล้วทั้ง 8 คน
เจ้าหน้าที่มูลนิธิได้ทยอยนำร่างผู้เสียชีวิต เป็นคนไทย 1 คน คือ นายวิเชียร บุญเลิศ นายซอมิน ชาวพม่า นายวันโบ ชาวพม่า นายโซ ชาวพม่า นายซอมิน ชาวพม่า นายตี่ละ ชาวพม่า นายดูแง ชาวพม่า โดยนำศพขึ้นที่ท่าน้ำวัดปากสมุทร ทำให้ 2 วัน พบร่างผู้สูญหายแล้วรวม 8 คน แต่ยังมีชิ้นส่วนของร่างกายบางคน เช่น แขน ขาที่ถูกแรงระเบิดทำให้ขาดกระเด็นหายไปยังไม่พบอีกบางรายซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังเร่งค้นหาอยู่
ส่วนบริเวณหน้าท่าเรือที่เกิดเหตุมีการปิดพื้นที่ไม่ให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้า โดยมี รปภ.ดูแลอย่างเข้มงวด ขณะที่นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม ได้ลงเรือสำรวจเรือที่เกิดเหตุดังกล่าว เบื้องต้น ผู้ว่าราชการจังหวัดสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสำรวจความเสียหายและให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับความเดือดร้อนให้เร็วที่สุด และให้สำรวจคุณภาพสิ่งแวดล้อมทั้งอากาศและในน้ำบริเวณที่เกิดเหตุว่ามีคุณภาพหรือไม่ พร้อมกำชับให้เร่งนัดจ่ายค่าสินไหมประกันภัยให้ผู้ที่ได้รับความเสียหายเร็วที่สุด
ส่วนความเสียหายบ้านเรือนประชาชนใน ต.แหลมใหญ่ นายอมรศักดิ์ ฉัตรทิน นายก อบต.แหลมใหญ่ ได้เตรียมเจ้าหน้าที่รับลงทะเบียนผู้ได้รับผลกระทบเบื้องต้นรวมทั้งบ้านเรือนเสียหาย โดยมีผู้มาลงทะเบียนแล้วจำนวน 97 ราย
ส่วนพื้นที่ ต.บางจะเกร็ง ที่อยู่ฝั่งข้ามของแม่น้ำแม่กลอง นายศราวุธ กล้วยจำนงค์ นายก อบต.บางจะเกร็ง บอกว่ามีบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสีย จำนวน 27 หลังคาเรือน ส่วนใหญ่ฝ้าเพดานหล่นแตก กระจกประตูหน้าต่างแตก พื้นและฝาบ้านที่เป็นปูนแตกร้าว
นอกจากนี้ ยังมีวัดศรัทธาธรรม และโรงเรียนวัดศรัทธาธรรม โดยเฉพาะโรงเรียนวัดศรัทธาธรรมได้ประกาศปิดการเรียนการสอนเป็นเวลา 7 วัน เนื่องจากได้รับความเสียหายจากเหตุดังกล่าวหลายแห่ง