สมุทรสงคราม - ผู้ว่าฯ สมุทรสงครามแถลงสถานการณ์เพลิงไหม้บนเรือสมูทซี 22 พร้อมเร่งค้นหาผู้สูญหายทั้ง 5 ราย ความเสียหายเบื้องต้นมีบ้านเรือนในพื้นที่ได้รับความเสียกว่า 70 หลังคาเรือน ด้านเจ้าท่า ระงับใช้เรือสมูทซี 22 รวมทั้งออกหนังสือคำสั่งห้ามใช้ท่า อู่เรือรวมมิตรด็อคยาร์ท แล้ว
เวลาประมาณ 17.45 น. วันนี้ (17 ม.ค) ที่องค์การบริหารส่วนตำบลแหลมใหญ่ อำเภอเมืองสมุทรสงคราม นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม เป็นประธานแถลงข่าวสรุปสถานการณ์กรณีเกิดเหตุเพลิงไหม้บนเรือสมูทซี 22 จากกรณีเหตุเรือระเบิด ขณะจอดซ่อมอยู่ และเรือได้เกิดเพลิงไหม้ ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิสูจน์ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ข้อมูลเบื้องต้น น้ำหนักเรือ 2,996 ตันกรอส แจ้งเข้าอู่เมื่อวันที่ 12 ม.ค. ในเรือมีน้ำมันเตาและดีเซลคงค้าง มีลูกเรือ 17 คน ไม่ได้รับบาตเจ็บ ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บเบื้องต้น จำนวน 4 ราย เป็นช่างเชื่อมบนเรือ ได้นำส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระพุทธเลิศหล้า ซึ่งรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลจำนวน 3 ราย สามารถกลับบ้านได้แล้ว 1 ราย มีผู้สูญหายรวม 5 ราย พบผู้เสียชีวิต 2 ราย อยู่ระหว่างพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล ส่วนสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้อยู่ระหว่างการสอบสวนของตำรวจพิสูจน์หลักฐานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม ได้สั่งการให้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการเฉพาะกิจให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย ณ ที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลแหลมใหญ่ เพื่ออำนวยการสั่งการ และสามารถควบคุมเพลิงได้เวลา 15.30 น. ด้านความเสียหายเบื้องต้นที่มีผู้ได้รับความเสียหายมาลงทะเบียนพบว่า มีบ้านเรือนในพื้นที่ตำบลแหลมใหญ่ จำนวน 60 หลังคาเรือน ตำบลบางจะเกร็ง จำนวน 11 หลังคาเรือน พร้อมทั้งจะมีการสำรวจความเสียหายเพื่อเยียวยาให้ผู้ประสบภัยโดยเร็วที่สุด
นอกจากนี้ ทางกรมเจ้าท่าได้ออกหนังสือคำสั่งระงับใช้เรือสมูทซี 22 รวมทั้งออกหนังสือคำสั่งห้ามใช้ท่า อู่เรือ รวมมิตรด็อคยาร์ท ตลอดจนออกหนังสือเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าวเข้าให้ข้อเท็จจริง ณ สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาสมุทรสงคราม ในวันพรุ่งนี้ (18 ม.ค.) เวลา 14.00 น. พร้อมทั้งออกหนังสือเชิญผู้เชี่ยวชาญร่วมตรวจสอบและสอบสวนข้อเท็จจริงเพื่อหาสาเหตุต่อไป สำหรับผู้สูญหายทั้ง 5 ราย ทางมูลนิธิสว่างเบญจธรรมสมุทรสงคราม ได้ประสานนักประดาน้ำลงค้นหาบริเวณสถานที่เกิดเหตุแล้ว
