บุรีรัมย์ - ช้างป่าดงใหญ่บุกทำลายต้นทุเรียน ไร่มันสำปะหลังเกษตรกร อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ แบบรายวันได้รับความเสียหายหลายราย บางวันออกมาเป็นโขลง 10-15 ตัวพยายามทำเสียงดังขับไล่แต่ไม่ได้ผลอาจเพราะเคยชิน คูกันช้างยังเอาไม่อยู่เดือดร้อนหนัก วอนภาครัฐช่วยเหลือเยียวยาเพราะต้องกู้ยืมเงินมาลงทุน ทั้งเร่งหาแนวทางป้องกัน
วันนี้ (30 ม.ค.) เกษตรกรในพื้นที่ตำบลลำนางรอง อำเภอโนนดินแดง จังหวัดบุรีรัมย์ กำลังประสบปัญหาเดือดร้อนหนัก จากกรณีที่ช้างป่าดงใหญ่ออกมาหากินทำลายพืชสวนพืชไร่ที่ปลูกเอาไว้บริโภคและขายเลี้ยงชีพได้รับความเสียหายแบบรายวัน ล่าสุดช้างป่าได้บุกทำลายสวนทุเรียน และมันสำปะหลังของเกษตรกรบ้านฐานเจ้าป่า ตำบลลำนางรอง ทั้งถอนทิ้ง เหยียบหักเสียหายจำนวนมาก แถมยังทิ้งรอยเท้าและขี้เยี่ยวเกลื่อนสวน
โดยเฉพาะสวนทุเรียนของนายสถิต ประธาน และ น.ส.สายยุทธิ์ ปักกาโส สองสามีภรรยา ที่เพิ่งปรับเปลี่ยนจากมันสำปะหลังหันมาปลูกทุเรียน 400 ต้น เพื่อหวังจะหลีกเลี่ยงไม่ให้ช้างป่ามาทำลาย แต่กลับถูกช้างป่าบุกทำลายเสียหายไปมากกว่า 40 ต้น ถึงกับเข่าทรุดเมื่อเห็นสภาพต้นทุเรียนของตัวเอง
น.ส.สายยุทธิ์ ผู้เป็นภรรยา บอกว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นที่ ส.ป.ก. 4-01แต่อยู่ใกล้กับป่าสงวนแห่งชาติดงใหญ่ ก่อนหน้านี้ตนกับสามีปลูกมันสำปะหลังเพื่อขายเป็นอาชีพเลี้ยงครอบครัว แต่ก็ถูกช้างป่าบุกเข้าไปทำลายเสียหายทุกปี จึงตัดสินใจปรับเปลี่ยนหันมาปลูกทุเรียนเพราะเข้าใจว่าเป็นพืชที่ช้างไม่ชอบจะสามารถเลี่ยงไม่ให้ถูกช้างป่าทำลายได้ แต่พอต้นทุเรียนได้ 6-7 เดือนถูกช้างป่าเข้ามาทำลาย 2 คืนติดต่อกับได้รับความเสียหายไปมากกว่า 40 ต้น จากที่ปลูกทั้งหมด 400 ต้น คาดว่าเสียหายไม่ต่ำกว่า 20,000 บาท
ทั้งกังวลว่าต้นทุเรียนที่เหลือจะถูกช้างป่าเข้ามาทำลายเพิ่มเติมอีก แต่ไม่รู้ว่าจะหาแนวทางป้องกันอย่างไรเพราะส่วนใหญ่ช้างป่าจะเข้ามาช่วงกลางคืน ไม่กล้าไปเฝ้าเพราะกลัวจะถูกช้างทำร้าย ส่วนคูกันช้างที่ทางเจ้าหน้าที่ทำไว้ก็ไม่สามารถป้องกันช้างป่าข้ามเขตออกจากป่าได้ จากความเสียหายที่เกิดขึ้นอยากให้หน่วยงานภาครัฐได้ช่วยเหลือเยียวยา และหาแนวทางป้องกันไม่ให้ช้างป่าออกมาทำลายพืชสวนพืชไร่ของเกษตรกรซ้ำอีก
ด้าน นายไพโรจน์ มีศิลป์ อายุ 53 ปี เกษตรกรที่ได้รับความเดือดร้อนอีกราย บอกว่า ตนเองปลูกพืชหลายอย่าง แต่หลักๆ คือ มันสำปะหลังเพื่อไว้ขายเลี้ยงครอบครัว แต่ถูกช้างป่าบุกเข้ามาทำลายเสียหายทุกปี ไม่ต่างจากปีนี้มันอายุได้ 8 เดือนใกล้เก็บผลผลิตแล้วก็ถูกช้างทำลายเสียหายไปจำนวนมากคิดเป็นมูลค่าก็ไม่ต่ำกว่า 2 หมื่นบาท ที่ผ่านมาเกษตรกรพยายามช่วยเหลือตัวเองด้วยการจุดประทัดขับไล่ช้างป่า แต่ทุกวันนี้เหมือนช้างป่าเคยชินจะไม่กลัวเสียงดัง
ส่วนคูกันช้างที่เจ้าหน้าที่ทำเอาไว้ก็ไม่สามารถป้องกันได้ ยังมีช้างป่าออกมาหากินทำลายพืชสวนพืชไร่เกษตรกรแทบทุกวัน บางวันตัวเดียว สองตัว แต่บางครั้งก็มาเป็นโขลง 10-15 ตัว ทำให้เกษตรกรไม่กล้าไปขับไล่เพราะกลัวอันตราย จากปัญหาดังกล่าวอยากให้หน่วยงานภาครัฐได้หาแนวทางป้องกันไม่ให้ช้างป่าออกมาทำลายพืชสวนพืชไร่เกษตรกรด้วย ส่วนที่เสียหายไปแล้วอยากจะให้ช่วยเหลือเยียวยาด้วย เพราะลงทุนไปแล้วก็ไม่ได้ขาย