อุบลราชธานี - เกรงใจเจ้าของบ้านเช่า สองตายายไม้ใกล้ฝั่งเป็นหนี้ค่าเช่าบ้าน และยืมเงินมาซื้อข้าวประทังชีวิตหมดหนทางจะหาเงินมาใช้คืน และเกรงใจเจ้าของบ้านเช่าที่แสนใจดี วอนสังคมช่วยเหลือบริจาคเงิน 6,000 บาทให้ด้วยได้ไหม
เรื่องราวของสองตายายวัย 73 ปีทั้งคู่คือ นางมะลิ อุ่นใจ และ นายจำปี เสาร์ฤกษ์ ซึ่งปัจจุบันอาศัยอยู่ในบ้านเช่าเลขที่ 56/1 ถนนชลประทานท่าบ่อ ตรงข้ามซอยพรหมมาศ ต.ในเมือง อ.เมืองอุบลราชธานี ฝ่ายชายเคยมีอาชีพเป็นกุ๊กร้านอาหารตามสั่ง ฝ่ายยายก็รับจ้างล้างจานตามร้านอาหารวันละ 200 บาท ในอดีตทั้งคู่หาเงินได้เดือนละกว่า 10,000 บาท แต่เมื่อ 7 ปีก่อน นายจำปีเกิดอุบัติเหตุทางรถจักรยานยนต์ ทำให้ขาขวาหักนอนรักษาตัวอยู่หลายเดือน
ต่อมาขาก็โก่ง เดินเหินไม่ถนัด และยืนผัดข้าวไม่ได้ ต้องออกจากงาน ทำให้เหลือเพียงนางมะลิที่ทำงานล้างจานหาเลี้ยงสามีมาตลอดหลายปี
นางมะลิ อุ่นใจ เล่าว่า ช่วงที่มีการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ร้านที่รับจ้างล้างจานหยุดขายเพราะมีรายได้ไม่พอเลี้ยงคนงาน ทำให้ต้องตกงานมาตลอดช่วง 3 ปีที่ผ่านมา เมื่อโรคโควิดเริ่มซาลง ก็กลับกลายเป็นว่าไม่มีคนจ้างให้ล้างจานเพราะอายุมากและเดินไม่สะดวกแล้ว ทำให้สองตายายมีรายได้เพียงเงินผู้สูงอายุและเงินคนพิการของผู้เป็นตา รวมกันแล้วตกเดือนละ 2,100 บาท ส่วนเงินจากสวัสดิการแห่งรัฐ เคยยื่นเรื่องแต่ไม่ผ่าน เพราะเอกสารไม่ครบ
แต่ล่าสุดมีข่าวดีที่ปีนี้รัฐบาลให้ผู้ที่ยังไม่มีบัตรยื่นเรื่องขอเพิ่มเติม ซึ่งผู้นำชุมชนที่สองตายายย้ายไปเช่าบ้านอยู่ใหม่เข้าช่วยเหลือพาทำให้ใหม่ และคาดว่าสองตายายจะได้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเพื่อมีเงินไว้ซื้อของกินของใช้เพิ่มขึ้นอีก
อย่างไรก็ตาม ในห้วงนี้สองตายายยังมีความทุกข์ใจทั้งเรื่องลูกชายคนเดียวที่มีไม่เคยติดต่อมา ไม่เคยดูแลพ่อแม่ แม้จะโทรศัพท์ไปตามเบอร์ที่ลูกเคยให้ไว้เมื่อกว่า 20 ปีก่อน ก็ไม่สามารถติดต่อได้ รู้เพียงว่าลูกทำงานอยู่ที่จังหวัดระยองเท่านั้น
จึงต้องการอยากแจ้งข่าวให้ลูกชายมาเยี่ยมดูแม่และพ่อด้วย เพราะขณะนี้ก็เป็นไม้ใกล้ฝั่ง ไม่รู้จะตายตอนไหน ไม่มีเงินเลี้ยงดูก็ไม่เป็นไร แต่อยากเห็นหน้าลูกบ้าง พร้อมวอนผู้ใจบุญในสังคมช่วยเหลือตนและสามี ซึ่งค้างค่าเช่าบ้านรวมค่าน้ำค่าไฟเดือนละ 1,200 บาท อยู่ 3 เดือนแล้ว
รวมทั้งเงินยืมเจ้าของบ้านและเพื่อนบ้านที่ใจดีให้มาซื้อข้าวกินยามขัดสนอีก 2,000 กว่าบาท ทำให้เป็นหนี้อยู่ 6,000 บาท จึงรู้สึกเกรงใจที่แม้ไม่ได้จ่ายค่าเช่ามากว่า 3 เดือน เจ้าของบ้านยังใจดีให้อยู่ต่อและให้ยืมเงินซื้อกินยามขัดสน
นางมะลิบอกว่า หากเจ้าของบ้านไม่ให้อยู่ก็ไม่รู้จะพากันไปอยู่ที่ไหน ตาก็ขาพิการ ส่วนตัวยายมะลิเอง นอกจากเป็นอัมพฤกษ์บริเวณช่วงเอว ยังมีเนื้องอกเกิดที่หว่างขาทำให้เดินไม่สะดวก และทั้งตายายยังป่วยเป็นโรคความดันโลหิตสูง ต้องไปหาหมอเอายามากินทุกๆ 3 เดือน สาเหตุก็เพราะคิดมากว่าถ้าชีวิตนี้คนใดคนหนึ่งต้องดับลงใครจะมาดูแล
จึงอยากวอนสังคมให้ช่วยเหลืออย่างน้อยให้มีเงินใช้หนี้ค่าเช่าบ้าน และเงินที่ยืมจากเพื่อนบ้านมาใช้จำนวน 6,000 บาท เพราะทุกวันนี้แม้มีรถเร่ขายส้ม 3 กิโลกรัม 100 บาท อยากกินใจจะขาด แต่ก็ต้องเก็บเงินที่มีอยู่น้อยไว้ซื้อข้าวกินให้พอชนเดือนในแต่ละเดือน จึงอยากวอนขอความช่วยเหลือจากคนในสังคม
ส่วนข้าวของเครื่องใช้ที่เห็นมีอยู่ในบ้าน ก็เป็นของบ้านเช่าที่เจ้าของบ้านจัดเตรียมไว้ให้กับผู้เช่าใช้ทั้งตู้เย็น และทีวี ส่วนที่เป็นของตัวเองจริงๆ ก็มีเพียงหม้อหุงข้าวเพียงใบเดียว กับพัดลมตั้งโต๊ะที่มีคนสงสารเอามาให้ใช้
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่จากสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งคอยดูแลสองตายายก็ได้เข้ามาเยี่ยม พร้อมนำข้าวสาร ปลากระป๋อง และของกินอื่นๆ มามอบให้แก่สองตายายเพื่อช่วยบรรเทาทุกข์ และเก็บข้อมูลขอรับเงินช่วยเหลือพิเศษจำนวน 2,000 บาทให้สองตายายได้มีใช้ในช่วงที่ยังขัดสนในช่วงนี้
น.ส.ศมาภรณ์ นีละเสน หัวหน้ากลุ่มการพัฒนาสังคมและสวัสดิการ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดอุบลราชธานี เล่าถึงกรณียายมะลิกับนายจำปี สำนักงาน พมจ.และนักสังคมสงเคราะห์เทศบาลนครอุบลราชธานีได้เข้ามาดูแลสภาพความเป็นอยู่มาตั้งแต่ปี 2564 ตอนแรกสองตายายอาศัยอยู่ในเขตเมือง ซึ่งเป็นสังคมเมือง ทำให้ไม่ค่อยได้รับการใส่ใจจากเพื่อนบ้าน
กระทั่งย้ายมาอยู่ที่บ้านเช่าแห่งนี้เมื่อปีก่อน ดูสองตายายมีสีหน้าแววตาสดชื่นขึ้น เพราะสังคมที่อยู่ปัจจุบัน รวมทั้งผู้นำชุมชนมีความเอื้ออาทรดูแลกัน บางครั้งก็นำข้าวก้นบาตรจากวัดมาให้สองตายายได้กิน ทำให้จิตใจดีขึ้น แต่ที่ยังกังวลขณะนี้ก็เป็นเรื่องลูกที่มีอยู่คนเดียวไม่เคยแวะมาเยี่ยมเยียน และติดต่อไม่ได้ ซึ่งพมจ.อุบลราชธานี จะลองประสานไปยัง พมจ.จังหวัดระยองให้ช่วยลองติดตามหาตัว เพื่อให้หาเวลาว่างมาเยี่ยมดูสองตายาย
ส่วนความเจ็บป่วยที่เกิดขึ้นใหม่ โดยยายมะลิมีเนื้องอกที่ขานั้น จะได้แจ้งให้ อสม.เข้ามาดูแล พร้อมแนะนำสิทธิในการเข้าถึงการรักษาแก่ยายมะลิต่อไปด้วย
สำหรับผู้ใจบุญที่อยากช่วยเหลือสองตายายคือ ยายมะลิ กับนายจำปี สามารถช่วยเหลือค่าใช้จ่าย โดยโอนผ่านบัญชีธนาคารออมสิน สาขาถนนแจ้งสนิท อ.เมืองอุบลราชธานี หมายเลข 0203-8930-1738 ชื่อบัญชีนางสาวมะลิ อุ่นใจ และนายจำปี เสาร์ฤกษ์ หรือถ้ามีเวลาอยากพูดคุยปลอบโยนกันบ้างได้ที่ 06-2983-3072 หรือต้องการไปเยี่ยมมอบสิ่งของที่ต้องการคือ แพมเพิร์สผู้ใหญ่ นม ข้าวสารอาหารแห้ง ที่บ้านเช่าเลขที่ 56/1 ถนนชลประทานท่าบ่อ ตรงข้ามกับซอยพรหมมาศ ต.ในเมือง อ.เมืองอุบลราชธานี