อุดรธานี - สาวอุดรวัย 38 ปีถูกหลอกเชิดรถเมื่อต้นปี สุดดีใจ! ได้รถคืนแล้วตามยึดได้ที่ จ.ฉะเชิงเทรา หลังโดนหนุ่มรุ่นน้องรู้จักทางโซเชียลหลอกให้สงสารออกอุบายขอมาเยี่ยมบ้าน จ.อุดรธานี ก่อนจะเชิดรถยนต์หนี ส่วนหนุ่มแสบยังตามจับตัวไม่ได้ พบประวัติลักรถเป็นหางว่าว!
วันนี้ (15 ม.ค.) ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี, พ.ต.อ.ปริวัฒน์ สัจจาพันธ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรทุ่งฝน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม พร้อมด้วย นางพงศ์พันธ์ นารถสิทธิ์ ผู้เสียหาย ร่วมกันแถลงข่าวผลการทำงาน “คดีหลอกลวงผู้เสียหายและโจรกรรมรถยนต์ไปจำหน่ายประเทศเพื่อนบ้าน ท้องที่ สภ.ทุ่งฝน ภ.จว.อุดรธานี”
จากการสืบสวนพบว่านายจิรายุมีประวัติถูกจำคุกในคดีลักทรัพย์รถยนต์หลายคดี และเมื่อตรวจสอบข้อมูลทำให้ทราบเครือข่ายมีการจำหน่ายรถยนต์ผู้เสียหายไปให้นายชาตรี เอี่ยมพิทักษ์พร หรือเสี่ยเต๋า แปดริ้ว เจ้าของร้าน T&A เซอร์วิส บอดี้พาร์ท โดยเป็นร้านจำหน่ายอะไหล่รถยนต์ในเขตพื้นที่ อ.เมืองฉะเชิงเทรา ตำรวจจึงได้ประสานตำรวจท้องที่เข้าตรวจค้นร้านของนายชาตรี พบใบขับขี่ของนายจิรายุ แผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ที่เคยรับซื้อ ซึ่งเป็นรถที่หนีไฟแนนซ์ และเอกสารอื่นๆ อีกหลายรายการ
นายชาตรี เอี่ยมพิทักษ์พร เจ้าของร้าน T&A เซอร์วิส บอดี้พาร์ท รับสารภาพว่าได้ซื้อรถยนต์ทะเบียน ผค 9106 อุดรธานี ต่อจากนายจิรายุ ผ่านโซเชียลในราคา 160,000 บาท โดยโอนมัดจำ 5,000 บาท และเมื่อนัดหมายส่งรถแล้ว ได้โอนเงินสดที่เหลือ 155,000 บาท แล้วแยกย้ายกัน ซึ่งระหว่างตรวจค้นพบของกลางยาเสพติดอีกจำนวนหนึ่ง จึงได้ตรวจยึดประกอบการดำเนินคดี ส่วนนายจิรายุหลบหนีการจับกุม
ด้าน พ.ต.อ.ปริวัฒน์ สัจจาพันธ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรทุ่งฝน กล่าวเพิ่มเติมว่า ขบวนการนายจิรายุมีมานานแล้ว กระบวนการนี้ใช้กลวิธีหลายอย่าง เช่นหากต้องการรถก็เข้าไปดูผ่านโซเชียล เมื่อเห็นรถที่ต้องการก็อาศัยการตีสนิท สำหรับผู้เสียหายรายนี้ กระบวนการนี้ได้ใช้นายจิรายุเข้ามาตีสนิทโดยผู้เสียหายก็เห็นใจและเมื่อสบโอกาสก็ขโมยรถ นอกจากนี้ยังมีการจ้างคนเข้าไปซื้อรถใหม่ ทำสัญญาผ่านไฟแนนซ์และหนี จากนั้นก็นำรถไปขาย ซึ่งกระบวนการนี้มีเครือข่ายแถบชายแดนติดประเทศเพื่อนบ้านของไทย โดยจะมีท่าขึ้นรถแถวจังหวัดบึงกาฬ มุกดาหาร และหนองคาย
เดิมทีรถของผู้เสียหายรายนี้จะขนส่งแถวจังหวัดที่กล่าวมา แต่จากการสืบสวนติดตามขบวนการนี้ได้เปลี่ยนเส้นทางการขนย้ายรถไปอีกเส้นทางหนึ่ง โดยมุ่งหน้าชายแดนแม่สอด ซึ่งรถคันนี้กำลังจะออกชายแดนแม่สอดแล้วใน 2-3 วันที่ผ่านมา และจากการกดดันของเจ้าหน้าที่ขบวนการเครือข่ายจึงทิ้งรถ
สำหรับประวัตินายจิรายุ ศิลาวนิช หรือเต้ย (ชื่อเดิม สถาพร ชะงายกลาง) มีประวัติต้องโทษข้อหาลักทรัพย์ เรือนจำกลางชลบุรี (4 ต.ค. 2559-1 เม.ย. 2560), ข้อหาลักทรัพย์ เรือนจำกลางเชียงใหม่ (23 มิ.ย. 2560-10 ส.ค. 2560), ข้อหาลักทรัพย์ เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร (13 ส.ค. 2560-7 ก.พ. 2562), ข้อหาลักทรัพย์ เรือนจำกลางขอนแก่น (28 ส.ค. 2562-15 ก.ย. 2563) และข้อหาลักทรัพย์ ทัณฑสถานบำบัดพิเศษขอนแก่น (28 ส.ค. 2562-17 มิ.ย. 2563) แต่ก็ยังไม่เลิก
ด้วยกระบวนการยุติธรรมหากทรัพย์สารภาพแล้วก็จะมีการลดโทษและออกมา จึงทำให้ขบวนการนี้ใหญ่ขึ้น ขบวนการนี้นอกจากจะขายรถเป็นคันแล้วยังมีการชำแหละรถออกเป็นชิ้น และออกไปขายตามร้านอะไหล่ อย่างไรก็ตาม หากรถข้ามไปขายที่ชายแดนแล้วมีเจ้าหน้าที่ทางฝั่งประเทศไทยตามเจอก็ยังไม่สามารถเอากลับคืนมาได้ เพราะติดปัญหาเรื่องกฎหมายระหว่างประเทศ
ทั้งนี้ คดีดังกล่าวสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 4 ม.ค. 2566 นางพงศ์พันธ์ นารถสิทธิ์ อายุ 38 ปี ผู้เสียหาย เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.ทุ่งฝน ว่าถูกนายจิรายุ ศิลาวนิช หรือเต้ย ที่รู้จักกันทางโซเชียล ได้เดินทางมาหาที่บ้านเมื่อต้นปี และออกอุบายขโมยรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว ทะเบียน ผค 9106 อุดรธานี ซึ่งเป็นรถของผู้เสียหาย ขับหนีไป
ต่อมานายจิรายุโทร.มาบอกว่ารถยนต์อยู่กับอีกคนที่นายจิรายุเป็นหนี้เขาอยู่ และขอให้โอนเงินมาจึงจะคืนรถให้ ผู้เสียหายจึงโอนเงินไป 160,800 บาท แต่นายจิรายุ ก็ไม่นำรถมาคืนให้ จึงมาแจ้งความร้องทุกข์ พร้อมอายัดหมายเลขบัญชีปลายทางมีเงินคงเหลือประมาณ 30,000 บาท แล้วแจ้งให้ฝ่ายสืบสวนตรวจสอบข้อมูลประกอบออกหมายจับมาดำเนินคดี
