อุบลราชธานี - ยังตามจับพระลูกวัดวัย 56 ปีไม่เจอหลังใช้ค้อนตอกตะปูตีหัวสาวรุ่นอายุ 17 ปี เลือดอาบคากุฏิภายในวัดบ้านนาแก อ.พิบูลมังสาหาร เผยล่าสุดอาการสาหัสอยู่ในห้องผ่าตัด ส่วนสาเหตุถูกพระทำร้ายปางตายยังไม่ทราบ แม้แต่เรื่องชู้สาวก็ฟันธงไม่ได้เพราะหลังถูกตีเสื้อผ้ายังสวมอยู่ครบ
จากกรณีเพจ จอนนี่ตะลึงกรุง ไลฟ์สด เข้าตรวจสอบเหตุหญิงสาวถูกทำร้ายในวัดบ้านนาแก ต.ระเว อ.พิบูลมังสาหาร เมื่อช่วงหัวค่ำวานนี้ (8 ม.ค.) จากการตรวจสอบพบชาวบ้านยืนมุงดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพร้อมระบุผู้ก่อเหตุคือพระ หรือ นายอุทิศ หลักทอง อายุ 56 ปี เป็นพระลูกวัดที่เกิดเหตุ ใช้ค้อนตอกตะปูตีศีรษะของนางสาวเอ๋ (นามสมมติ) อายุ 17 ปี จนได้รับบาดเจ็บสาหัสและนำรถจักรยานยนต์ฮอนด้า สีเทา ทะเบียน 1 กร 8967 ของ นางสาวเอ๋ หลบหนีไปทางอำเภอศรีเมืองใหม่ จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ใกล้เคียงออกตั้งจุดสกัด แต่ก็ไร้วี่แวว
ล่าสุดเมื่อเวลา 11.30 น วันนี้ (9 ม.ค.) พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ ศรีบุตตะ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรพิบูลมังสาหาร พร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจังหวัดอุบลราชธานี เข้าตรวจสอบเก็บคราบเลือดและ DNA ในที่เกิดเหตุมาประกอบสำนวนมัดตัวพระอุทิศ หลังใช้ค้อนตอกตะปูตีศีรษะของนางสาวเอ๋ อาการล่าสุดสาหัส ยังอยู่ห้องผ่าตัด
จากการสอบถามนางบุญแต่ง (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 55 ปี ยายของนางสาวเอ๋เปิดเผยว่า ได้รับโทรศัพท์จากพระอุทิศให้เข้าไปเอาจีวรมาซักเพื่อเอาค่าจ้างเพื่อไปทัศนศึกษาที่จังหวัดนครราชสีมา ผ่านไปประมาณ 30 นาทียังไม่เห็นหลานกลับมาจึงได้ออกไปตามที่กุฏิ แต่ก็ไม่มีใครออกมา แต่ตนรู้สึกว่าจะมีคนอยู่ในกุฏิ จึงได้กลับมาตามสามีและชาวบ้านเข้าไปตรวจสอบอีกครั้ง
จนมีเสียงคล้ายคนอยู่ข้างในจริง จึงได้ตัดสินใจงัดประตูเข้าไปพบนางสาวเอ๋ นั่งอยู่กับพื้นใบหน้าและศีรษะมีแต่เลือด เสื้อผ้ายังอยู่ครบ จึงได้นำตัวส่งโรงพยาบาลพิบูลมังสาหาร
ส่วนประเด็นเรื่องของชู้สาวตนยืนยันว่านางสาวเอ๋ไม่มีอะไร ไม่ได้คิดอะไรกับพระอุทิศเด็ดขาด แต่พระอุทิศจะคิดหรือไม่นั้นตนก็ไม่ทราบ ก่อนหน้านี้พระอุทิศเคยต่อว่าให้หลานสาวเรื่องการเล่นเฟซฯ เล่นไลน์ คล้ายอาการหึงหวง ทั้งที่ความจริงไม่มีอะไร นางบุญแต่งยังบอกอีกว่าที่ผ่านมามีคนว่าเลวแต่ก็ไม่คิดว่ามันจะเลวได้ขนาดนี้
ด้านนายนพรัตน์ แสนทวีสุข ผู้ใหญ่บ้าน เล่าว่า ช่วงที่เกิดเหตุตนได้รับแจ้งจากลูกบ้านว่ามีการร้องขอความช่วยเหลือภายในวัด จึงได้เข้ามาดู ก็พบยายของเด็กร้องขอความช่วยเหลือว่าหลานถูกทำร้ายอยู่ภายในกุฏิ ซึ่งก่อนเกิดเหตุตนเองก็ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นเข้าไปในกุฏิพบนางสาวเอ๋นอนหงายจมกองเลือดอยู่บนที่นอน มีบาดแผลบริเวณศีรษะทั้งสองข้าง
ขณะนั้นนางสาวเอ๋ยังคงมีสติ แต่ไม่สามารถโต้ตอบได้ จากนั้นก็โทร.เรียกรถพยาบาล จากการตรวจสอบภายในกุฏิไม่พบพระอุทิศอยู่ในกุฏิแต่อย่างใด พบค้อนเปื้อนเลือดตกอยู่ 1 อัน
นายนพรัตน์ยังกล่าวอีกว่า พระอุทิศเองก็เป็นลูกหลานบ้านนาแก ที่ผ่านมาไม่พบว่ามีอาการทางจิตหรือเสพยาเสพติด ส่วนสาเหตุที่ก่อเหตุนั้นตนเองก็ไม่ทราบว่าเกิดจากอะไร ลึกๆ ต้องถามญาติและรอผลการสอบสวนของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ
พระอธิการพุฒิชัย เจ้าอาวาสวัดบ้านนาแก เปิดเผยว่า พระอุทิศบวชได้ประมาณ 7-8 พรรษาแล้ว ตอนที่เกิดเหตุอาตมาก็ไม่ทราบว่าเป็นอย่างไร เพราะไม่อยู่ออกไปบ้านโยมในหมู่บ้าน และปกติไม่ค่อยมีใครอยากไปยุ่งกับพระอุทิศ เพราะท่านไม่ชอบคุยกับใคร บางครั้งก็คุยคนเดียว
ด้านแนวทางการสอบสวน พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ ศรีบุตตะ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรพิบูลมังสาหาร พ.ต.อ.ชาญชัย อินนรา ผู้กำกับการสืบสวนจังหวัดอุบลราชธานี พ.ต.ท.ณัฐวุฒิ หรีกประโคน รองผู้กำกับสืบสวน สภ.พิบูลมังสาหาร ดาบตำรวจ ยุทธพล ศรีสมพงษ์ (จอนนี่มือปราบ) ชุดสืบสวนสถานีตำรวจภูธรพิบูลมังสาหาร สืบสวนจังหวัดอุบลราชธานี ได้ประชุมชาวบ้านและผู้นำชุมชนออกติดตามพระอุทิศ ตามทุ่งนาและสถานที่ที่คาดว่าพระอุทิศจะหนีไปหลบซ่อน รวมทั้งในป่ารกเพราะพระอุทิศได้มีการโทร.มาบอกชาวบ้านว่าได้ฆ่าคนตายแล้วจะไปฆ่าตัวตาย แต่ก็ยังค้นหาไม่พบ
ส่วนสาเหตุนั้นทางเจ้าหน้าที่ยังไม่ฟันธงว่าจะเกิดจากปัญหาส่วนตัว ชู้สาว หรือการเงิน และยังไม่พบว่านางสาวเอ๋จะถูกล่วงละเมิดทางเพศแต่อย่างใด เสื้อผ้าทุกอย่างยังอยู่ในสภาพปกติ แต่อย่างไรก็ตามแพทย์จะได้ทำการตรวจร่างกายอย่างละเอียดและยังไม่ตัดประเด็นใดออก