นครสวรรค์ - คนใช้เผยประสบการณ์ขับรถไฟฟ้าฝ่าคลื่นจราจรหนาแน่นเต็มทุกเลนทัวร์ฉลองปีใหม่ เที่ยวได้กิโลฯ ละไม่ถึงบาท เสาร์อาทิตย์ถูกลงอีกเกือบครึ่ง แค่ปักหมุดสถานีชาร์จ-วางแผนล่วงหน้าเท่านั้น
ท่ามกลางการจราจรแออัดห้วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2566 นี้ ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สอบถามผู้ใช้รถไฟฟ้าเดินทางเที่ยวภาคเหนือ ผ่านชุมทางนครสวรรค์ เมืองปากน้ำโพ ที่แวะชาร์จไฟ ณ สถานีชาร์จรถไฟฟ้า ภายในปั๊มน้ำมัน ปตท. พื้นที่เขาเขียว อ.เมืองนครสวรรค์ ระหว่างที่รถราวิ่งบนถนนสายหลักทั้ง ทล.1 พหลโยธิน ทล.117 นครสวรรค์-พิษณุโลก แม้แต่ ทล.112 ทางเลี่ยงเมืองนครสวรรค์ที่เต็มทุกเลน
พบว่ามีผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าหลายคันขับเข้ามาจอดเพื่อใช้บริการชาร์จไฟฟ้าของ ปตท.ดังกล่าวกันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปั๊มมีตู้ชาร์จ 1 ตู้ สามารถแยกจ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับรถยนต์ได้ทีเดียว 2 คัน
ผู้ที่ใช้รถไฟฟ้าแต่ละรายต่างบอกว่า ตั้งแต่เลือกมาใช้รถยนต์ไฟฟ้า สามารถช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้เยอะพอสมควร แม้การชาร์จไฟแต่ละครั้งจะใช้เวลามากกว่าเติมน้ำมัน แต่ก็สามารถใช้เวลาในการรอไม่มากนัก ก็ถือว่าเป็นการพักรถไปในตัว อีกทั้งยังมีเวลาไปเดินเลือกซื้อของ นั่งรับประทานอาหาร และเดินไปทำธุระในห้องน้ำได้อย่างสบายๆ
ผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้ารายหนึ่งเปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวว่า ก่อนที่จะหันมาเลือกใช้รถยนต์ไฟฟ้านั้นก็ศึกษามาเยอะพอสมควร ตอนนั้นแม้จะเห็นว่าดีตรงที่ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการใช้รถเดินทาง แต่ก็ยังแอบหวั่นใจเรื่องสถานีชาร์จไฟฟ้าจะมีไม่เพียงพอ
แต่เมื่อตนตัดสินใจมาใช้รถประเภทนี้ ปรากฏว่านอกจากจะช่วยลดค่าใช้จ่ายแทนการเติมน้ำมันได้เยอะ เหลือเฉลี่ยกิโลเมตรละ 70-80 สตางค์ คือไม่ถึง 1 บาทต่อกิโลฯ ยังสามารถเดินทางทีเดียวได้ไกลอีกด้วย หากแวะจอดชาร์จไฟเต็มความจุก็จะเสียค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 300 กว่าบาทเท่านั้น ถ้าเป็นเสาร์อาทิตย์ จะถูกลงไปถึงร่วม 50% หรือถ้าเข้าพักโรงแรม ก็คุยกับทางโรงแรมเพื่อชาร์จไฟ ซึ่งสามารถใช้ปลั๊กธรรมดาก็ได้ และบางโรงแรมก็ให้ชาร์จฟรี บางที่ก็คิดค่าบริการ 100-300 บาท
ส่วนสถานีชาร์จไฟฟ้า ตอนนี้ก็ถือว่าเพียงพอ เพราะคนใช้รถประเภทนี้ยังไม่เยอะเท่าไหร่นัก อย่างนครสวรรค์ก็มีที่ชาร์จอยู่ 10 กว่าจุด เฉพาะ ปตท.ก็มีอยู่ 2 จุด คือที่เขาเขียว กับโกรกพระ ในเมืองก็มีอีก 4 จุด แต่ละจุดก็มีหลายหัวจ่าย ยิ่งเรื่องในการรอชาร์จไฟแต่ละคันก็จะใช้เวลาชาร์จประมาณ 20 นาทีเท่านั้นก็ไปต่อแล้ว แม้จะไม่เต็มแบตฯ แต่ก็สามารถเดินทางต่อได้ไกล ไปแวะชาร์จต่อที่สถานีหน้าได้ ซึ่งก็ถือว่าเป็นการแวะพักทั้งคน ทั้งรถไปในตัว และยิ่งการเดินทางช่วงปีใหม่ที่มีปริมาณเยอะเช่นนี้ ยิ่งส่งผลดีที่สามารถช่วยแวะพักรถชาร์จไฟเพื่อหลีกเลี่ยงการจราจรที่แออัดในช่วงเร่งด่วนเช่นนี้