xs
xsm
sm
md
lg

“บิ๊กโจ๊ก” สั่งค้น 18 จว.53 เป้าหมายเครือข่ายเอื้อทุนจีนสีเทา แจ้งจับ 2 ผัวเมียจีนเอเยนต์ยืดอายุวีซ่าในเชียงใหม่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เชียงใหม่ - "บิ๊กโจ๊ก รอง ผบ.ตร.” สั่งปูพรมค้นเครือข่ายเอื้อทุนจีนสีเทา 18 จังหวัด 53 จุด เฉพาะเชียงใหม่ 19 เป้าหมาย แจ้งจับ 2 ผัวเมียชาวจีนเอเยนต์รับต่อวีซ่า อ้างชื่อคนไทยเป็นนอมินี ใช้มูลนิธิรับขยายอายุวีซ่า-ปูทางได้ลูกได้สัญชาติไทย


กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนจับกุมกลุ่มทุนจีนสีเทาที่เข้ามาทำธุรกิจสถานบันเทิงในประเทศไทย โดยใช้คนไทยเป็นนอมินี แต่แอบแฝงด้วยธุรกิจสีเทา ไม่ว่าจะเป็นยาเสพติด หรือคอลเซ็นเตอร์ ฯลฯ ซึ่ง พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ขยายผลสืบสวนจับกุม และเข้าตรวจค้นยึดทรัพย์สินได้เป็นจำนวนมาก

ซึ่งพบข้อสังเกตว่าการที่กลุ่มทุนจีนเหล่านี้สามารถเข้ามาภายในราชอาณาจักรและขออนุญาตอยู่ต่อได้นั้น มีการอ้างเหตุผลเกี่ยวกับเรื่องการศึกษา หรือเป็นอาสาสมัครมูลนิธิต่างๆ เพื่อขยายเวลาในการอยู่ต่อทุกครั้ง โดยที่ไม่ได้มีการตรวจสอบโดยละเอียดว่ามีการดำเนินการตามที่แจ้งจริงหรือไม่ จึงได้สั่งการให้ชุดสืบสวนดำเนินการสืบสวนขยายผลเกี่ยวกับกลุ่มเอเยนซีที่รับต่อวีซ่าโดยเปิดตัวเป็นมูลนิธิหรือสถานศึกษา เพื่อตรวจสอบข้อมูลว่ามีการดำเนินการจริงหรือไม่

กระทั่ง 9 ธ.ค. 65 ที่ผ่านมา พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ได้แถลงข่าวที่ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ หลังสั่งการให้ชุดสืบสวนประสานความร่วมมือไปยัง บช.น., บช.ภ.1, บช.ภ.2, บช.ภ.3, บช.ภ.4, บช.ภ.5 บช.ภ.7 สตม. และ บช.ทท. เปิดปฏิบัติการเข้าค้นเป้าหมายที่เกี่ยวข้องรวมทั้งสิ้น 53 จุด อยู่ใน 18 จังหวัดทั่วประเทศ ได้แก่ กรุงเทพฯ นนทบุรี สมุทรปราการ นครปฐม ชลบุรี เชียงใหม่ เชียงราย แพร่ ลำพูน น่าน หนองบัวลำภู กาฬสินธุ์ ชัยภูมิ นครราชสีมา ยโสธร อำนาจเจริญ ขอนแก่น และอุดรธานี

ผลการตรวจค้น กลุ่มที่ 1 มูลนิธิและสถานศึกษา ตรวจยึดเอกสารการสมัครเรียนและเอกสารที่เกี่ยวข้อง ซึ่งพบความผิดปกติจำนวนมาก กลุ่มที่ 2 ผับเบบี้เฟซ ซูเปอร์คลับ เอกมัย ตรวจยึด-อายัดทรัพย์ ซึ่งจะมีการตรวจสอบถึงเจ้าของหรือผู้เปิดมูลนิธิหรือสถานที่เหล่านี้ รวมทั้งตรวจสอบเส้นทางการเงินด้วยว่าได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มทุนจีนสีเทาหรือไม่ หากพบการกระทำความผิดจะขยายผลจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังได้เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 25/48 หมู่ที่ 1 ต.สันกลาง อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นบ้านพักของนายนี่ ยี่โป (Mr. NI YIBO) เอเยนต์รับต่อวีซ่าให้กลุ่มชาวจีน โดยการขอวีซ่าประเภทมูลนิธิผ่านมูลนิธิครีเอทิ่ง บาลานซ์ ซึ่งตรวจพบว่ามีการสวมสิทธิ นำชื่อของนายกรกฤต แสดงตนเป็นบิดาของ ด.ญ.กรวรรณ (นามสมมติ) ที่แท้จริงแล้วเป็นบุตรของนายนี่ ยี่โป (Mr. NI YIBO) กับนางเกา หยาง (MRS. GAO YANG) เพื่อให้ ด.ญ.กรวรรณได้สัญชาติไทย

เจ้าหน้าที่จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานร้องทุกข์กล่าวโทษดำเนินคดีต่อ นายนี่ ยี่โป (Mr. NI YIBO ) และนางเกา หยาง (MRS. GAO YANG) ในความผิดฐาน “ร่วมกันทำ ใช้หรือแสดงหลักฐานอันเป็นเท็จ หรือกระทำการเพื่อให้ตนเอง หรือผู้อื่นมีชื่อ หรือมีรายการอย่างหนี่งอย่างใดในทะเบียนบ้านหรือเอกสารการทะเบียนราษฎรอื่นโดยมิชอบ ตาม พ.ร.บ.การทะเบียนราษฎร พ.ศ. 2534 มาตรา 50 ประกอบ ป.อาญา มาตรา 83, ร่วมกันแจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงาน ซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหาย ตาม ป.อาญามาตรา 137, 83

และร่วมกันแจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารมหาชนหรือเอกสารราชการ ซึ่งมีวัตถุประสงค์สำหรับใช้เป็นพยานหลักฐาน โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ตาม ป.อาญา มาตรา 267, 83 ต่อ พงส.สภ.ช้างเผือก ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น