xs
xsm
sm
md
lg

"ปลัดจอมแฉ" ลุยตรวจที่ตั้ง สนง.ใหญ่แรกเริ่ม 2 มูลนิธิส่อพัวพันจีนเทา พบไม่เคยทำกิจกรรมใดๆ อ้างลูกสะใภ้แอบเอาไปจดทะเบียน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เชียงใหม่ - "ปลัดจอมแฉ" นำลุยตรวจสอบที่ตั้งสำนักงานใหญ่แรกเริ่มจดจัดตั้ง 2 มูลนิธิในอำเภอสันทราย ตามที่ "ชูวิทย์" ระบุว่าพัวพันกลุ่มทุนจีนเทาด้วยการรับคนจีนจำนวนมากเข้าเป็นอาสาสมัครเอื้อการขอใบอนุญาตทำงานและวีซ่าอยู่ยาวในประเทศไทย เบื้องต้นพบเป็นโรงเรือนให้คนงานใช้ตัดหินและอาคารพาณิชย์คูหาเดียว ถูกเอาที่อยู่ไปใช้ยื่นจดทะเบียนเท่านั้น แต่ไม่เคยมีการทำกิจกรรมใดๆ เลย และที่อยู่ทั้ง 2 แห่งมีเจ้าของเดียวกัน อ้างถูกลูกสะใภ้ที่เป็นประธานมูลนิธิเอาไปใช้โดยไม่เคยรู้เรื่องมาก่อน แต่ปรากฏชื่อลูกชายร่วมเป็นรองประธานกรรมการมูลนิธิ


เช้าวันนี้ (9 ธ.ค. 65) นายบุญญฤทธิ์ นิปวณิชย์ ปลัดอำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ และประธานสหพันธ์ปลัดอำเภอแห่งประเทศไทย (ส.ปอ.ท.) พร้อมด้วยนายสรพงษ์ คำมี กำนันตำบลป่าไผ่ อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่, ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจที่ตั้งของมูลนิธิปรานต์ ฮั่นอวี่ และมูลนิธิกรีนคลีนเอิร์ธ ที่ยื่นจดทะเบียนจัดตั้งและมีที่ตั้งสำนักงานใหญ่แรกเริ่มอยู่ในอำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ สืบเนื่องจากกรณีที่ก่อนหน้านี้นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตเจ้าของสถานบันเทิงและอดีตนักการเมือง ออกมาเปิดเผยข้อมูลทั้ง 2 มูลนิธิดังกล่าวเป็นหนึ่งในมูลนิธิหลายแห่งที่เชื่อได้ว่าอาจจะเข้าไปมีส่วนรู้เห็นเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับกลุ่มทุนจีนสีเทา ด้วยการรับคนจีนเข้าเป็นอาสาสมัครของมูลนิธิแล้วออกใบรับรองให้นำไปใช้ยื่นขอใบอนุญาตทำงานและวีซ่า เพื่อพำนักอยู่ในประเทศไทย ซึ่งเป็นการดำเนินการที่ไม่น่าจะโปร่งใส และตลอดช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมามีคนจีนที่ได้รับวีซ่าด้วยวิธีการเช่นนี้แล้วหลายพันคน

โดยจุดแรกได้เข้าตรวจสอบที่บ้านเลขที่ 171 หมู่ที่ 7 ตำบลป่าไผ่ อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ ใกล้กับวัดศรีบุญเรือง ซึ่งเป็นสำนักงานใหญ่ของมูลนิธิกรีนคลีนเอิร์ธ แรกเริ่มเมื่อครั้งจดจัดตั้งในปี 2563 ก่อนที่จะย้ายไปอยู่อำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่ ในปี 2564 เบื้องต้นพบว่ามีลักษณะเป็นที่ดินก่อกำแพงรั้วรอบขอบชิด ตั้งเป็นโรงเรือนให้คนงานตัดแต่งแผ่นหินอ่อนหรือหินแกรนิตของห้างหุ้นส่วนฉัตรปกรณ์ แกรนิต ซึ่งจากการสอบถามคนงานที่ทำงานอยู่ตั้งแต่แรกเริ่มให้ข้อมูลว่าจุดนี้เป็นสถานที่ทำงานสำหรับตัดแต่งแผ่นหินมาตั้งแต่แรก พร้อมยืนยันว่าไม่เคยพบเห็นว่ามีการดำเนินการหรือทำกิจกรรมใดๆ ในลักษณะของมูลนิธิเลย แม้กระทั่งการจัดการประชุมคณะกรรมการมูลนิธิ รวมทั้งไม่มีการติดป้ายและไม่เคยมีการพาบุคคลอื่น โดยเฉพาะคนจีนเป็นกลุ่มหรือหมู่คณะเข้ามาในสถานที่แห่งนี้เพื่อทำกิจกรรมใดๆ ทั้งสิ้น

ขณะที่จุดที่สองเข้าตรวจสอบบ้านเลขที่ 196/2 หมู่ที่ 5 ตําบลหนองหาร อําเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ ตั้งอยู่ข้างมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ซึ่งเป็นสำนักงานใหญ่ของมูลนิธิปรานต์ ฮั่นอวี่ แรกเริ่มเมื่อครั้งจดจัดตั้งในปี 2562 ก่อนที่จะย้ายไปอยู่อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อปี 2564 เบื้องต้นพบว่าเป็นอาคารพาณิชย์ 1 คูหา และเป็นที่ตั้งสำนักงานของห้างหุ้นส่วนฉัตรปกรณ์ แกรนิต โดยอาคารดังกล่าวถูกปิดและล็อกกุญแจไว้ อย่างไรก็ตาม จากการสอบถามผู้อยู่อาศัยใกล้เคียงต่างให้ข้อมูลตรงกันว่าทราบเพียงว่าอาคารแห่งนี้ทำธุรกิจเกี่ยวกับการจำหน่ายหินแกรนิตที่มีการติดป้ายระบุไว้อย่างชัดเจน ซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยพบเห็นว่ามีการนำป้ายมูลนิธิใดๆ มาติดตั้งเพิ่มเติม และไม่เคยพบเห็นว่ามีการทำกิจกรรมหรือดำเนินการใดๆ ในลักษณะของมูลนิธิเลย


ทั้งนี้ นายบุญญฤทธิ์เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบข้อมูลค่อนข้างชัดเจนว่าสำนักงานใหญ่แรกเริ่มเมื่อครั้งจัดตั้งของทั้ง 2 มูลนิธิดังกล่าวนี้ไม่มีการดำเนินกิจกรรมใดๆ ในลักษณะของมูลนิธิเลย โดยจากนี้จะต้องมีการตรวจสอบรายละเอียดต่างๆ เพิ่มเติมต่อไป เช่นว่า ทางมูลนิธิได้มีการส่งรายงานการประชุม และส่งงบบัญชีให้นายทะเบียนหรือไม่อย่างไร รวมทั้งได้ทำตามข้อบังคับวัตถุประสงค์ของมูลนิธิตามที่จดจัดตั้งหรือไม่ ตลอดจนจะต้องตรวจสอบให้แน่ชัดด้วยในประเด็นการรับคนจีนจำนวนมากเป็นอาสาสมัครแล้วออกใบรับรองให้นำไปใช้ขอใบอนุญาตทำงานและวีซ่าว่าเป็นความจริงหรือไม่ และหากจริงแล้วเป็นเพราะมีเหตุผลความจำเป็นอย่างไร เพื่อพิจารณาว่าเข้าข่ายเป็นภัยต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชนและเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติหรือไม่ ซึ่งหากพบการกระทำผิดจะต้องถูกดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ด้านนายสรพงษ์ คำมี กำนันตำบลป่าไผ่ อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ในส่วนของที่ตั้งสำนักงานใหญ่แรกเริ่มของมูลนิธิกรีนคลีนเอิร์ธ ที่อยู่ในพื้นที่ของตัวเองนั้น พบว่าทางห้างหุ้นส่วนฉัตรปกรณ์ แกรนิต ได้เข้ามาซื้อที่ดินรกร้างเมื่อประมาณปี 2560 และตั้งเป็นโรงเรือนให้คนงานใช้เป็นสถานที่ทำงานตัดแต่งหินตั้งแต่แรกเริ่มต่อเนื่องมาจนปัจจุบัน โดยที่ตัวเองและชุมชนไม่เคยทราบมาก่อนว่ามีการใช้ที่อยู่ดังกล่าวจดจัดตั้งมูลนิธิ และที่ผ่านมาก็ไม่เคยพบเห็นว่ามีการทำกิจกรรมหรือดำเนินการใดๆ ในลักษณะของมูลนิธิเลย กระทั่งทราบจากข่าวที่มีการนำเสนอจึงได้สอบถามไปยังเจ้าของ และได้รับการชี้แจงว่าทางเจ้าของเป็นลูกสะใภ้ที่มีชื่อเป็นประธานกรรมการมูลนิธิ นำที่อยู่ไปใช้จดจัดตั้งมูลนิธิ โดยที่ตัวเจ้าของไม่ทราบเรื่องมาก่อนเช่นกัน อย่างไรก็ตาม พบว่ามูลนิธิแห่งนี้มีชื่อของลูกชายเจ้าของร่วมเป็นรองประธานกรรมการมูลนิธิด้วย ทั้งนี้กรณีที่เกิดขึ้นอยากให้หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบต่อไปว่ามีการดำเนินการใดๆ ที่ไม่ถูกต้องหรือไม่อย่างไร


รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า ผู้ที่ยื่นขอจดจัดตั้งมูลนิธิทั้งมูลนิธิปรานต์ ฮั่นอวี่ และมูลนิธิกรีนคลีนเอิร์ธ เป็นบุคคลเดียวกัน อีกทั้งคณะกรรมการบริหารมูลนิธิของทั้ง 2 มูลนิธิยังเป็นกลุ่มบุคคลเดียวกันทั้งหมด ประกอบด้วย 1. นางสาวธีรดา ปงปัญญายืน ประธานกรรมการ, 2. นายรัชกร ปิยะสัจจบูลย์ รองประธานกรรมการ และ 3. นางสโรชา แดงโชติ เลขานุการและเหรัญญิก ทั้งประธานกรรมมูลนิธิ, รองประธานกรรมการมูลนิธิ รวมทั้งเลขานุการและเหรัญญิก ซึ่งนางสาวธีรดา ปงปัญญายืน มีชื่อเป็นผู้ยื่นคำขอจดทะเบียนจัดตั้งมูลนิธิ

นอกจากนี้ รายงานข่าวแจ้งด้วยว่าช่วงเช้าตรู่วันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจท่องเที่ยว หน่วยปฏิบัติการพิเศษ และฝ่ายปกครอง บูรณาการร่วมแบ่งกำลังเป็น 19 ชุด นำหมายศาลออกปฏิบัติการปิดล้อม ตรวจค้นเป้าหมาย ยาเสพติด สิ่งผิดกฎหมาย และจุดศูนย์รวมชาวต่างชาติที่อาจมีการออกหนังสือรับรองการออกวีซ่าพำนักในประเทศ รวม 19 จุด ในพื้นที่อำเภอเมือง, อำเภอสารภี, อำเภอสันทราย และอำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ โดยที่ช่วงบ่ายวันเดียวกันนี้ พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จะเดินทางมาแถลงข่าวผลการปฏิบัติการที่จังหวัดเชียงใหม่ด้วยตัวเอง








กำลังโหลดความคิดเห็น