แพร่ - พัฒนาสังคมฯแพร่ยื่นมือช่วยหญิงชราวัย 88 ปี นั่งวีลแชร์ขึ้นร้องทุกข์ พม. แต่ถูก จนท.ปฏิเสธจนเครียดอาเจียนคาศาลากลางจังหวัดฯ ส่งเรื่องถึงสภาทนายความเปิดโอกาสให้คุณยายเข้าถึงกฎหมาย
ความคืบหน้ากรณีเรื่องราวสุดสะเทือนใจ นางต่อมแก้ว ชะม้าย หญิงชราวัย 88 ปี อยู่บ้านเลขที่ 130/1 หมู่ 12 ต.หัวฝาย อ.สูงเม่น จ.แพร่ ที่ต้องเผชิญกับปัญหามรดกกับลูกหลานและเครือญาติ ต้องการสู้คดีแต่ไม่มีเงินพอ จึงหวังพึ่งหน่วยงานรัฐ แต่เมื่อนั่งรถเข็นขึ้นไปที่ศาลากลางจังหวัดแพร่เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. 65 ที่ผ่านมา หวังเข้าพบเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดแพร่เพื่อขอหารือ-หาทางออก และอยากขอรับบริจาคเงินเพื่อไปต่อสู้คดี กลับได้รับการปฏิเสธว่า..หน่วยงาน พม.ไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้ จนเกิดอาการเครียดจนอาเจียนอย่างรุนแรงบริเวณทางเดินหน้าห้อง พม.แพร่
ล่าสุด นางอนงค์ เจริญวัย พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดแพร่ พร้อมคณะเดินทางเข้าเยี่ยมคุณยายต่อมแก้ว ช่วงเย็นวันที่ 5 ธ.ค. 65 ที่ผ่านมา เมื่อไปถึงพบว่าบ้านคุณยายที่เดินทางมาร้องทุกข์ถึงศาลากลางจังหวัดแพร่มีสภาพถูกปิดล้อมด้วยรั้วสังกะสี และถมดินรอบด้าน ไม่มีทางระบายน้ำ จำเป็นต้องอาศัยอยู่ตามยถากรรม สาเหตุสำคัญมาจากถูกญาติพี่น้องยึดครองที่ดิน ซึ่งคุณยายต้องสู้คดีในชั้นศาลเพื่อนำที่ดินของตนเองกลับคืนด้วยวัย 88 ปี
ภายในบ้านมีนายบุญธรรม ชะม้าย ลูกชายที่เกษียณอายุมาแล้ว และนางกรุณา คีรีสุธรรมกุล ภรรยา ทั้งครอบครัวมีเพียงนางกรุณาซึ่งเป็นลูกสะใภ้เปิดร้านขายผัดไทยเพื่อหารายได้มาจุนเจือครอบครัว ขณะที่การสู้คดีครั้งนี้ต้องใช้เงินจำนวนมาก จนเป็นสาเหตุให้คุณยายต้องไปร้องขอความช่วยเหลือจากพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดแพร่
หลังจากดูสภาพความเป็นอยู่ของคุณยายพบสภาพที่แท้จริงที่ต้องสู้กับปัญหาในขณะที่เป็นผู้สูงวัยเป็นความลำบากในชีวิตของคนคนหนึ่งในยามที่อยู่ในสภาวะสูงอายุ นางอนงค์ พม.แพร่ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ในเบื้องต้น พม.ได้ให้คำปรึกษา ให้กำลังใจ บรรเทาความเดือดร้อนเป็นเงินสงเคราะห์ครอบครัว และจะเร่งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ศูนย์ดำรงธรรม และสำนักงานยุติธรรมจังหวัด ให้การช่วยเหลือในเรื่องคดีความต่อไป
ส่วนเรื่องการเปิดรับบริจาคนั้น นางอนงค์กล่าวว่า ได้คุยกับนายบุญธรรม ลูกชายของคุณยายต่อมแก้วว่า หากได้ไปขอให้ทุกหน่วยช่วยแล้ว ค่อยหาทางทำเรื่องการขอรับบริจาคให้ถูกต้องต่อไป ซึ่งนายบุญธรรมและครอบครัวคุณยายต่อมแก้วเข้าใจแนวทางจากคำแนะนำของ พม.จังหวัดฯ ที่ยื่นมือเข้ามาเป็นที่ปรึกษาและให้ความช่วยเหลือในครั้งนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัญหาของคุณยายต่อมแก้วยังคงต้องต่อสู้กับความไม่เป็นธรรมและกระบวนการทางกฎหมาย ซึ่งมีนายชาตรี คันธวงศ์ ทนายความรายหนึ่งของจังหวัดแพร่เข้ามาให้การช่วยเหลืออีกทาง โดยได้เสนอสภาทนายความเพื่อช่วยเหลือด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม การทำงานของทุกฝ่ายก็ต้องเป็นไปตามหลักฐานรูปคดี ซึ่งอาจต้องใช้เวลายาวนานกอปรกับชีวิตของคุณยายอยู่ในวัย 88 ปี พร้อมทั้งมีอาการเครียดจากเรื่องราวปัญหาที่เกิดขึ้นสูงมาก อาจส่งผลต่อสุขภาพของคุณยายต่อมแก้วผู้สูงอายุอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ถือเป็นภาพตัวอย่างที่ทางราชการจะต้องปรับตัวรองรับสถานการณ์สังคมผู้สูงอายุ