เปิดลานคอนกรีตหน้าอำเภอหัวหิน ให้ชาวนานำข้าวเปลือกมาตากไล่ความชื้น

ประจวบคีรีขันธ์ - หัวหินเปิดลานอเนกประสงค์ช่วยเหลือชาวนาที่เดือดร้อนในช่วงเก็บเกี่ยวตากข้าวเปลือก โดยให้ชาวนาทยอยนำข้าวเปลือกที่เพิ่งเก็บเกี่ยวเสร็จมาตากแดดไล่ความชื้นก่อนนำไปขายให้โรงสี หรือแปรรูปจำหน่ายเพื่อเพิ่มมูลค่า แถมยังปลอดภัยอีกด้วย
วันนี้ (1 ธ.ค.) นายพลกฤต พวงวลัยสิน นายอำเภอหัวหิน พร้อมด้วย นางสุภิณยา บัวทอง เกษตรอำเภอหัวหิน และเจ้าหน้าที่เกษตรตำบลทับใต้ ร่วมกันลงพื้นที่ให้กำลังใจ และติดตามการแก้ปัญหาความเดือดร้อนของชาวนาในตำบลทับใต้ จำนวนกว่า 20 ราย ที่กำลังประสบปัญหาในช่วงฤดูกาลเก็บเกี่ยวข้าวในช่วงเดือนพฤศจิกายน ถึงธันวาคม เนื่องจากปีนี้มีน้ำท่วมนาข้าว และนานต่อเนื่องหลายวัน ทำให้ผลผลิตที่ได้มีความชื้นสูง และไม่มีสถานที่สำหรับตากข้าวเปลือกที่เพิ่งเก็บเกี่ยวเสร็จ เนื่องจากปีนี้สถานที่ที่ใช้ตากข้าวเปลือกเดิมเป็นของเอกชน แต่ปีนี้มีการใช้ประโยชน์แล้ว หากนำไปตากบนถนนเกรงจะรบกวนชาวบ้าน และไม่ปลอดภัย

โดยนายประกอบ รุ่งสว่าง ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนอนุรักษ์ชาวนาหัวหิน ได้เป็นตัวแทนชาวบ้านเข้ามาขอใช้ลานอเนกประสงค์คอนกรีต หน้าที่ว่าการอำเภอหัวหินในการตากข้าว ซึ่งนายอำเภอหัวหิน เล็งเห็นถึงความเดือดร้อนของชาวนาจึงอนุเคราะห์ให้ชาวนาที่ขณะนี้เริ่มเกี่ยวข้าว นำข้าวเปลือกมาตากไล่ความชื้นที่ลานอเนกประสงค์แห่งนี้ตลอดฤดูกาลเก็บเกี่ยว โดยให้ชาวนาแต่ละคนจัดระเบียบพื้นที่ตากข้าวอย่างเหมาะสม

สำหรับวันนี้เป็นวันแรกที่ชาวนาเริ่มนำข้าวเปลือกมาตาก มีการจัดสรรพื้นที่ และมีการขอแรงชาวนาด้วยกันมาช่วยกันเกลี่ยข้าวเปลือกออกไปเป็นวงกว้างเพื่อรับแสงแดดได้อย่างทั่วถึง ซึ่งชาวนาบอกว่า ปกติอาจจะต้องตากข้าวเปลือกประมาณ 2 แดด ข้าวเปลือกถึงจะมีความชื้นใกล้เคียง 15% ตามที่โรงสีกำหนด แต่วันนี้แดดแรงดี สถานที่กว้างขวางข้าวเปลือกกระจายตัวดี และมีความร้อนจากพื้นคอนกรีตช่วยด้วย คาดว่าอาจจะใช้เวลาแค่วันเดียวน่าจะเพียงพอแล้ว

นายพลกฤต พวงวลัยสิน นายอำเภอหัวหิน กล่าวว่า อำเภอหัวหินเหลือชาวนาที่ยังคงอนุรักษ์อาชีพการทำนาอยู่เพียงกลุ่มเดียว คือในพื้นที่ตำบลทับใต้ มีชาวนานผู้ปลูกข้าวรายย่อยปลูกข้าวไว้บริโภคเพื่อลดค่าใช้จ่าย ส่วนที่เหลือจะขายให้โรงสี จำนวน 60 ราย รวมกันตั้งกลุ่มในชื่อ “กลุ่มวิสาหกิจชุมชนอนุรักษ์ชาวนาหัวหิน” มีพื้นที่ทำนาประมาณ 600 ไร่ ฤดูกาลนี้น่าจะได้ผลผลิตประมาณ 300 ตัน รวมทั้งปีจะอยู่ที่ 600 ตัน แต่ที่ผ่านมา ประสบปัญหาฝนตกชุก ค่าความชื้นสูง หากนำไปขายให้โรงสีทันทีจะถูกหักค่าความชื้นตั้งแต่ 500-1,000 บาทต่อตัน ปีนี้ที่ว่าการอำเภอหัวหิน เทพื้นคอนกรีตเสร็จพอดี เลยอนุเคราะห์ให้ชาวนานำข้าวเปลือกมาตากเพื่อช่วยเหลือชาวนา คาดว่าจะทำให้ข้าวเปลือกมีค่าความชื้นในเกณฑ์ดี ชาวนาสามารถขายข้าวมีรายได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย ขายข้าวให้โรงสีในราคาที่สูงขึ้น สร้างรายได้อีกนับแสนบาท พื้นที่ตรงนี้มีประมาณเกือบ 10 ไร่ สามารถรองรับได้อย่างเพียงพอแน่นอน เนื่องจากชาวนาเองทยอยเก็บเกี่ยวข้าวเช่นกัน

ด้านนางสุภิณยา บัวทอง เกษตรอำเภอหัวหิน กล่าวว่า การตากข้าวเปลือกจะช่วยให้ข้าวมีคุณภาพดีขึ้น ลดความชื้น เพราะในขั้นตอนการขายข้าวโรงสีจะจำกัดค่าความชื้นไม่เกิน 15% ตรงตามความต้องการของโรงสีมากขึ้น สำหรับพื้นที่ปลูกข้าวในตำบลทับใต้ ส่วนใหญ่ปลูกข้าพันธุ์หอมมะลิ 105 หอมปทุม ข้าวเจ้า กลุ่มพันธุ์ชัยนาท 1 เหลืองปะทิว สุพรรณบุรี 1 และข้าวเพื่อสุขภาพ เช่น พันธุ์ กข 43 ซึ่งเป็นข้าวน้ำตาลต่ำ เหมาะสำหรับคนเป็นโรคเบาหวาน ข้าวไรซ์เบอร์รี่ และพันธุ์สังข์หยด ที่ผ่านมา ปัญหาลานตากข้าวค่อนข้างมีปัญหา ไม่เพียงพอ ทั้งพื้นที่สาธารณะ และพื้นที่ของชาวบ้านที่มีการเปลี่ยนมือทำประโยชน์ในพื้นที่ สำหรับสภาพอากาศท้องฟ้าเปิดเต็มที่ และความกว้างขางของลานอเนกประสงค์ คาดว่าน่าจะใช้เวลาตากข้าวเปลือกเพียง 1-2 วันเท่านั้น

นายประกอบ รุ่งสว่าง ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนอนุรักษ์ชาวนาหัวหิน กล่าวว่า ขณะนี้ทางกลุ่มมีสมาชิกอยู่ประมาณ 60 คน พื้นที่ปลูกข้าวอยู่ในตำบลทับใต้ ที่เรียกว่า “ทุ่งทับใต้” ถือเป็นแหล่งทำนาสุดท้ายของอำเภอหัวหิน ซึ่งจะต้องอนุรักษ์อาชีพนี้ไว้ และช่วยเหลือกันในกลุ่มชาวนา เฉพาะฤดูกาลนี้น่าจะได้ข้าวเปลือกประมาณ 300 ตัน แต่ประสบปัญหาไม่มีลานตากข้าว พอมาเห็นพื้นที่นี้ตรงได้ขอกับทางนายอำเภอหัวหิน ขอใช้พื้นที่ตรงนี้ตากข้าว เนื่องจากอยู่ไม่ห่างจากพื้นที่ปลูกข้าวของชาวนา และยังปลอดภัย ไม่กีดขวางการจราจรของชาวบ้านด้วย