หนองคาย - รอง ผบ.ตร.บินไปถึงหนองคาย รับมอบตัว 2 ผู้ต้องหาปล้นฆ่าพ่อค้ารถหลุดจำนำที่ขอนแก่นเมื่อ 9 ต.ค. 65 หลังก่อเหตุหลบหนีข้ามฝั่งไปอยู่ลาว ถูกตำรวจลาวจับได้นำตัวส่งกลับ เผยเป็นความร่วมมืออันดีระหว่างสองประเทศ
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 30 พ.ย. 65 ที่ด่านพรมแดนสะพานไทย-ลาว แห่งที่ 1 อ.เมืองหนองคาย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร., พล.ต.ต.ไพศาล ลือสมบูรณ์ รองผบช.ภ.4, พล.ต.ต.พรชัย ชะลอเดช ผบก.ภ.จ.หนองคาย, พล.ต.ต.นพเก้า โสมนัส ผบก.ภ.จ.ขอนแก่น ได้รับมอบตัวผู้ต้องหา 2 คน ประกอบด้วย นายพันธรัตน์ หาญสุริย์ หรือโก้ อายุ 18 ปี และนายจิราวุฒิ ทองสืบสาย หรือเบนซ์ อายุ 26 ปี ในคดีปล้นฆ่าพ่อค้ารถหลุดจำนำ จากพลจัตวา แก่นจัน พมมะจัก รองหัวหน้ากรมใหญ่ตำรวจ กระทรวงป้องกันความสงบ สปป.ลาว
โดยเมื่อวันที่ 9 ต.ค. 65 เวลาประมาณ 05.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านเป็ด จ.ขอนแก่น ได้รับแจ้งเหตุพบศพนายพนม ทิพย์รัตนมงคล อายุ 40 ปี ถูกยิงบริเวณด้านหลังทะลุหน้าอก 1 แผล พบรอยกระสุนปืนบริเวณโคนอวัยวะเพศ 2 แผล มือซ้ายกำสร้อยคอรูปพรรณน้ำหนัก 1 บาท มือขวากำพระเลี่ยมทอง นอนเสียชีวิตบริเวณทางเข้าสนามบินขอนแก่น หลังเกิดเหตุ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.ดำเนินการควบคุมการสืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีโดยเร็ว
จากการสืบสวนของตำรวจทราบว่า นายพันธรัตน์ และนายจิราวุฒิ ได้ร่วมกับเพื่อนอีก 3 คนซึ่งถูกจับไปก่อนหน้านี้แล้ว เป็นผู้ก่อเหตุ เนื่องจากขัดแย้งกันเรื่องการซื้อขายรถกระบะหลุดจำนำ โดยนายพนม ผู้ตาย เสนอขายรถกระบะหลุดจำนำให้นายพันธรัตน์ จะมีการโอนเงินค่ามัดจำก่อน 19,000 บาท แต่นายพันธรัตน์อ้างว่าเงินไม่พอ จึงขอเลื่อนนัดส่งมอบรถในวันที่ 9 ต.ค. 65 เมื่อถึงเวลานัด นายพันธรัตน์มากับเพื่อน 5 คน ขับรถฮอนด้า สีขาว มา แล้วได้ลงไปพูดคุยกับนายพนม
จากนั้นนายพันธรัตน์ได้ชักอาวุธปืนออกมายิงนายพนม 3 นัด จนล้มลงเสียชีวิต แล้วนายพันธรัตน์ได้ขับรถกระบะที่นายพนมนำมาหลบหนีไป โดยตำรวจติดตามจับกุมเพื่อนที่มาด้วยได้แล้ว 3 คน ส่วนนายพันธรัตน์และนายจิราวุฒิได้หลบหนีไปยังประเทศลาว จึงได้ประสานความร่วมมือทางการลาวติดตามจับกุมผู้ต้องหาทั้งสองรายไว้ได้ และนำมาส่งมอบให้ตำรวจไทยในครั้งนี้
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า คดีนี้แสดงให้เห็นถึงความร่วมมืออันดีระหว่างสองประเทศไทย-ลาว ที่พร้อมจะให้ความร่วมมือกันในการปราบปรามคดีอาชญากรรม อาชญากรต่างๆ ที่หลบหนีไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ไม่ละเลยได้มีการติดตามจับกุมมาดำเนินคดีเพื่อสร้างความมั่นใจให้ประชาชน
ด้าน พลจัตวา แก่นจัน พมมะจัก รองหัวหน้ากรมใหญ่ตำรวจ กระทรวงป้องกันความสงบ สปป.ลาว กล่าวเพิ่มเติมว่า คดีอาชญากรรมที่ส่งผลและก่อให้เกิดปัญหาต่อการดำรงชีวิตของประชาชนทั้งไทยและลาว ดังนั้นต้องแก้ไขปัญหาเพื่อให้เกิดความสงบสุขแก่ประชาชน ความร่วมมืออันดีระหว่างไทย-ลาวเป็นไปด้วยดี จะไม่มีที่ให้อาชญากรได้หลบซ่อนนับแต่นี้ไป