xs
xsm
sm
md
lg

เตือนภัยร้านขายมือถือ มิจฉาชีพหลอกจำนำ อาศัยช่วงเผลอเชิดเงินหนี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ภาพจากกล้องวงจรปิดขณะคนร้ายเข้ามาในร้าน
ศูนย์ข่าวขอนแก่น - เตือนภัยโจรออกอุบายจำนำมือถือ 1,500 บาท ก่อนจะขอใช้โทรศัพท์เครื่องที่จำนำก่อนหน้าโทร.หาที่บ้าน อาศัยช่วงลูกค้าเข้าร้านหลบหนี เชิดเงินจำนำและโทรศัพท์หนี ทิ้งกระเป๋าพร้อมเอกสารสำคัญไว้ คาดไม่ใช่ของคนร้าย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดเหตุมิจฉาชีพออกอุบายขโมยโทรศัพท์มือถือจากร้านเบนซ์มือถือ สาขาถนนกลางเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น โดยภาพจากกล้องวงจรปิด สามารถบันทึกภาพคนร้าย เป็นชาย นำโทรศัพท์มือถือยี่ห้อ Oppo A16 มาจำนำที่ร้านในราคา 1,500 บาท ช่วงเวลา 10.00 น. ของวันที่ 20 พ.ย. 65 ต่อมาเมื่อเวลา 15.00 น. วันเดียวกัน คนร้ายได้กลับเข้ามาอีกครั้ง โดยออกอุบายว่าขอใช้โทรศัพท์โทร.หาที่บ้านสักครู่เดี๋ยวคืนให้




จากนั้นพนักงานร้านที่เป็นพนักงานใหม่ ได้นำโทรศัพท์ที่จำนำให้คนร้ายใช้โทร. ทั้งคนร้ายจะขอบุหรี่ 1 มวน โดยพนักงานร้านได้เดินตามไปทุกครั้งเพราะกลัวหลบหนี จากนั้นคนร้ายได้ทำทีเหมือนคุยโทรศัพท์นานกว่า 1 ชั่วโมง จากนั้นมีลูกค้าคนอื่นเข้ามา คนร้ายอาศัยช่วงที่พนักงานไปต้อนรับลูกค้า หลบหนีไป โดยทิ้งกระเป๋าสะพายข้าง และเอกสารบัตรประจำตัวประชาชนของเด็ก เงินสด 20 บาท และสร้อยคอทองคำ (ปลอม) 1 เส้น และกุญแจทิ้งไว้ เพื่อเป็นหลักฐาน

นายธีรเมธ ศรีจันทร์ อายุ 26 ปี เจ้าของร้านเบนซ์มือถือ กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นวันที่ 20 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยพนักงานร้านได้รับเครื่องไว้ ขอบัตรประจำตัวประชาชนทำข้อมูล ทราบชื่อต่อมาคือนายสันติสุข ถามูลเลิศ ที่อยู่เลขที่ 158 ม.3 ต.หัวหนอง อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น จากนั้นพนักงานร้านได้โทร.หาตามเบอร์ที่ให้ไว้ ก็มีคนรับสายปฏิเสธว่าไม่ทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้น แต่พนักงานยืนยันว่าเป็นเสียงของนายสันติสุขจริงๆ เพราะจำน้ำเสียงลักษณะการพูดคุยได้

เจ้าของร้านได้ไปสอบถามร้านลักษณะเดียวกันละแวกใกล้เคียงก็ทราบว่าคนร้ายทำลักษณะนี้มาแล้วหลายร้าน พฤติกรรมคือ นำจากร้านนี้ไปจำนำอีกร้าน และแวะเวียนไปทั่วเมืองขอนแก่น ส่วนกระเป๋าและกุญแจรถ สร้อยคอทองคำปลอมที่ทิ้งไว้ คาดว่าไม่ใช่ของคนร้ายแน่นอน เพราะจากพฤติกรรมไม่ได้สนใจในเอกสารคือบัตรประจำตัวของเด็กชาย ถ้าเป็นพ่อของเด็กจริงคงกลับมาเอาเอกสารและใส่ใจในเอกสารทั้งหมดที่อยู่ในกระเป๋า


“ภายหลังเกิดเหตุ ผมไม่ได้ติดใจเอาความ เพราะช่วงนี้คิดว่าคนตกงานเยอะ เลยอยากทำบุญ ถือว่าเป็นบุญใหญ่ เพราะเสียรู้ไป 1,500 บาท ต่อจากนี้ผมจะได้เข้มงวดในการรับฝาก และแจ้งพนักงานให้เข้มงวดและระวังให้มากกว่านี้ และอยากแจ้งเตือนร้านค้าในลักษณะเดียวกัน เฝ้าระวังหากมีบุคคลลักษณะดังกล่าวเข้าไปใช้บริการด้วย” นายธีรเมธกล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น