สมุทรสงคราม - คนร้ายบุกเดี่ยวชิงสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 3 บาท มูลค่า 90,000 บาท ที่ร้านทองร้านคูเม่งเฮง 2 ใจกลางตลาดแม่กลอง ขึ้นจักรยานยนต์รับจ้างหลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้เวลา 3 ชม.ตามรวบตัวทันควัน
วันนี้ (7 พ.ย.) ร.ต.อ.วรบูรณ์ บุญมาก พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรสงคราม ได้รับแจ้งคนร้ายชิงทรัพย์สร้อยคอทองคำ เหตุเกิดร้านห้างทองคูเม่งเฮง 2 เลขที่ 685/10 ถนนประสิทธิ์พัฒนา ใจกลางตลาดสดแม่กลอง เขตเทศบาลเมืองสมุทรสงคราม จึงไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ศยาม อินทร์สุวรรณโณ ผกก.สภ.เมืองสมุทรสงคราม และชุดสืบสวน
พบนางพรทิพย์ คณิตคุณาภรณ์ อายุ 62 ปี เจ้าของร้านทองให้การว่า คนร้ายเป็นชายอายุประมาณ 30-40 ปี สูง 170 เซนติเมตร ผิวดำแดง รูปร่างค่อนข้างท้วม สวมเสื้อลายสกอตสีเขียว กางเกงขาสั้นสีดำ สวมรองเท้าแตะ สะพายกระเป๋าคาดอกสีไข่ไก่ สวมหมวกและใส่หน้ากากอนามัยปิดบังใบหน้า มาเพียงคนเดียว ทำทีขอดูสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 3 บาท บอกว่าจะซื้อไปให้แม่ ตนเองดูท่าทีเหมือนลูกค้าปกติทั่วไป ไม่มีพิรุธอะไร จึงนำสร้อยคอทองคำมาให้คนร้ายเลือกดู 3-4 เส้น
จากนั้นคนร้ายได้เลือกลายและพูดคุยด้วยสักครู่ จึงออกไปยืนโทรศัพท์ใกล้ประตูหันหน้าออกนอกร้านเหมือนพยายามจะมองดูลาดเลาว่ามีผู้คนพลุกพล่านหรือไม่ และดูช่องทางหลบหนีอยู่นาน 2-3 นาที คนร้ายรอจนเจ้าของร้านเผลอไปหยิบของ เมื่อสบโอกาสจึงหันมาคว้าสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 3 บาท 1 เส้น มูลค่า 90,000 บาทเศษ วิ่งหลบหนีออกนอกร้านเข้าซอยด้านหลังธนาคารกรุงไทยแล้วเดินอย่างใจเย็นไปออกบริเวณหน้าห้างทวีกิจ ระยะทางห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 250 เมตร แล้วขึ้นจักรยานยนต์รับจ้างคิวหน้าห้างทวีกิจหลบหนี โดยใช้เวลาก่อเหตุครั้งนี้ประมาณ 10 นาที
หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจไล่ดูกล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ และสอบถามวินจักรยานยนต์ บอกว่าคนร้ายนั่งซ้อนท้ายให้ไปส่งที่ห้างบิ๊กซี ริมถนนพระราม 2 พื้นที่ ต.บางแก้ว อ.เมืองสมุทรสงคราม เจ้าหน้าที่ตำรวจตามไปแต่ไม่พบตัว จึงสอบถามร้านทองในห้างบิ๊กซี ทราบว่า มีชายสูงวัยเอาสร้อยคอทองคำหนัก 3 บาทมาขาย ทางร้านให้ราคา 82,070 บาท เพิ่งออกจากห้างก่อนที่ตำรวจจะมาถึง เจ้าหน้าที่จึงไล่กล้องวงจรปิดพบว่าคนร้ายนั่งจักรยานยนต์รับจ้างไปที่หมู่บ้านทรง ซอย 1 ต.ลาดใหญ่ อ.เมืองสมุทรสงคราม จึงไปตรวจสอบจนทราบว่าคนร้ายรายนี้ คือ นายปรีชา กองทอง อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 95/25 ในซอยดังกล่าว จึงตามไปควบคุมตัวไว้ได้
เบื้องต้น สอบสวนนายปรีชา ให้การรับสารภาพว่า มีอาชีพรับจ้างเย็บผ้า ก่อนหน้านี้ตนกู้ยืมเงินจำนวนหนึ่งมาซื้อจักรเย็บผ้าร่วมทำกับพี่ๆ น้องๆ ช่วงโควิดระบาดรายได้ไม่พอใช้ หนี้สินจึงเพิ่มขึ้น จึงต้องการเงินไปใช้หนี้ที่เจ้าหนี้ทวงถาม ทำให้ตนเครียด การก่อเหตุครั้งนี้ไม่ได้มีการวางแผนมาก่อน ตนมาหาซื้ออุปกรณ์เย็บผ้าที่ตลาดแม่กลองเดินผ่านร้านทองจึงตัดสินใจชั่ววูบเพราะต้องการเงินไปใช้หนี้ประมาณ 4-5 หมื่นบาท หลังก่อเหตุรีบเอาทองไปขายเพื่อจะเอาไปใช้หนี้ แต่เจ้าหน้าที่จับกุมได้เสียก่อน หลังจากนั้นตำรวจนำตัวนายปรีชา ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่ร้านทองทันที ก่อนควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรสงคราม ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป