อุดรธานี - ผบ.เรือนจำกลางอุดรธานี ชี้แจงกรณีหนุ่มวัย 49 ปีอดีตพัศดีถือปืนขู่พ่อค้าเป็ดย่าง ยืนยันตำแหน่งจริงไม่ใช่พัศดีเป็นแค่อดีตผู้คุมเรือนจำเท่านั้น ล่าสุดโอนย้ายไปสังกัดเทศบาลนครอุดรธานี ย้ำไม่เกี่ยวข้องกับเรือนจำกลางอุดรธานีแล้ว
จากกรณีเพจอยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทิร์น part 5.2 ได้โพสต์คลิปเหตุเกิดที่หน้าห้างโลตัส อุดรธานี ผู้ชายในคลิปพยายามพกปืนมายิงครอบครัวพ่อค้าเป็ดย่างด้วยความอุกอาจต่อหน้าต่อตาผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมา มีพยานนับร้อย โดยพ่อค้าเป็ดย่างใจเด็ดเข้าล็อกตัวชายคนดังกล่าว แล้วเขี่ยปืนทิ้งออกไปจากตัว ก่อนจะมี รปภ.ของห้างมาช่วยกันจับเอาไว้ได้
เรื่องราวนี้เกิดขึ้นหลังจากนายอดุลย์ วีรวัฒนา อายุ 52 ปี พ่อค้าเป็ดย่าง และลูกชายถูกชายคนนี้ติดตามตัวและขู่คนในครอบครัวขอให้ยุติเรื่องรถเฉี่ยวกันไม่เอาเรื่องราว ก่อนหน้านี้พ่อค้าเป็ดย่างได้เกิดอุบัติเหตุรถเฉี่ยวชนกับนายสุเทพ คู่กรณี และพากันไปตกลงค่าเสียหายที่ สภ.เมืองอุดรธานี แต่นายสุเทพกลับโทรศัพท์ชวนเพื่อนมาด้วย คือนายสมชาย หรือมดแดง อายุ 49 ปี อดีตเป็นพัศดีที่เรือนจำกลางอุดรธานี ขอโอนย้ายไปสังกัดสำนักช่างเทศบาลนครอุดรธานี สภาพของนายสมชายมาด้วยอาการเมา พร้อมข่มขู่นายอดุลย์พ่อค้าเป็ดย่าง โดยพกปืนเหน็บเอวมาถึงร้านเป็ดย่างในห้างโลตัส สาขาตลาดรังษิณาหวังจะข่มขู่ แต่พ่อค้าเป็ดย่างไหวตัวทันล็อกตัวนายสมชายไว้ได้
กรณีดังกล่าวหลังจากตำรวจสายตรวจ สภ.เมืองอุดรธานีได้จับกุมตัวนายสมชาย และได้ประกันตัวออกมาโดยมีรุ่นพี่ทำงานที่เรือนจำกลางอุดรธานีใช้ตำแหน่งประกันตัวออกมาในวงเงิน 100,000 บาท ทำให้พ่อค้าเป็ดย่างและครอบครัวต่างพากันวิตกกังวลกลัวไม่ได้รับความปลอดภัย จึงร้องเรียนสื่อมวลชน
เบื้องต้นนายธนดร พุทธรักษ์ นายกเทศมนตรีนครอุดรธานี ทราบเรื่องแล้ว จะมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยทันที ขณะที่ พ.ต.อ.จามร อันดี ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี เปิดเผยว่า คดีนี้ตำรวจได้แจ้ง 3 ข้อหา คือ พกพาอาวุธปืนติดตัวไปในหมู่บ้านทางสาธารณะโดยไม่มีใบอนุญาต มีอาวุธปืนติดตามตัวตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน และขับขี่ยานพาหนะในขณะเมาสุรา และหากผู้เสียหายหวั่นไม่ปลอดภัยจะมีตำรวจสายตรวจไปตรวจที่บ้านให้ตลอด หรือหากไม่ได้รับความเป็นธรรมร้องเรียนมายัง ผกก.สภ.เมืองอุดรธานีได้
ล่าสุดวันนี้ (23 พ.ย.) ที่เรือนจำกลางจังหวัดอุดรธานี นายภัทรพงศ์ หมวกสกุล ผู้บัญชาการเรือนจำกลางอุดรธานี ออกมาเปิดเผยเรื่องดังกล่าวว่า กรณีมีข่าวผู้ก่อเหตุเกี่ยวข้องกับเรือนจำกลางอุดรธานี ขอชี้แจงว่าคนก่อเหตุเคยเป็นเจ้าหน้าที่เรือนจำ เคยทำงานที่ จ.ยะลา ย้ายมาที่เรือนจำกลางอุดรธานีเมื่อประมาณ 5-6 ปีที่แล้ว ตำแหน่งไม่ใช่พัศดี เป็นเพียงผู้คุมในเรือนจำเท่านั้น แต่ปลายเดือนที่ผ่านมาทางผู้ก่อเหตุได้ขอย้ายโอนไปเป็นช่างไฟฟ้าปฏิบัติการ สังกัดเทศบาลนครอุดรธานี ไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่ฯ ของเรือนจำแล้ว
“ส่วนกรณีที่มีการกล่าวอ้างเกี่ยวกับเรือนจำ หากเป็นเจ้าหน้าที่เรือนจำไปทำแบบนั้น ถือว่าสร้างความเสียหายและเป็นเรื่องจริยธรรม ขอเรียนว่าผู้บังคับบัญชาได้กำชับตลอดว่า อย่าทำเรื่องไม่ถูกต้อง ทุกเช้าจะประชุมเจ้าหน้าที่ทุกวัน ทุกวันนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน สื่อโซเชียลเยอะ เราเป็นข้าราชการต้องยึดถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด เมื่อข่าวออกมาไม่ถูกต้องแบบนี้ ได้นำเรียนผู้บังคับบัญชาเพื่อขอชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้นว่า ขอยืนยันผู้ก่อเหตุไม่ใช่พัศดี เป็นอดีตผู้คุมเรือนจำ และเมื่อย้ายไปสังกัดหน่วยอื่นก็ถือว่าไม่เกี่ยวข้องกับทางเรือนจำแต่อย่างใด” ผู้บัญชาการเรือนจำกลางอุดรธานีกล่าว
ล่าสุดผู้สื่อข่าวสามารถติดต่อนายสมชาย ผู้ก่อเหตุได้แล้ว อยากจะชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ยังไม่สะดวกให้ข้อมูลแจ้งว่าตอนนี้ป่วยอยู่ เมื่อพร้อมเมื่อไหร่จะให้ข้อมูลแก่นักข่าวอีกครั้ง