ร้อยเอ็ด - ใกล้จบแล้ว! ดรามาอลเวงเมียเชิดเงินรางวัลที่ 1 หนีตามชายชู้ยอมกลับบ้าน พร้อมคืน 3.1 ล้านที่เหลือและไล่ผัวออกจากบ้าน อย่างไรก็ตามยังเป็นที่กังขาเงินกว่า 3.1 ล้านบาทยังเหลืออยู่ในบัญชีหรือไม่ต้องรอวันจันทร์ ด้านอดีตผัวยังไม่ยอมถอนแจ้งความจนกว่าจะได้เงินคืน และหากได้เงินคืนก็พร้อมจะเข้ากรุงหางานทำเลี้ยงชีพตามลำพัง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 09.30 น. วันนี้ (20 พ.ย.) นางอังคนารัตน์ กลั่นมณี อายุ 45 ปี ซึ่งเป็นภรรยาที่อยู่กินมากันมา 26 ปี กับนายมะนิช ปราณี อายุ 49 ปี ที่หนีไปจากบ้านไปกับชายคนใหม่พร้อมกับสมุดบัญชีเงินฝาก ได้เดินทางกลับมาบ้านที่บ้านคางฮุง ม.5 ต.ธวัชบุรี อ.ธวัชบุรี จ.ร้อยเอ็ด แล้วหลังรู้ข่าวว่านายมะนิชได้แจ้งความจับ
โดยทั้งนายมะนิชและนางอังคนารัตน์พร้อมลูกอีก 2 คนได้เดินทางไปยังสถานีตำรวจภูธรธวัชบุรี เพื่อทำบันทึกถ้อยคำไว้เป็นหลักฐานว่านางอังคนารัตน์จะคืนเงิน 3.1 ล้านบาทที่ยังเหลือในบัญชีให้นายมะนิช และหลังจากคืนเงินแล้วจะขอแยกทางกับสามี ไม่ให้อยู่ในบ้านอีกต่อไป ต้องออกจากบ้านภายใน 3 วันโดยไม่มีเงื่อนไข หากย้อนเข้ามาถือว่าบุกรุก นางอังคนารัตน์จะแจ้งความดำเนินคดีทันที
นางอังคนารัตน์บอกว่าเงินจำนวนที่เหลือในบัญชี 3.1 ล้านบาทนั้น ตนจะแบ่ง 3 ส่วน ให้สามี และลูก 2 คน (เพราะคนโตเรียนจบมีครอบครัวแล้ว ได้เงินไปแล้ว 2 แสนบาท) คนที่จะได้รับใหม่ คือคนเล็ก 1 ล้านบาท คือ ด.ญ.อัจฉริยรัตน์ ปราณี อายุ 11 ขวบ และลูกคนกลาง นายอัฐพล ปราณี 500,000 บาท และให้นายมะนิช 1 ล้าน 6 แสนบาท รวมเป็น 3.1 ล้านบาท และของทวงคืนทองรูปพรรณ สร้อยคอ แหวน หนัก 2 บาทที่ตนซื้อให้นายมะนิชก่อนหน้านี้คืนด้วย
สำหรับการมอบเงินให้ลูกสาวคนเล็ก ตกลงกันภายในข้อกำหนดว่าจะให้เบิกเงินมาใช้ได้เมื่อลูกสาวอายุถึง 20 ปีบริบูรณ์ ส่วนลูกชายที่เรียน ม.6 ก็กำหนดว่าสามารถเบิกเงินมาใช้ได้เมื่ออายุถึง 25 ปีแล้วเท่านั้น
ด้านนายมะนิชกล่าวว่า ตามข้อตกลงดังกล่าวนั้นตนพอใจ เพราะจะได้เงินกลับมาให้ลูกเรียนหนังสือ และเงินส่วนที่ตนเองได้ก็จะเอาไปลงทุนส่วนตัว ซึ่งยอมรับเงื่อนไขที่ให้ออกจากบ้าน เพื่อให้ลูกอยู่กับแม่ที่บ้านเพื่อความสบายใจ
ส่วนตนเองก็จะออกจากบ้านไปหางานทำที่ กทม.เพื่อหาอาชีพเลี้ยงตนเอง และยืนยันว่าทุกอย่างทำด้วยความรักภรรยา รักครอบครัว ส่วนการจะมีการคืนดีกันหรือไม่นั้น ขอให้เป็นเรื่องของอนาคต หากภรรยาอภัยให้ ก็จะขอกลับมา
อย่างไรก็ตาม นางอังคนารัตน์กล่าวชี้แจงยืนยันว่าไม่ได้หนีออกจากบ้านไปกับผู้ชาย ไปคนเดียวโดยไม่มีใครไปด้วย และไม่มีเรื่องชู้สาว แค่ไม่พอใจที่สามีชอบดุด่า แถมยังถูกลูกชายพูดจาด้วยไม่ดี จึงหนีไปทำใจ นำเงินที่ถูกรางวัลไปทำบุญ และจะเข้าวัดไปนุ่งขาวห่มขาว สะเดาะเคราะห์ แต่กลับถูกใส่ร้าย และถูกนายมะนิชแจ้งความจับ
“ฉันจะขออยู่ที่บ้านกับลูก และ จ.ส.อ.เทิดศักดิ์ ปิ่นมณี อดีตทหารนอกราชการที่พิการ ซึ่งจดทะเบียนด้วยอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งฉันเป็นคนคอยดูแลแลกกับการนำเงินบำนาญมาให้ฉันใช้จ่ายในครอบครัว ขอยืนยันว่าไม่มีชายอื่นโดยเด็ดขาด” นางอังคนารัตน์บอก
