อุทัยธานี - แม่ค้าสาวบ้านไร่ เมืองอุทัย ถึงกับช็อก..เจอแก๊งคอลเซ็นเตอร์อ้างเป็น จนท.สรรพากร โทร.ลวงโหลดแอปฯ แก้ข้อมูลเสียภาษีก่อนแฮกมือถือดูดเงินสดจากบัญชีเกือบล้านเกลี้ยงไม่พอ สวมรอยโอนเงินกู้บัตรเครดิตจนเต็มวงเงิน แค่ 2 นาทีสูญไปกว่า 2,300,000 บาท
วันนี้ (2 พ.ย. 65) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านรายหนึ่งในพื้นที่ อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี ว่าถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกโอนเงินในบัญชีธนาคารไปจนเกลี้ยงบัญชี ซ้ำยังเข้าไปทำธุรกรรมกู้เงินของธนาคารอีก สูญเงินไปกว่า 2,263,778.55 บาท ทำให้ตอนนี้ทุกข์ใจหนักมาก สูญเงินหมดตัวและยังต้องเป็นหนี้ธนาคารอีกล้านกว่าบาท จึงเดินทางไปสอบถามเรื่องราว
นางสาวดวงพร พันธ์เขียน อายุ 35 ปี ชาวบ้านหมู่ที่ 4 ต.คอกควาย อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี เล่าว่า เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. ของวันที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมามีโทรศัพท์อ้างเป็นเจ้าหน้าที่จากกรมสรรพากร โทร.มาแจ้งว่าร้านขายส่งเหล้า-บุหรี่ของพ่อตนที่อยู่ในพื้นที่ อ.ลานสัก ยังคาอยู่ในระบบ ซึ่งร้านดังกล่าวเป็นร้านเก่าที่พ่อของตนปิดไปแล้ว ตนก็บอกไปว่า..ร้านนั้นปิดไปนานแล้วนะ
แต่ทางแก๊งคอลเซ็นเตอร์ก็แจ้งกลับมาว่ามันยังอยู่ในระบบ ให้ตนเข้าไปกรอกรายละเอียดในระบบเพื่อให้ทางกรมสรรพากร ดึงข้อมูลร้านค้าเก่าออกให้ ซึ่งตอนนั้นตนก็แจ้งไปว่า..ร้านนั้นมันเป็นชื่อพ่อนะ ต้องให้พ่อเป็นคนทำมั้ย..มิจฉาชีพแก๊งคอลเซ็นเตอร์ก็แจ้งกลับมาว่า ให้ตนเองทำได้เลย เพราะตนเป็นคนไปเสียภาษีแทนพ่ออยู่แล้ว
“พอแก๊งคอลเซ็นเตอร์พูดแบบนี้ ซึ่งก็ตรงกับข้อมูลคือฉันจะเป็นคนไปเสียภาษีให้กับพ่อตลอด จึงทำให้เชื่อว่าเป็นเจ้าหน้าที่กรมสรรพากรจริงๆ จึงสอบถามไปว่า แล้วต้องทำอย่างไร เขาก็ว่าให้แอด Line ก็ขึ้นเป็นรูปสัญลักษณ์กรมสรรพากร ทำให้ฉันยิ่งเชื่อเข้าไปอีก จากนั้นในไลน์ก็จะมีลิงก์มาให้เรากดเข้าไปโหลดแอปพลิเคชัน ซึ่งปลายสายอ้างว่าเป็นแอปฯ ที่ต่อไปสรรพากรจะทำธุรกรรมผ่านแอปพลิเคชัน ไม่ต้องไปถึงที่สำนักงาน ในเมืองทำกันแบบนี้หมดแล้ว ซึ่งคำพูดนี้ดันไปตรงกับคำพูดของเจ้าหน้าที่ในกรมสรรพากรเคยพูดกับเราตอนไปเสียภาษีเมื่อครั้งที่ผ่านมา”
หลังจากโหลดแอปฯ ดังกล่าวเข้ามือถือแล้ว แก๊งคอลเซ็นเตอร์ก็แจ้งให้เราเข้าไปกรอกรายละเอียดเข้าใช้งาน ซึ่งข้อมูลที่ให้กรอกนั้นก็มีแค่ ชื่อ นามสกุล และเบอร์โทรศัพท์ ซึ่งเบอร์ที่ตนกรอกไปก็ไม่ใช่เบอร์ที่ใช้ผูกกับบัญชีธนาคารด้วยซ้ำ แต่เป็นเบอร์ที่แจ้งไว้กับกรมสรรพากรเวลาไปจ่ายภาษี จึงทำให้นอนใจว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร และทางนั้นก็ไม่ได้ขอเลข 13 หลัก หรือข้อมูลอะไรเพิ่มเลย
กระทั่งกรอกรายละเอียดเสร็จ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ก็ถามเราว่ายังอยู่ที่หน้าจอมั๊ย เข้าทำในระบบไม่ได้ใช่มั๊ย ก็ตอบว่าใช่ต้องทำอย่างไร ทางนั้นก็บอกให้แคปฯ ภาพหน้าจอให้ดู พอแคปฯ หน้าจอส่งไป ทางนั้นก็แจ้งกลับมาว่า ให้เข้าไปที่ตั้งค่าภายในเครื่องและอนุญาตให้เข้าถึงแอปฯ ที่ไม่รู้จัก และระบบของซัมซุงอินเทอร์เน็ต พอทำตามที่แจ้งไปแล้วนั้น หน้ามือถือของตนก็ขึ้นรหัสหน้าแอปพลิเคชันดังกล่าวมา 6 หลัก เขาก็ให้เราแจ้งว่ามีเลขอะไรบ้าง พอแจ้งไปทางนั้นก็ตอบว่ารอก่อนนะ กำลังทำการดึงข้อมูลออกให้ ให้รอสักประมาณ 20 นาที แล้วเข้าไปเช็กดูว่าเรียบร้อยมั้ย
หลังจากนั้นมือถือตนเองก็ทำอะไรไม่ได้อยู่สักพัก ประมาณ 2 นาที แล้วก็ค้างอยู่หน้าแอปพลิเคชันนั้นซึ่งขึ้นว่า..กำลังตรวจสอบข้อมูล ชื่อ-นามสกุล ซึ่งมือถือค้างอยู่พักใหญ่ตนก็เริ่มใจไม่ดีแล้ว จึงพยายามกดมือถือจนกลับมาใช้งานปกติได้ ก็รีบเข้าไปดูเงินในบัญชีธนาคารทันที ก็พบว่าเงินที่มีอยู่ในบัญชีธนาคารทีเอ็มบีธนชาต 932,801 บาท ซึ่งเป็นเงินที่ใช้หมุนเวียนขายของนั้นหายไปเกลี้ยงบัญชี
นอกจากนั้น ยังพบว่าเงินในบัญชีธนาคารกสิกรไทย ซึ่งเป็นเงินที่ใช้กู้ลอยไว้ผ่านบัตรเครดิต เพื่อเอาไว้ใช้ฉุกเฉินเวลาลงของ ซึ่งไม่ค่อยได้ดึงมาใช้เพราะเสียดอกค่อนข้างสูง แก๊งคอลเซ็นเตอร์ก็ได้แปรจากเงินกู้เป็นเงินสดโอนเข้าบัญชีของตน ก่อนทำการโอนไปที่บัญชีอื่นทันที รวม 2 ยอด ครั้งแรก 994,977.4 บาท ครั้งที่สองอีก 336,000 บาท ซึ่งทั้ง 2 ยอดนั้นไม่เคยมีการแจ้งเตือนหรือมีเจ้าหน้าที่ธนาคารโทรศัพท์มาสอบถามเลยว่าเป็นคนทำธุรกรรมหรือไม่
นางสาวดวงพรเล่าอีกว่าหลังรู้ตัวว่าถูกหลอก พอตั้งสติได้ก็รีบโทรศัพท์ไปแจ้งกับเจ้าหน้าที่ธนาคารให้ช่วยอายัดบัญชีดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่ธนาคารได้ทำการตรวจสอบข้อมูลและแจ้งว่าเงินในบัญชีถูกโอนย้ายไปบัญชีต่างธนาคารจนหมดแล้ว ซึ่งเกินอำนาจหน้าที่ของธนาคารที่จะอายัดบัญชีต่างธนาคารให้ได้ และแนะนำให้ตนเองไปแจ้งความเพื่อดำเนินการแทน
ทั้งนี้ ตนได้ไปแจ้งความที่ สภ.ลานสัก ที่อยู่ใกล้ทันที ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็รับแจ้งความและช่วยดูข้อมูลบัญชีเบื้องต้นให้ทันทีเหมือนกัน ซึ่งหลังจากตรวจสอบบัญชีที่ถูกโอนเงินไปนั้นพบว่าเป็นบัญชีม้าของเด็กหญิงอายุ 16 ปี อยู่ในจังหวัดสระบุรี และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ลานสักก็ได้แนะนำให้ไปแจ้งความสถานีตำรวจที่เกิดเหตุเพื่อให้การดำเนินการรวดเร็วกว่า
ต่อมาตนจึงไปแจ้งความที่ สภ.บ้านไร่ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็รับเรื่องแจ้งความ โดยทำการลงเรื่องแจ้งความออนไลน์ เพราะต้องผ่านเจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์ให้เข้ารับเรื่องดังกล่าว โดยตนเองได้คิวรับเรื่องวันที่ 8 พฤศจิกายน 2565 เวลา 08.00 น. ที่ สภ.บ้านไร่
“ตอนนี้ก็ร้อนใจมาก อยากให้เจ้าหน้าที่ช่วยติดตามเงินดังกล่าวให้เร็วที่สุด ยังมีความหวังน้อยนิดว่าจะได้เงินคืนมาบ้าง ทุกข์ใจมากที่ตอนนี้เงินก็หมดตัว และยังต้องเป็นหนี้ธนาคารอีกล้านกว่า ตนเป็นโรคหัวใจด้วย ต้องใช้เงินซื้อยานอกกินรักษาตัว ตอนนี้ทุกข์ใจมากๆ”